#วัดอุภัยราชบำรุง
เยือนยลวัดอุภัยราชบำรุง เชื่อมสัมพันธ์ไทย - เวียดนาม
ย่านเก่าในกรุงเทพฯ อย่าง "ตลาดน้อย" ไม่เพียงเต็มไปด้วยเรื่องราวของชุมชนชาวจีนที่เข้ามาพึ่งบรมโพธิสมภารแล้วแต่ในอดีต ทว่ายังมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติศาสนาที่อาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งปรากฏชัดในศาสนสถานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าโจวซือกง (วัดซุ่นเล่งยี่) โบสถ์วัดกาลหว่าร์ และอีกแห่งหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก นั่นคือ "วัดอุภัยราชบำรุง" หรือที่คนแถวนั้นคุ้นเคยกันดีว่า "วัดญวนตลาดน้อย"
บนถนนเจริญกรุงที่ตัดผ่านย่านสำคัญหลายแห่ง ใกล้กับซอยเจริญกรุง ๒๐ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนมีต้นโพธิ์ใหญ่ให้ร่มเงา มองเข้าไปด้านในจะเห็นพระอุโบสถศิลปะจีนตกแต่งปูนปั้นอย่างวิจิตร
สำหรับต้นศรีมหาโพธิ์ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า ว่ากันว่ารัชกาลที่ ๕ ได้พระราชทานหน่อที่ทรงเพาะขึ้นจากเมล็ดพันธุ์ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ได้มาจากรัฐบาลอินเดียให้แก่วัด และได้เสด็จมาทรงพระสุหร่ายประพรมต้นศรีมหาโพธิ์ด้วยพระองค์เองด้วย นับถึงปัจจุบันต้นโพธิ์ต้นนี้มีอายุกว่า ๑๓๐ ปีแล้ว
จากลานโพธิ์หากเดินตรงเข้ามาด้านในพระอุโบสถจะพบกับพระพุทธรูปประธานองค์ใหญ่และสาวกดูงดงามอลังการ บริเวณด้านหลังเป็นวิหารบูรพาจารย์ซึ่งด้านบนจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติวัดและประวัติเจ้าอาวาสท่านต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ สังขารของพระครูคณานัมสมณาจารย์ (โผซ้าย) เจ้าอาวาสองค์ที่ ๔ ของวัด ท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปี ๒๕๐๑ แต่สังขารยังไม่เน่าเปื่อย จึงมีผู้ศรัทธามากราบไหว้ขอพรอยู่ในเนืองๆ
และแม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศ แต่วัดแห่งนี้ก็มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตามประวัติระบุว่า "วัดอุภัยราชบำรุง มีชื่อเดิมในภาษาเวียดนามว่า "วัด คั้น เวิน" เป็นวัดฝ่ายอนัมนิกายที่มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในช่วงปลายศตวรรษที่ ๑๘ องเชียงสือและพวกพ้องซึ่งเป็นชาวญวนได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงได้พระราชทานที่ดินให้ตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการก่อสร้างวัด ชาวเวียดนามจึงได้สร้างวัดศรัทธาของตนขึ้น ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีวัดจีนในบางกอก ชาวจีนที่นับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายานก็ได้อาศัยทำ บุญที่วัดแห่งนี้ด้วย
วัดญวนตลาดน้อยนอกจากจะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเวียดนามอพยพ เวลานั้นยังเป็นที่สนพระทัยของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎสมมติเทววงศ์พงศ์อิศวร ขณะที่ทรงผนวชอยู่ได้นิมนต์ "องฮึง" เจ้าอาวาส "วัด คั้น เวิน" มาเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดหลายครั้งพร้อมทั้งถวายวิสัชนาเรื่องพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ต่อมาเมื่อพระองค์ขึ้นทรงครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานสมณศักดิ์ "องฮึง" เป็นพระครูคณานัมสมณาจารย์ ซึ่งต่อมาได้เป็นเจ้าคณะใหญ่ ฝ่ายอนัมนิกายในประเทศไทย พระญวนจึงได้รับยกย่องในทางราชการให้เข้าร่วมในพระราชพิธีถวายพระพรชัยมงคลตั้งแต่นั้นมาจนบัดนี้
