@@@ ถูกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว @@@ เหรียญหลวงพ่อเกษม รุ่นเสาร์ห้ามหาลาภ ปี 2537 พร้อมบัตรรับรอง ส่วนราคา ท่านเป็นผู้กำหนดเองครับ *** จัดส่งพระตามรูป รับประกันตามกฎเวป *** ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ บริหารงานโดย พันธุ์ทิพย์ ครับ ชื่อนี้ ไม่มีผิดหวัง รายการวัดใจ มีเรื่อยๆ ฝาก คลิ๊ก !! หลังชื่อด้วยนะครับ
@@@ ถูกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว @@@ เหรียญหลวงพ่อเกษม รุ่นเสาร์ห้ามหาลาภ ปี 2537 พร้อมบัตรรับรอง ส่วนราคา ท่านเป็นผู้กำหนดเองครับ *** จัดส่งพระตามรูป รับประกันตามกฎเวป *** ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ บริหารงานโดย พันธุ์ทิพย์ ครับ ชื่อนี้ ไม่มีผิดหวัง รายการวัดใจ มีเรื่อยๆ ฝาก คลิ๊ก !! หลังชื่อด้วยนะครับ
@@@ ถูกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว @@@ เหรียญหลวงพ่อเกษม รุ่นเสาร์ห้ามหาลาภ ปี 2537 พร้อมบัตรรับรอง ส่วนราคา ท่านเป็นผู้กำหนดเองครับ *** จัดส่งพระตามรูป รับประกันตามกฎเวป *** ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ บริหารงานโดย พันธุ์ทิพย์ ครับ ชื่อนี้ ไม่มีผิดหวัง รายการวัดใจ มีเรื่อยๆ ฝาก คลิ๊ก !! หลังชื่อด้วยนะครับ
ส่วนราคา ท่านเป็นผู้กำหนดเองครับ *** จัดส่งพระตามรูป รับประกันตามกฎเวป *** ผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้วรบกวนฝากข้อความในกล่องข้อความหรือโทร.แจ้งก็ได้นะครับ บริหารงานโดย พันธุ์ทิพย์ ครับ ชื่อนี้ ไม่มีผิดหวัง รายการวัดใจ มีเรื่อยๆ ฝาก คลิ๊ก !! หลังชื่อด้วยนะครับ
พระเดชพระคุณหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระสุปฏิปันโนผู้มีโวหารธรรมอันแหลมคม เป็นเหมือนพี่ชายใหญ่ในสายกรรมฐานของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทฺตโต ท่านเป็นสหธรรมิกกับท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตฺยาคโม ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยเยือกเย็น พูดแต่น้อย รักความสงบเป็นนิตย์ จิตใจใฝ่ในความวิเวกมาก จะเห็นได้ว่าท่านชอบสวดมนต์บท "อรญฺเญ รุกฺขมูเล วา สุญฺญาคาเร วา ภิกฺขโว..." แปลความว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงยินดีการอยู่อาศัยในป่า ในโคนไม้ หรือว่าในเรือนว่าง..." เมื่อหวงปู่ดุลย์นำข้อธรรมที่รู้เห็นไปกราบเรียน ท่านพระอาจารย์มั่นได้กล่าวยกย่องว่า "ถูกต้องดีแล้ว เอาตัวรอดได้แล้ว นับว่าไม่ถอยหลังอีกแล้ว ขอให้ดำเนินตามปฏิปทานี้ต่อไป" และท่านพระอาจารย์มั่นได้กล่าวสรรเสริญให้ปรากฏต่อศิษย์ทั้งหลายว่า "ท่านดูลย์...นี้เป็นผู้มีความสามารถอย่างยิ่ง สามารถมีสานุศิษย์และผู้ติดตามมาประพฤติปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก" ท่านเกิดเมื่อวันอังคารที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๑ ตรงกับวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีชวด ณ บ้านปราสาท ตำบลเฉนียง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เป็นบุตรของนายแดง และนางเงิน ดีมาก ปีพุทธศักราช ๒๔๕๓ อายุ ๒๒ ปี อุปสมบทฝ่ายพระมหานิกาย ณ พัทธสีมา วัดจุมพลสุทธาวาส จังหวัดสุรินทร์ โดยมีพระครูวิมลศีลพรต (ทอง) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบึก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูฤทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อบวชแล้ว ได้ฝึกกรรมฐานกับพระอาจารย์ โดยจุดเทียนขึ้น ๕ เล่ม แล้วนั่งบริกรรมว่า "ขอเชิญปีติทั้ง ๕ จงมาหาเรา" ท่านเพียรอยู่ตลอดแต่ไม่ปรากฏผลอันใดเลย วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ เมื่อท่านอายุ ๓๐ ปี ได้เข้าญัตติเป็นคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ณ วัดสุทัศนาราม จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระมหารัฐ รฏฺฐปาโล เป็นพระอุปัชฌาย์ พระศาสนดิลก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ รูปเหมือนหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ครั้นออกพรรษาแรก ท่านกับพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม ได้พากันไปฟังธรรมเทศนาจากท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เกิดความเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง ซาบซึ้งถึงใจในคำพูดของท่านพระอาจารย์มั่น แต่ละคำมีวินัยแปลกดี ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน จึงเพิ่มความสนใจ ใคร่ประพฤติปฏิบัติทางธุดงค์กัมมัฏฐานมากยิ่งขึ้นทุกที ครั้นออกพรรษาแล้วท่านได้ติดตามท่านพระอาจารย์มั่นออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ปรารภความเพียรอย่างอุกฤษฏ์แรงกล้าจนแสงแห่งพระธรรมบังเกิดขึ้น ปีพุทธศักราช ๒๔๖๓ ได้ออกธุดงค์ตามหาท่านพระอาจารย์มั่นไปจนถึงบ้านม่วงไข่ ได้แวะที่วัดโพธิ์ชัย พบท่านอาญาคูดี พระอาจารย์กู่ และพระอาจารย์ฝั้น ได้ออกธุดงค์ติดตามจนพบท่านพระอาจารย์มั่น ที่บ้านตาลโกน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร อัฐิธาตุหลวงปู่ดูลย์ อตุโล อัฐิธาตุและพระธาตุหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระเเท้หายาก พระดี ประสบการณ์สูง พร้อมบัตรรับรอง
พรหมของหลวงพ่อชำนาญจะมีอานุภาพเป็นพระพรหมไม่ไช้เป็นพระเครื่องทั่วไป มีอานุภาพ ดังการเป่ายันต์ 4 อย่าง 1. เป็นเลิศ ทาง “เมตตามหานิยม ” เป็นที่สุด เจ้านายลูกน้องเห็นหน้าเป็นต้องมนต์สะกด เจอหน้าใครมีแต่ความรักให้ 2. แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง กันภัย กันคุณไสย กันผี ลมเพลมพัด อาถรรพ์ต่างๆ 3. เงิน ทอง เร่งโชคลาภให้ไหลมาเทมาง่ายไม่ติดขัด การงานธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายดี เป็นเศรษฐี 4. แก้ดวงไม่ดี ดวงตก ทุกข์โทษภัยจากดวงดาว ราศี พระราหู และ เบญจเพศด้วย หลวงพ่อชำนาญท่านสร้างพระพรหมพิมพ์นี้เป็นพระพรหมกรอบกระจก(เหมือนกรอบรูป)ด้านล่างเป็นพระราหู เรียกว่า “พระพรหมสยบพระราหู” หมายถึงพระพรหมมีอำนาจข่มดวงดาว ราศี สิ่งอัปมงคล อาถรรพ์ ทั้งปวง เสริมดวง บารมี เเก้ปีชง สวยเดิมมากๆ พร้มซองเดิม ปี 2551 หายาก ตอกโค๊ต
