wongthongnithi

ข้อมูลสมาชิก – wongthongnithi

เริ่มเป็นสมาชิก: November 05, 2014 22:01:08 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 1087 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อดิน/5680283


พระกรุวัด เชียงงา อ.บ้านหมี่ จ,ลพบุรี เป็นพระที่สร้างขึ้นสมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันเริ่มหายากมากขึ้น หนังสืออมตะพระกรุก็นำลงรูปไว้และหนังสือตำนานพระกรุเมืองลพบุรี ก็ลงรูปและประวัติ แตกกรุออกมาหลายพิมพ์ครับทั้งสนิมแดง เนื้อชินและเนื้อดินเนื้อดินมีทั้งหลังจารและหลังปั๊มยันต์ รายการวัดใจ10บาทค่ะ พระกรุวัดเชียงงา เนื้อดิน ลพบุรี พร้อมบัตรรับรองค่ะ สนใจขอเชิญค่ะ โอน/เปลี่ยนที่ส่ง รบกวนแจ้งเข้ากล่องข้อความด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ  


เขียนโดย :nattaya เจ้าของรายการ September 27, 2015 11:30:02


เคาะเดียวลุ้น เหรียญพระพุทธชินราช สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ ปี2472 สภาพดี + บัตรรับรองครับ


เขียนโดย :bpmsman เจ้าของรายการ September 27, 2015 11:19:27


สุดยอด เหรีญหล่อโบราณพระพุทธชินราช หลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง ปี2463 สภาพสวย +เลี่ยมทอง+บัตรรับรอง   ปกติเป็นเหรียญหายากอยู่แล้วครับ เหรียญชินราชหลวงพ่อหม่น แถมเหรียญนี้สวยครับ ประกวดมีลุ้นแน่ๆครับ


เขียนโดย :bpmsman เจ้าของรายการ September 27, 2015 11:19:11

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/เครื่องราง-ล็อกเก็ต/5743333