ด้วยเหตุที่ทางวัดได้พระมหากรุณาธิคุณจากรัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ โดยทั้งสองพระองค์ได้พระราชทานทุนทรัพย์ช่วยเหลือทางวัดเมื่อครั้งมีที่มีการปฏิสังขรณ์ ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานนามว่า "วัดอุภัยราชบำรุง" มีความหมายว่า "เป็นวัดที่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์ ๒ พระองค์"
จากวันนั้นถึงวันนี้ แม้ว่าสภาพบ้านเมืองและวิถีความเป็นอยู่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจะเปลี่ยนไปมาก แต่เป็นศาสนสถานแห่งนี้แห่งอนัมนิกายก็ยังบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อันยาวนานของทั้งสองประเทศไว้อย่างดี และเพื่อตอกย้ำสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครท่านที่แล้ว (ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร) ได้มีโอกาสต้อนรับ นายวู ดึ๊ก ดาม รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมเวียดนาม เพื่อนร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายสื่อความหมายประวัติศาสตร์วัดอภัยราชบำรุง (วัดญวนตลาดน้อย) โดยมีวัตถุประสงค์คือ การประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยป้ายดังกล่าว บอกถึงประวัติความเป็นมาของวัดเพื่อให้คนไทยและคนเวียดนามด้รู้จัก ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ยาวนานต่อเนื่องไป
สำหรับใครที่อยากสัมผัสกรุงเทพฯ ในมุมต่าง ใช้เวลาว่างๆ ละเลียดอดีตที่ตลาดน้อย เดินลัดเลาะตรอกซอยย่านเจริญกรุง ควรหาโอกาสไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดอุภัยราชบำรุงสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
ที่มา คอลัมน์ "รื่นรมย์ชมกรุง" กทม.สารฉบับประจำเดือนกันยายน ๒๕๕๙ หน้าปกหลัง
*******************
ประวัติความเป็นมา
ภูมิหลังของวัดญวนในประเทศไทยพอจะประมาณได้ว่า เริ่มต้นขึ้นในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หลังจากมีการตั้งหลักแหล่งของชาวญวน ที่อพยพลี้ภัยสงครามมาตั้งแต่ปลายสมัยธนบุรี เมื่อมีการตั้งวัดญวนขึ้น ก็ได้นิมนต์พระสงฆ์ ซึ่งบวชมาจากประเทศญวนมาประจำในประเทศไทย
คณะสงฆ์ญวนชุดแรกๆ มีพระผู้ใหญ่ ที่สำคัญ ๒ องค์ คือ พระครูคณาณัมสมณาจารย์ (ฮึง) และพระครูสมณานัมสมณาจารย์ (เหยี่ยวกร่าม) เป็นผู้นำของคณะสงฆ์อนัมนิกาย ในประเทศไทย ต่อมาในรัชกาลที่ ๒ และรัชกาลที่ ๓ คณะสงฆ์ญวนในประเทศไทย ได้ขาดการติดต่อกับพระสงฆ์ญวนในเมืองญวน และได้กลับมาติดต่อสัมพันธ์กันอีกครั้ง ในรัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ ในสมัยนั้น มีพระสงฆ์ญวนเข้ามาในประเทศไทยอีก แต่เนื่องจากขณะนั้นญวนตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส พระสงฆ์ญวนในประเทศไทยไม่สามารถติดต่อกับพระสงฆ์ญวนในเมืองญวนได้สะดวกนัก พระสงฆ์ญวนในประเทศไทยจึงได้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบประเพณี และวัตรปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับพระสงฆ์ไทยหลายประการ เช่น การออกบิณฑบาต การทำวัตรเช้าและเย็น การถือวิกาลโภชนา และการผนวกพิธีกรรมฝ่ายเถรวาท เช่น การมีพิธีทอดกฐิน และทอดผ้าป่า พิธีบวช พิธีเข้าพรรษา
วัดญวนในประเทศไทยถือกำเนิดขึ้นก่อนวัดจีน ในรัชกาลที่ ๓ ระหว่างที่สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎ (ต่อมา คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงพระผนวชอยู่ ทรงสนพระทัย ในลัทธิประเพณี และการปฏิบัติของพระสงฆ์ฝ่ายมหายาน ซึ่งในขณะนั้น พระสงฆ์ฝ่ายมหายานมีแต่ฝ่ายอนัมนิกายยังไม่มีฝ่ายจีนนิกาย จึงโปรดให้นิมนต์ องฮึง เจ้าอาวาสวัดญวนตลาดน้อยในขณะนั้นมาเข้าเฝ้า ซึ่งทรงถูกพระราชอัธยาศัยเป็นอย่างดี เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะสงฆ์ฝ่ายอนัมนิกาย เข้ามาอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และอยู่ในสถานะดังกล่าวเรื่อยมา แม้จะมีการผลัดเปลี่ยนรัชกาลมาจนถึงปัจจุบัน ในช่วงแรกที่วัดญวนได้เข้ามาอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร วัดญวนแห่งแรกๆ เช่น วัดญวนตลาดน้อย ก็ได้รับพระราชทานเงินช่วยเหลือในการปฏิสังขรณ์ และยังโปรดเกล้าฯ ให้พระสงฆ์ญวนเข้าเฝ้าเป็นประจำ รวมทั้งให้มีพิธีกรรมตามความเชื่อของฝ่ายอนัมนิกาย ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องมา จนถึงปัจจุบัน