ผ้ายันต์พัดโบกหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า รุ่นสรงน้ำ หลังปั๊มยันต์ มีเลขกำกับ หายาก พร้อมบัตรรับรอง
พระขุนแผน หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี กรุวัดโบสถ์เก่า พิมพ์ใหญ่ ปี 2482 เนื้อดินมีเเร่ ตามสูตร หายาก รับประกันตามกฏ
ภาพที่หลวงพ่อคูณ ท่านนมัสการ หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง หลวงพ่อทองดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ รุ่นเสาร์ ๕๙๕ พิธีพุทธาภิเษก ครั้งที่ 1 เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2536 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12-15 เมษายน 2536 มีทั้งหมด 15 พิมพ์ ประวัติ หลวงปู่ทองดำ หลวงปู่ทองดำ นามเดิมชื่อ ทองดำ เม่นพริ้ง เกิดวันพุธ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ. 2441 ที่บ้านไซโรงโขน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร บิดาชื่อ นายบุญนาค มารดาชื่อ นางจ่าย เม่นพริ้ง ยึดอาชีพล่องเรือค้ายาสูบเลี้ยงครอบครัวมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เมื่อเจริญวัยอายุพอสมควรก็เริ่มศึกษาที่วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ กับพระอาจารย์โต เจ้าอาวาสวัดท่าทอง (สมัยนั้น) จนสามารถอ่านออกเขียนได้และติดตามบิดามารดาล่องเรือค้าขายยาสูบระหว่างอุตรดิตถ์ พิจิตรและนครสวรรค์ ระหว่างล่องเรือนั้นเองบิดาพาไปฝากเป็นเด็กวัดเรียนหนังสือกับ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน อริยสงฆ์แห่งเมืองพิจิตร จนเก็บเกี่ยวความรู้เพิ่มเติมได้พอสมควรก็กลับมาช่วยบิดามารดาค้าขายและทำไร่ ทำนา ทำสวน จนอายุครบเกณฑ์ทหารได้รับคัดเลือกเป็นทหารรับใช้ชาติ 2 ปี เมื่อปลดประจำการอายุ 22 ปี ก็อุปสมบท ณ อุโบสถวัดวังหมู ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ โดยมีพระครูวิเชียรปัญญามหามุนี (เรือง) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดท่าถนน ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2463 พระอาจารย์แส เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระกรรมวาจารย์ พระครูดวง เจ้าอาวาสวัดวังหมู เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า “ฐิตวัณโณ” จากนั้นไปจำพรรษาที่วัดท่าทอง 1 พรรษา และย้ายไปจำพรรษาที่วัดท่าถนน 3 พรรษา ต่อมาตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทองว่างลง ญาติโยมกราบอาราธนาให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทองในปี พ.ศ. 2468 จวบจนสิ้นอายุขัย สิริอายุ 107 ปี ระหว่างเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าทอง หลวงปู่ทองดำได้ศึกษาความรู้ด้านปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมตรี ซึ่งระหว่างเรียนหลวงปู่ก็มุ่งมั่นพัฒนาวัดท่าทองไปพร้อม ๆ กันจนเป็นที่เชิดหน้าชูตาทางพุทธศาสนาวัดหนึ่งในอุตรดิตถ์ เมื่อปี พ.ศ. 2504 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเป็น “พระนิมมานโกวิท”และในปี พ.