เคาะเดียวลุ้น หมูหลวงพ่อเส็ง วัดบางนา เนื้อตะกั่วชุบทองแดง หายากมากๆครับ


เขียนโดย :bpmsman เจ้าของรายการ September 27, 2015 11:18:51



เขียนโดย :มงคลจักรวาล เจ้าของรายการ September 27, 2015 07:23:07


ขาดทุนราคาวัดแถมกรอบพร้อมแหนบ๑๑๑พระรูปเหมือนสมเด็จพระนเรศวรชุบทองสร้างแจกกรรมการและแขกร่วมพิธีเหรียญพระนเรศวรรุ่น สู้ ปลุกเสกพิธีใหญ่รวบรวมเกจิหลายสิบท่านณวัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวังปีพ.ศ. 2548 จำนวนจัดสร้างไม่มากเนื่องจากจัดทำเป็นทีระลึกสำหรับพิธีเหรียญสู้เท่านั้นดังนี้นพระชุดนี้หลงเหลืออยู่ไม่มากจีงเพิ่มแถมกรอบพร้อมแหนบให้พิเศษพร้อมกล่องพระ สนใจไม่ควรพลาดรับประกันพระแท้พระมีประวัติชัดเจนมีออกมาในสนามบ้างบางส่วนอยู่แล้วจีงไม่ต้องห่วงว่าเป็นพระจับยัดได้จากกรรมการโดยตรง ในปัจจุบันได้มีพระเกจิอาจารย์ ซึ่งมีญาณสมาบัติแก่กล้า ได้กราบทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า ดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้สถิตเป็นองค์พระสยามเทวาธิราช ซึ่งทรงปกป้องคุ้มครองรักษาประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก ณพล บุญทับและ พลโท นนน์เกษม ขำเกษม อัญเชิญ แผ่นโลหะวัตถุมงคล ทอง เงิน และนาค ทูลเกล้าฯ ถวายทรงเจิม ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2548 เวลา 21.49 น. และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญแผ่นวัตถุมงคลดังกล่าว ไปหลอมสำหรับสร้างเหรียญสมเด็จพระนเรศวร มหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป  วันที่ 19 พ.ย. 2548 เวลา 17.19 น.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จเป็นองค์ ประธานใน พิธี มหาชัยมังคลาภิเษก เหรียญสมเด็จพระนเรศวร รุ่น "สู้" ด้านหลังมีพระนามาภิไธย สก.ทรงลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถคำว่า"สู้" ที่วัดพระแก้ว มีพระสงฆ์ มาร่วมพิธีนี้จำนวน 2549 รูป  มีสมเด็จพระมหาธีรจารย์ วัดชนะสงคราม เป็นประธานจุดเทียนชัย มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังๆที่เรารู้จักกัน จำนวน 109 รูป นั่งปรก แบ่งเป็น 6ชุด ชุดที่ 1ถึง ชุดที่ 5 จำนวนชุดละ 20 รูปนั่งปรก ชุดที่ 6 นั่งปรก 9 รูป  มีพระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ รอบพระอุโบสถ จำนวน 2549 รูป  เหรียญนี้จัดสร้างจากพระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ รายได้ ถวายสมเด็จฯ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ 3 จังหวัดชายแดนใต้ตามพระราชดำริฯ เหตุที่นำพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ไทยทรงเป็นนักรบ เพื่อ เป็นขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานที่ภาคใต้...........  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ให้พลเอกณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ จัดสร้างเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุ่น "สู้" เพื่อนำไปพระราชทาน ทหาร ตำรวจราษฏรอาสาสมัครรักษาหมู่บ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทูลเกล้าถวาย นำไปทรงช่วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินบวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และทรงจุดเทียนชัยในพิธีมหาชัยมังคลาภิเษก โดยพระภาวนาจารย์ 108 รูป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ 2,549 รูป ณพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2548 เวลา 17.19 น. นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมีพระราชประสงค์ให้จัดสร้างเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อพระราชทานเป็นขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจและอาสาสมัครที่ปฏิบัติภารกิจในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โปรดเกล้าฯพระราชทานคำขวัญเป็นลายพระหัตถ์ของพระองค์ "สู้"ประทับที่หลังเหรียญและพระราชทานพระนามาภิไธยย่อ สก. ประดิษฐานหลังเหรียญด้วย พระราชพิพัฒน์โกศล เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม.เป็นประธานดำเนินการฝ่ายสงฆ์ พลเอกณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์และผู้อำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระบรมราชินีนาถประธานดำเนินงานฝ่ายฆราวาสและผู้รับพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงจุดเทียนชัย ในพิธีมหาชัยมังคลาภิเษก โดยพระภาวนาจารยืน 108 รูป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จำนวน2,549 รูป ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง วันอาทิตย์ ที่ 11 กันยายน 2548พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศไทยมีโอกาสที่ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน พิธีพุทธาภิเษก วันที่ 19 พ.ย.2548 ที่วัดพระแก้ว มีพิธีบวงสรวง เวลา 9.00 น.เป็นต้นไปมีพระเกจิอาจารย์ ดังๆร่วมพิธีปลุกเสก จำนวน 6รอบ รอบละเกือบร้อยรูป สมเด็จพระราชินีเสด็จเป็นประธานในพิธีเวลา 17.19 น. จำนวนจัดสร้างไม่มากเนื่องจากจัดทำเป็นทีระลึกสำหรับพิธีเหรียญสู้เท่านั้นดังนี้นพระชุดนี้หลงเหลืออยู่ไม่มากจีงเพิ่มแถมกรอบพร้อมแหนบให้พิเศษพร้อมกล่องพระ สนใจไม่ควรพลาดรับประกันพระแท้พระมีประวัติชัดเจนมีออกมาในสนามบ้างบางส่วนอยู่แล้วจีงไม่ต้องห่วงว่าเป็นพระจับยัดได้จากกรรมการโดยตรง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ให้พลเอกณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ จัดสร้างเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รุ่น "สู้" เพื่อนำไปพระราชทาน ทหาร ตำรวจราษฏรอาสาสมัครรักษาหมู่บ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทูลเกล้าถวาย นำไปทรงช่วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินบวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และทรงจุดเทียนชัยในพิธีมหาชัยมังคลาภิเษก โดยพระภาวนาจารย์ 108 รูป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ 2,549 รูป ณพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2548 เวลา 17.19 น. นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมีพระราชประสงค์ให้จัดสร้างเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อพระราชทานเป็นขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจและอาสาสมัครที่ปฏิบัติภารกิจในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โปรดเกล้าฯพระราชทานคำขวัญเป็นลายพระหัตถ์ของพระองค์ "สู้"ประทับที่หลังเหรียญและพระราชทานพระนามาภิไธยย่อ สก. ประดิษฐานหลังเหรียญด้วย ส่วนหนึ่งจะเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงนำไปใช้ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามพระราชอัธยาศัย 1. เหรียญทองคำ สร้างจำนวน 3,999 เหรียญ น้ำหนักประมาณ 1.5 บาท 2. เหรียญเงิน สร้างจำนวน 9,999 เหรียญ 3. เหรียญทองแดงบริสุทธิ์ สร้างจำนวน 999,999 เหรียญ 4. เหรียญสามกษัตรย์สร้างจำนวนจำกัดตามการสั่งจองแจกกรรมการจัดสร้าง พระราชพิพัฒน์โกศล เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม.เป็นประธานดำเนินการฝ่ายสงฆ์ พลเอกณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์และผู้อำนวยการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระบรมราชินีนาถประธานดำเนินงานฝ่ายฆราวาสและผู้รับพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงจุดเทียนชัย ในพิธีมหาชัยมังคลาภิเษก โดยพระภาวนาจารยืน 108 รูป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จำนวน2,549 รูป ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง วันอาทิตย์ ที่ 11 กันยายน 2548พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศไทยมีโอกาสที่ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน พิธีพุทธาภิเษก วันที่ 19 พ.ย.2548 ที่วัดพระแก้ว มีพิธีบวงสรวง เวลา 9.00 น.เป็นต้นไปมีพระเกจิอาจารย์ ดังๆร่วมพิธีปลุกเสก จำนวน 6รอบ รอบละเกือบร้อยรูป สมเด็จพระราชินีเสด็จเป็นประธานในพิธีเวลา 17.19 น. เหรียญสมเด็จนเรศวร มหาราช รุ่น สู้ เนื้อทองแดง จำนวนการจัดสร้าง 999,999 เหรียญ พิธี ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นวีรกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ทรงเป็นยอดนักรบที่เก่งกล้าสามารถมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ได้ทรงกอบกู้เอกราชให้แก่ชาติไทย พระวีรกรรมอันยิ่งใหญ่คือทรงกระทำยุทธหัตถี มีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา ท่ามกลางวงล้อมข้าศึก ณ ยุทธภูมิหนองสาหร่ายสุพรรณบุรี เมื่อ พ.ศ.2135 ทรงแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง ปานประหนึ่งเทพยดาปกป้องคุ้มครอง ปิด ปัดกระสุนปืนไฟ หอก ดาบ แหลน หลาว ธนู หน้าไม้ของข้าศึกที่รุมล้อมพระวรกาย กฤษฎาภินิหารแห่งพระองค์เป็นที่เลื่องชื่อ ศัตรูครั่นคร้ามไม่กล้ารุกรานประเทศไทยนานถึง 150 ปี ในปัจจุบันได้มีพระเกจิอาจารย์ ซึ่งมีญาณสมาบัติแก่กล้า ได้กราบทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า ดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์สมเด็กพระนเรศวรมหาราช ได้สถิตเป็นองค์พระสยามเทวาธิราช ซึ่งทรงปกป้องคุ้มครองรักษาประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชศรัทธาเคารพเทิดทูนพระวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราข ที่ทรงมีความเสียสละ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ทรงนำกำลังทหารออกทำการรบด้วยพระองค์เอง เพื่อป้องกันรักษาผืนแผ่นดินไทยให้เป็นมรดก ตกทอดมาถึงลูกหลานไทยในปัจจุบัน ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าจึงควรรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจึงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดสร้างเหรียญ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชขึ้น และพระราชทานพระนามาภิไธยย่อ "สก." ด้านหลังเหรียญ พร้อมทั้งทรงจารึกลายพระหัตถ์เป็นคำขวัญ "สู้" เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ผู้ปฏิบัติภารกิจปกป้องรักษาประเทศชาติทั้งหลายให้มีจิตใจรุกรบดั่ง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อปกป้องรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และช่วยกันรักษากฎหมายของบ้านเมืองให้มีความศักดิ์สิทธิ์ไม่ปล่อยให้ผู้ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติมาทำร้ายคนบริสุทธิ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เป็นองค์ประธานประกอบพิธีบวงสรวง ดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และทรงจุดเทียนชัยมหามงคลด้วยพระองค์เอง ในการประกอบพิธีมหาชัยมังคลาภิเษกครั้งนี้ ได้อาราธนาพระเกจิอาจารย์ที่ทรงวิทยาคม มีปฏิปทาและมีฌานสมาบัติสูง จากทั่วประเทศ จำนวน 108 รูป และมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา ณ ระเบียงคต รอบพระอุโบสถเป็นจำนวนถึง 2549 รูป เพื่อให้เกิดกฤตานุภาพและมีความศักดิ์สิทธิ์ จะได้เป็นวัตถุมงคลที่ให้ความคุ้มครองป้องกันผู้ที่มีไว้บูชา ให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และประสบความเจริญก้าวหน้า มีโชคลาภ สัมฤทธิผลในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ ชช