ศ. 2510 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ นอกจากเล่าเรียนทางปริยัติธรรมแล้ว หลวงปู่ทองดำยังสนใจในวิชาโหราศาสตร์ พุทธ คุณและคาถาอาคม โดยช่วงวัยเด็กระหว่างเรียนหนังสือกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ได้ศึกษาวิชาอยู่ยงคงกระพันกับโยมปู่เพื่อป้องกันตัวและในช่วงวัยรุ่นเคยใช้คาถาปลุกจิตใจให้ฮึกเหิมก่อนขึ้นสังเวียนชกมวยด้วย และระหว่างจำพรรษาที่วัดท่าถนนยังไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อทิมวัดกลาง อ.เมืองพิจิตร เกจิชื่อดังเกี่ยวกับ “ตะกรุดโทน” และหลวงพ่อทิมได้เมตตาถ่ายทอดวิชาและมอบตำราไสยเวทต่าง ๆ ให้จนหมดสิ้น ซึ่งหลวงปู่ทองดำได้ใช้วิชาความรู้พัฒนาพุทธศาสนาเรื่อยมา หลวงปู่ทองดำเป็นพระเถราจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กฤตยาคมท่านเป็นพระสุปัฎิปัณโณ ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ผ่านการสะสมบำเพ็ญเพียรบารมี และปฎิบัติวิปัสสนาสมาธิมานานหลายทศวรรษ ตำแหน่งการปกครองและสมณศักดิ์ที่ได้รับตั้งแต่ปี พ.ศ.2468 หลวงปู่มีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์และสมณศักดิ์พัดยศดังนี้ ปีพ.ศ.2468 อายุ 27 ปี พรรษา 5 ดำลงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง ปี พ.ศ.2478 ได้รับสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระธรรมธรฐานานุกรมของพระครูวิเชียรปัญญามหามุณีศรีอุตรดิตถ์ เจ้าคณะอุตรดิถต์ ปี พ.ศ.2482 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะเป็นเจ้าคณะตำบลหาดกรวด-วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์และในปีนั้นได้เลือนสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระปลัดฐานานุกรมของพระครูธรรมสารโกวิทย์ (ยศ)เจ้าคณะแขวงเมืองอุตรดิตถ์ ปี พ.ศ. ได้รับการแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ปี พ.ศ. 2487 ได้รับพระราชทานเป็นพระครูธรรมมาภรณ์ประสาท ปี พ.ศ.2497 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการจังหวัดอุตรดิตถ์ ปี พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชทานคณะชั้นสามัญนาม “พระนิมมานโกวิท” ปี พ.ศ.2510 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ปี พ.ศ.2542 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จวบจนมรณภาพ การศึกษาด้านเวทย์มนต์คาถาอาคม ช่วยวัยเด็กหลวงปู่ได้ติดตามบิดาล่องเรือขายยาสูบระหว่างอุตรดิตถ์ จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ บิดามารดาได้ฝากเป็นเด็กวัด เรียนหนังสือกับหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน จ.พิจิตร คอยรับใช้ใกล้ชิดท่านอนุญาตให้พักกุฎิเดียวกับท่าน หลวงพ่อเงินได้สอนสรรพวิชาอาคมไสยเวทต่าง ๆ คาถาที่หลวงพ่อเงินสอนไว้นั้นที่สำคัญคือ “นะโมพุทธายะ” (พระเจ้าห้าพระองค์) ซึ่งต่อมาหลวงปู่ได้ใช้เป็นคาถาประจำตัวของท่านตลออดมา นอกจากนั้นหลวงปู่ยังได้ศึกษาวิชาอาคมกับโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นวิชาอยู่ยงคงกระพัน เพื่อป้องกันตนเอง หลวงปู่ได้ใช้วิชานี้ปลุกเศกตัวเองก่อนจะขึ้นชกมวยทุกครั้ง โดยก่อนจะขึ้นชกมวยหลวงปู่จะบริกรรมคาถาจนรู้สึกว่าเนื้อเริ่มหน่าขึ้น (ของชึ้น)จึงจะชกได้ กล่าวกันว่า ในช่วงวัยรุ่น หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทองท่านชอบการชกมวยจนได้รับฉายาว่า “ดำ ท่าทาง” เพราะท่านเรียนวิชากับโยมปู่ของท่าน โดยเฉพาะวิชาอยู่ยงคงกระพัน วิชาธนูมือ คือก่อนขึ้นชกมวย ท่านจะท่องคาถา เขียนที่ฝ่ามือเมื่อขึ้นชกจะทำให้มีพละกำลังและคม ทำให้คู่ชกแตกได้ง่าย ระหว่างจำพรรษาที่วัดท่าทองยังไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อทิม วัดกลาง อ.เมืองพิจิตร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเกี่ยวกับตะกรุดโทน และหลวงพ่อทิมได้เมตตาถ่ายทอดวิชาและมอบตำราไสยเวทต่างๆ ให้จนหมดสิ้น ซึ่งหลวงปู่ทองดำ วัดท่าทองได้ใช้วิชาความรู้พัฒนาพุทธศาสนาเรื่อยมา กิตติศัพท์ ความเลื่องลือในปฏิปทาอันแรงกล้าและจริยวัตรอันงดงามของหลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง ขจรขจาย ไปไกลทุกสารทิศ พระเกจิอาจารย์รุ่นหลังหลายรูปให้ความเคารพนับถือในตัวท่าน ต่างเดินทางไปกราบไหว้และสนทนาธรรมอยู่เสมอ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ท่านยังออกปากกับชาวอุตรดิตถ์ที่ไปกราบท่านว่า "หลวงพ่อทองดำที่วัดท่าทองน่ะเก่งกว่าอาตมาอีก ทำไมไม่ไปหา" คำพูดนี้ไม่ใช่คำกล่าวอ้าง แต่ผู้ที่ไปได้ยินกันหลายคน และพากันกลับมาหาหลวงปู่ทองดำ โดยที่หลายคนนั้นไม่เคยรู้จักหลวงปู่มาก่อนเลย เพราะท่าน ฝึกฝน ปฎิบัติธรรมอยู่อย่างเงียบ ๆ ไม่แสดงความพิเศษให้ใครเห็นนอกจากลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ถ้าท่านผ่านไปทางภาคเหนือจะแวะกราบหลวงปู่ทองดำ เสมอ เพราะหลวงปู่ทองดำท่านมี พรรษา มากกว่าหลวงพ่อคูณถึง 20 กว่าปี และหลวงพ่อคูณท่านเคยร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก พระกริ่งและพระเครื่อง รุ่นทอง*คูณ เมื่อ พ.ศ. 2537 ท่านกล่าวกับคณะกรรมการว่า "กูนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสก ร่วมกับหลวงปู่ทองดำ แค่ 5 นาที พลังจิตของท่าน ไปไกล "กู่ตามท่านไม่ทันด๊อก" องค์นี้ สมเด็จ ลาภล พูนทวี หลวงปู่ทองดำ ปี 2536 สวยเดิม เเท้ดูง่าย รับประกันตามกฏ
เนื่องในโอกาสที่ หลวงปู่แผ้ว ปวโร พระเกจิชื่อดังแห่งวัดรางหมัน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สิริอายุวัฒนมงคล 89 ปี ในปี 2554 พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย อดีต ผบช.ตชด. และ ผบช.ภ.2 ได้รับอนุญาต จัดสร้าง วัตถุมงคลเหรียญ รุ่นปราบไพรี เพื่อแจกจ่ายตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเจ้าหน้าที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลวงปู่แผ้ว และทางวัดรางหมันได้อนุญาตอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านเมตตาปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษ เหรียญ รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวของหลวงปู่ที่มีหนุมาน ประสบการณ์มาก ไม่ค่อยพบเจอ เนื่องจากสร้างเเจกทหาร ตำรวจ ทางใต้ด้วย วันนี้วัดใจ พร้อมเลี่ยมทองอย่างดี + บัตรรับรองสบายใจได้ รุ่นนี้มีเก๊ ครับ องค์นี้ (ตอกโค๊ต ปวโร นิยม) หายาก รับประกันตามกฏ