เขียนโดย :somkiatthornburi เจ้าของรายการ September 27, 2015 05:30:53


วัดใจกันไป...ให้ไว้บูชา.//// กริ่งสมเด็จย่า7รอบเฉลิมพระชนม์84พรรษาเนื้อนะวะผสมผิวพรายเงินพุทธาภิเษก 23 ตค. 2527 ณ อุโบสถวัดพระแก้ว พิมพ์มหาราชฐานกลีบบัวโดยพระบรมราชานุญาตินำตราสัญญาลักษณ์สมเด็จย่าประทับหน้าฐานขนาดชัยวัฒน์ใต้ฐานอุดกริ่งตอกโค้ดพระชนม์มายุ84พรรษาหลวงพ่อเณรเจ้าคุณชั้นราชวัดศรีสุดารามกรรมการพิธีฝ่ายสงฆ์พิธีใหญ่ รวบรวมพระเกจิสมัยสองพันห้าร้อยยิ่สิบกว่าคับคั่งสร้างน้อยหายากช้าหมดอดได้ พร้อมกล่องพระ 8.007 2102 03 2092 1 2124 2112 13 6


เขียนโดย :somkiatthornburi เจ้าของรายการ September 27, 2015 05:30:45


3กษัตรย์๑๑๑๑๑แสตมป์นะหน้าทองเหรียญเสด็จพ่อร.5หลังยันต์ณะหลวงพ่อเกษมเขมะโกสุสานไตรลักษณ์ลำปาง 15 เมย.2536ชุบ3เคสวยกิปๆขนาดมาตรฐานทันหลวงพ่อเกษมปลุกเสกเอง ออกวัดไม่ได้ทำกล่องพระใส่กล่องธรรมดา พระองค์จริงสวยกกว่าในรูป CC12 5544 45 1 46 47 2 52 53 5 50 51 4 SS 8197 98 2 8207 08 7 09 10 8 11 12 9 ออ102 807 808 1


เขียนโดย :somkiatthornburi เจ้าของรายการ September 27, 2015 05:30:38


หรียญเสด็จพ่อในหลวงรัชกาลที่ ๕ กำลังแผ่นดินด้านหลังหลวงพ่อโต ๕ พี่น้องชุบทองคำ ๓ กษัตรย์ปลุกเสก ๕ พิธีใหญ่ วัดพระแก้ว พศ.2539-40 ออกวัดพระแก้วและวัดเขาตะเครา หลวงพ่อเณร กรรมการจัดสร้าง เจตนาบริสุทธิ์เงินไปทำบุญสร้าง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ปี40และสมทบสร้างวัดโกมุทพุทธรังสี พุทธมณฑลสาย 3 และสร้างอาคารเรียนโรงเรียนวัดหนองบัวทอง สุพรรณบุรี พิธีเดียวกันกับสมเด็จจิตรลดา 2 กำลังแผ่นดิน พระสมเด็จเนื้อว่านกำลังแผ่นดิน รุ่นพิมพ์ใหญ่มวลสารจิตรลดา เฉลิมฉลองปีกาญจนาภิเษก 50 ปี ออกปี39ปลุกเสกวัดพระแก้ว เป็นพิธีที่ 1 ได้รับอนุญาติเข้าพิธีเดียวกัน วัตถุประสงค์เพื่อมอบให้แก่สมทบทุนฃื้อเครื่องมือแพทย์แก่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง 2 ธันวาคม 2539 เวลา 15.19 น.โดยพระภาวนาจารย์ 109 รูปเป็นการรวบรวมเกจิอาจารย์สมัยปี40เกือบทั้งหมดเช่น ลพ.คูณ วัดบ้านไร่ ลพ.หลิว วัดไร่แตงทอง ลพ.พูล ลพ.เปิ่น วัดบางพระ นครปฐม นั่งปรกในวัดพระแก้วและนอกวัดยังมีพระสงฆ์นั่งเจริญขัยคาถาอีกเป็นพันองค์รอบอุโบสถวัดพระแก้วเป็นพิธีที่ 1 และในพิธีที่ 2นำเข้าปลุกเสกพร้อมกันกับเหรียญ พระพุทธเบญจภาคีมหาราช โดยเนื่องในโอกาสมงคลวโรกาสที่สมเด็จพระปิยมหาราชเสด็จประพาสศรีลังกาครบรอบ 100ปี เข้าพิธีมังคลาพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2540 ณ วัดจุฬาลงกรณ์ธรรมศาลา เมืองกอลล์ ศรีลังกา ครั้งที่ 3 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2540 หลังจากนั้นได้นำเหรียญเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีก 5 ครั้งเดินสายปลุกเสกวัดหลวงพ่อโต 5 พื่น้องด้งนี้ 1 หลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา 2 หลวงพ่อวัดไร่ขิง นครปฐม 3 หลวงพ่อวัดบ้านแหลม สมุทรสงคราม 4 หลวงพ่อวัดเขาตะเครา เพชรบุรี 5 หลวงพ่อโต วัดบางพลีใน สมุทรปราการ ฃี่งหลวงพ่อโตอันศักดิ์สิทธิ์ 5 วัดมีประสพการณ์บนท่านจะได้สมปราถนาเป็นที่เลื่องลือเสมอมา ออกให้ราคาวัดขาดทุนสายตรงองค์เสด็จพ่อไม่ควรพลาดพระมีตอกโค้ดพระเก็บไว้ไม่มากพระองค์จริงสวยกว่ารูปรับรองไม่ผิดหวังสนใจเชิญเคาะเดียว ตามตำนานประวัติของ หลวงพ่อโต ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ประมาณกาล ๒๐๐ กว่าปีล่วงมาแล้ว ได้มีพระพุทธรูป ๓ องค์ ปาฏิหาริย์ลงมาจากทางเหนือ ลอยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดมา พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์นี้ เข้าใจว่าปวงชนในกรุงศรีอยุธยาคงอาราธนาท่านลงสู่แม่น้ำเพื่อหลบหนีข้าศึก ด้วยในสมัยนั้นบ้านเมืองได้เกิดสภาวะสงครามขึ้นกับพม่า พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ได้แสดงอภินิหารลอยล่องมาตามลำแม่น้ำและบางครั้งก็แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ผุดให้ผู้คนเห็นตามลำดับ จนเป็นที่โจษจันกันทั่วถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน จนล่วงมาถึงตำบล ๆ หนึ่ง ท่านก็ได้ผุดให้คนเห็นเป็นอัศจรรย์ พวกเหล่าประชาชนในตำบลนั้น ต่างก็พร้อมใจกันทำพิธีอาราธนาท่านขึ้นสู่ฝั่ง ฝูงชนประมาณ ๓ แสนคน ช่วยกันฉุดลากชะลอองค์ท่าน ก็ไม่สามารถนำท่านขึ้นสู่ฝั่งได้ และท่านก็กลับจมลงหายไปในแม่น้ำอีก ยังความเศร้าโศกเสียดายของประชาชนในตำบลนั้นเป็นอย่างยิ่ง ต่อมาตำบลนั้นจึงถูกเรียกชื่อว่า "ตำบลสามแสน" แต่ต่อมาก็ถูกเรียกกลับกลายเป็น "ตำบลสามเสน" มาจนกระทั่งบัดนี้ ...พระพุทธรูปได้ล่องลอยทวนน้ำมาทั้ง ๓ องค์โดยลำดับ ครั้งหนึ่งปรากฏว่าได้ล่องลอยไปจนถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา แสดงอภินิหารปรากฏให้ผู้คนเห็นอีก ประชาชนต่างก็ได้ช่วยกันอาราธนาและฉุดชะลอท่านขึ้นจากลำน้ำ แต่ก็ไม่สำเร็จอีก ...พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ได้ลอยทวนน้ำและจมหายไป ณ ที่แห่งนั้น จึงได้ชื่อว่า "สามพระทวน" แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนเรียกกันอีกเป็น "สัมปทวน" คือ แม่น้ำหน้าวัดสัมปทวน อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ในปัจจุบัน ...พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ท่านล่องลอยผ่าน ณ ที่ใดที่นั่นก็จะมีชื่อเรียกกันใหม่ทุกครั้งดังเช่น ท่านได้แสดงอภินิหารล่องลอยให้ผู้คนเห็นเป็นอัศจรรย์เรื่อยมาในแม่น้ำบางปะกง ผู้คนมากมายพยายามที่จะอาราธนาท่านขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จอีก ณ สถานที่นั้นจึงได้มีชื่อเรียกกันว่า "บางพระ" ซึ่งเรียกว่า "คลองบางพระ" ในปัจจุบัน ...ครั้นต่อมาภายหลังปรากฏว่าพระพุทธรูปองค์หนึ่งไปขึ้นประดิษฐานอยู่ที่ "วัดบ้านแหลม" จังหวัดสมุทรสงคราม และต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกันพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งก็ไปขึ้นประดิษฐานอยู่ที่ "วัดโสธร" จังหวัดฉะเชิงเทรา ...และอีกองค์หนึ่งได้ล่องลอยเรื่อยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา ปาฏิหาริย์ลอยวกเข้ามาในลำคลองสำโรง ประชาชนพบเห็นต่างโจษจันกันไปทั่วถึงความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหาร พร้อมกับพากันอาราธนาท่านขึ้นที่ปากคลองสำโรงนั้น แต่ท่านก็ไม่ยอมขึ้น และในที่นั้นได้มีผู้มีปัญญาดีคนหนึ่งได้ให้ความเห็นว่าคงเป็นเพราะบุญญาอภินิหารของท่าน แม้จะใช้จำนวนผู้คนสักเท่าไรอาราธนาฉุดท่านขึ้นบนฝั่งคงไม่สำเร็จเป็นแน่ควรจะเสี่ยงทายต่อแพผูกชะลอกับองค์ท่าน แล้วใช้เรือพายฉุดท่านให้ลอยมาตามลำน้ำสำโรง และอธิษฐานว่า "หากท่านประสงค์จะขึ้นโปรดที่ใด ก็ขอจงได้แสดงอภินิหารให้แพที่ลอยมาจงหยุด ณ ที่นั้นเถิด" เมื่อประชาชนทั้งหลายได้เห็นพ้องดีกันดังนั้นแล้วก็พร้อมใจกันทำแพผูกชะลอกับองค์ท่าน แล้วใช้เรือซึ่งสมัยนั้นเป็นเรือพายทั้งสิ้นช่วยกันจ้ำพายจูงแพลอยเรื่อยมาตามลำคลอง เรือที่ใช้ลากจูงแพมานั้นมีชื่อแปลกต่าง ๆ กัน เช่น ม้าน้ำ เป็ดน้ำ ตุ๊กแก และอื่น ๆ เป็นต้น และจัดให้มีการละเล่นต่าง ๆ มีละครเจ้ากรับรำถวายมาตลอดทาง และการละเล่นอื่น ๆ ครึกครื้นมาตลอดทั้งลำน้ำ ครั้นแพลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดพลับพลาชัยชนะสงคราม หรือวัดบางพลีใหญ่ใน แพที่ผูกชะลอองค์ท่านก็เกิดหยุดนิ่ง พยายามจ้ำและพายกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง แพนั้นก็หาได้ขยับเขยื้อนไม่ ประชาชนที่มากับเรือและชาวบางพลีถึงกับยินดีและเห็นเป็นอัศจรรย์ยิ่งนักต่างก้มลงกราบนมัสการด้วยความเคารพ และเปี่ยมด้วยสักการะจึงได้พร้อมใจกันอาราธนาตั้งจิตอธิษฐานว่า "ถ้าหลวงพ่อจะโปรดคุ้มครองชาวบางพลีให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขแล้ว ก็ขออาราธนาอัญเชิญองค์ท่านให้ขึ้นจากน้ำได้โดยง่ายเถิด" ...และก็เป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก เพียงใช้คนไม่มากนักก็สามารถอาราธนาท่านขึ้นจากน้ำได้โดยง่าย ทำให้ประชาชนต่างแซ่ซ้องในอภินิหารของท่านเป็นอย่างยิ่ง และได้อาราธนาท่านขึ้นไปประดิษฐานในพระวิหารซึ่งต้องชะลอท่านขึ้นข้ามฝาผนังวิหารเพราะขณะนั้นหลังคาพระวิหารยังไม่มี และประตูวิหารก็เล็กมาก ต่อจากนั้นท่านจึงได้ประดิษฐานอยู่ในวิหารนั้นเรื่อยมา ครั้นต่อมาได้รื้อวิหารนั้นอีกเพื่อสร้างเป็นพระอุโบสถที่ถาวร จึงต้องชะลออาราธนาองค์ท่านมาพักไว้ยังศาลาชั่วคราว จนกระทั่งได้สร้างพระอุโบสถสำเร็จแล้ว จึงได้อาราธนาท่านไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถเพื่อเป็นพระประธานของวัดบางพลีใหญ่ใน การที่ท่านได้พระนามว่า "หลวงพ่อโต" นั้นคงเป็นเพราะองค์ของท่านใหญ่โตสมกับที่ประชาชนเรียก คือใหญ่โตกว่าองค์ที่ลอยน้ำมาด้วยกันทั้ง ๒ องค์ จึงถือเป็นนิมิตอันดีให้ประชาชนพากันถวายนามว่า "หลวงพ่อโต" เป็นสิ่งที่เคารพสักการะของชาวบางพลี และเป็นมิ่งขวัญของวัดบางพลีใหญ่ในมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ ...การที่ลำดับว่าองค์ไหนเป็นองค์พี่ องค์กลาง องค์น้องนั้น และลอยมาพร้อมกันตามตำนานที่สืบต่อกันมา เข้าใจว่าคงจะนับเอาองค์ที่อาราธนาขึ้นจากน้ำได้ก่อนเป็นองค์พี่ ขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๒ เป็นองค์กลาง และขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๓ เป็นองค์น้อง ตามลำดับคือ ...๑.หลวงพ่อวัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม อาราธนาขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๑ เป็นองค์พี่ (โปรดติดตามประวัติที่จะเสนอต่อไป) ...๒.หลวงพ่อโสธร วัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา อาราธนาขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๒ เป็นองค์กลาง (โปรดติดตามประวัติที่จะเสนอต่อไป) ...๓.หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ อาราธนาขึ้นจากน้ำองค์ที่ ๓ เป็นองค์น้อง เรียงกันมาตามลำดับ... พระแจกกรรมการไม่มีกล่องวัดได้จากกรรมการสายตรงวัด GG 2638 39 3 หลวงพ่อโตวัดบ้านแหลมชุบทองขัดเงา ประวัติ หลวงพ่อวัดเขาตะเครา (หลวงปู่ทองวัดเขาตะเครา) วัดเขาตะเครา หลวงพ่อวัดเขาตะเคา ประดิษฐานที่ วัดเขาตะเครา เชิงเขาตะเครา อำเภอบางแหลม จังหวัดเพชรบุรี หลวงพ่อวัดเขาตะเคา เป็นพระพุทธรูป คูบ้านคู่เมืองของประเทศไทย เป็นพระพุทธรูป นั่งปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ศิลปะเชียงแสน วัสดุ สำริดปิดทอง สูง ๒๖ นิ้ว หน้าตัก ๒๑ นิ้ว ไม่ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปปั้น หรือ โลหะ หรือเป็นไม้แกะ เพระปิดทองหนามากจนไม่เห็นองค์เดิม เนื่องจากประดิษฐานที่วัดเขาตะเครา เป็นที่เคารพบูชาของคนจังหวัดเพชรบุรี และ ทั่วประเทศ เป็นเวลานานกว่า 200 ปี หลวงพ่อวัดเขาตะเครา หรือหลวงปู่ทองวัดเขาตะเครา เป็นพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่ง ของเมืองเพชรบุรี ที่ชาวเมืองและคนในท้องถิ่นใกล้เคียงเคารพนับถือและเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของ ท่านมานานหลายชั่วอายุคน ความเป็นมาของหลวงพ่อไม่ปรากฏชัดนัก มีเล่ากันเป็น ๒ ตำนาน ตำนานแรกว่าหลวงพ่อวัดเขาตะเครา เป็นพระพุทธรูปองค์หนึ่งในจำนวนพระพุทธรูป ๕ องค์พี่น้องที่ลอยน้ำมาด้วยกันจากเมืองเหนือ และเข้าสู่สายน้ำสายหลักๆ ได้แก่ บางปะกง แม่กลอง ท่าจีน เจ่าพระยา เพชรบุรี แล้วได้ขึ้นประดิษฐานยังวัดโสธรฯ วัดบ้านแหลม วัดไร่ขิง วัดบางพลีใหญ่ในและวัดเขาตะเคราแห่นี้ตามลำดับ ส่วนอีกตำนานหนึ่งกล่าวถึงหลวงพ่อวัดเขตะเคราว่ามีประวัติความเป็นมาอยู่รวมกับหลวงพ่อวัดบ้านแหลม โดยเล่ากันมาว่าชาวประมงวัดบ้านแหลม สมุทรสงครามซึ่งเป็นคนกลุ่ม ที่อพยพย้ายถิ่นไปจากอำเภอบ้านแหลม เมืองเพชรบุรี ออกไปตีอวนหาปลาตามปรกติ ปรากฏว่าได้พระพุทธรูปสององค์ขึ้นมาพร้อมกัน องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปยืน ชาวบ้านแหลมได้เชิญไปประดิษฐานไว้สักการะบูชาอยู่ที่วัดบ้านแหลม สมุทรสงคราม ส่วนอีกองค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยได้มอบให้ญาติพี่น้องชาวบ้านแหลม เพชรบุรีไปสักการะบูชา ซึ่งได้แก่ หลวงพ่อวัดเขาตะเครานั้นเอง เหตุกาลตามตำนานทั่งสองนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใดไม่แจ้งชัด แต่เมื่อสุนทรภู่เดินทางมาเพชรบุรี และแต่นิราศเมืองเพชรบุรีขึ้นเมื่อปี ๒๓๗๔ หลวงพ่อวัดเขาตะเคราก็เป็นที่เคารพกราบไหว้ ของชาวเมืองและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดเขาตะเคราก็เป็นที่เลื่องลืออยู่ในถิ่นนั้นมามากและเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ดังกลองที่ว่า ...ไปครู่หนึ่งถึงเขาตะเคราสวาท มีอาวาสวัดวามหาเถร มะพร้าวรอบขอบที่บริเวณ พอจวนเพลพักร้อนผ่อนสำราญ กับหนูพัดจัดธูปเทียนดอกไม้ จะขึ้นไหว้พระสัมฤทธิ์พิษฐาน เขาลืออยู่แต่บุราน ใครบนบานพระก็รับช่วยดับร้อน... จนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อเขาตะเคราก็เป็นที่ศรัทธากราบไหว้และเป็นที่พึ่งทางใจแก่คนจำนวนมาก ดั่งจะเห็นได้จากทองคำเปลวที่ปิดพอกองค์จนแทบไม่เห็นลักษณะอันแท้จริงว่ากันว่าผู้ที่มาบนบานกับท่าน หากเป็นการบนตัวบวชมักจะสำเร็จสมประสงค์เสมอ วัดเขาตะเคราได้จัดงานนมัสการหลวงพ่อในวันขึ้น ๑๓ ค่ำถึงขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๔ จัดเป็นงานใหญ่และมีผู้คนมากมายทั้งใกล้และไกลเดินทางมาสักการะบูชาหลวงพ่อทุกปี ชช103 9345 46 2 


เขียนโดย :somkiatthornburi เจ้าของรายการ September 27, 2015 05:30:14


วัดใจ๑๑ 2 องค์เหรียญเสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 กำลังแผ่นดินปลุกเสกวัดพระแก้ว พศ. 2546 ชุบทองคำแท้และชุบเงินแท้บล็อคกองกษาปณ์คมชัดเจน พิมพ์สวยพิธีดีเจตนาบริสุทธิ์จัดสร้างหารายได้สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์วิทยาลัย อ. วังน้อย จ. อยุธยา โดยพระบรมราชานุญาติโดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสมเด็จๆฟ้าชาย เก็บเป็นชุดประหยัดค่าส่งครับ เหรียญทองแดงนอกเสด็จพ่อชุดทรงม้าบล็อคกองกษาปณ์หลังตรา มจร ปี 2546 ปลุกเสกวัดพระแก้วทั้งหมดพระเก่าเก็บให้ไปเป็นชุดมีไม่มากสายตรงไม่ควรพลาด 19.12 3114 3117 3108 3111


เขียนโดย :somkiatthornburi เจ้าของรายการ September 27, 2015 05:29:57

หน้าที่ :  45