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ ใน พ.ศ. ๒๔๑๑ ได้ทรงปฏิบัติตามแบบอย่างสมเด็จพระบรมชนกนาถ ในเรื่องที่เกี่ยวกับ การอุปถัมภ์ และการปฏิสังขรณ์วัดญวน โดยพระราชทานเงินช่วยเหลือ ในการปฏิสังขรณ์วัดญวนตลาดน้อยอีกครั้ง และได้พระราชทานนามใหม่ว่า วัดอุภัยราชบำรุง คำว่า "อุภัย" แปลว่า สอง แสดงให้เห็นถึงความหมายว่า เป็นวัดที่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์ จากพระมหากษัตริย์ ๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์ขององฮึง เจ้าอาวาสวัด เป็นที่ "พระครูคณานัมสมณาจารย์" เป็นเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายอนัมนิกาย ในประเทศไทย ต่อมายังได้พระราชทานนามวัดญวน และวัดจีนอื่นๆ อีกหลายวัดด้วย
ที่มา : สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๓๑ / เรื่องที่ ๒ วัดญวนในประเทศไทย / ประวัติความเป็นมา
***********************
ประวัติวัดอุภัยราชบำรุง (วัดญวนตลาดน้อย)
วัดญวนตลาดน้อย ตามตำนานมิได้ระบุไว้ชัดว่าสร้างเมื่อใด ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ แต่พอจะสันนิษฐานได้ว่าคงจะสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๓๓๐ โดยคนญวนที่อพยพตาม องเชียงสือราชนัดดาของจ้าเมืองเว้ซึ่งหนีพวกกบฏ เข้ามาพึ่งระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้รับพระราชทานที่ดินให้ตั้งชุมชนในกรุงเทพฯ สมัยนั้นคนญวนที่นับถือพุทธศาสนาได้ร่วมกันสร้างวัดของฝ่ายสงฆ์ญวนขึ้นสองวัดคือ วัดคั้นเยิงตื่อ คือ วัดญวนตลาดน้อย และวัดกว๋างเพื๊อกเตื่อ คือวัดญวนบางโพ
ในเวลาต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งสองพระองค์ได้รู้จักพระเถระของฝ่ายญานรูปหนึ่งคือ องฮึงซึ่งได้เข้าฝ้าถวายวิสัชนาเรื่องศาสนาพุทธฝ่ายมหายานในขณะที่เจ้าผ้ามงกุฎทรงผนวชอยู่ต่อมาพระองค์ขึ้นครองราชย์จึงได้ พระราชทานนามสมณะศักดิ์ องฮึง เป็นพระครูคณานัมสมณาจารย์ มีตำแหน่งทางการปกครองในคณะสงฆ์ญวนเป็นเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายอนัมนิกาย ในเวลาต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า วัดอุภัยราชบำรุง นับแต่มาตราบทุกวันนี้ คำว่า อุภัย แปลว่า สอง วัดอุภัยราชบำรุงจึงแสดงประวัติว่า ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์ถึงสองรัชกาล หนึ่งในอุภัยราชะ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ อีกหนึ่งในอุภัยราชะ คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ สมเด็จพระมหาบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์นั้น ได้รู้จักพระเถระของฝ่ายญวน คนสำคัญรูปหนึ่งมีนามว่า องฮึง สมัยที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวชอยู่นั้น ความที่พระองค์ ท่านทรงขวนขวายใคร่ศึกษาเรื่องพระพุทธศาสนามหายานให้เชี่ยวชาญ จึงเป็นโอกาสที่ องฮึงได้เข้าเฝ้าอย่าง ใกล้ชิด พร้อมถวายวิสัชนาเรื่องศาสนาพุทธฝ่ายมหายานและภิกษุสามเณรในคณะญวน ต่อมาพระองค์ขึ้นครอง ราชย์ องฮึงได้เป็นเจ้าอาวาสวัดญวนตลาดน้อย ความทราบถึงเบื้องยุคลบาทว่าทางวัดกำลังปฏิสังขรณ์อยู่ จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินช่วย
ครั้นถึงแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕ วัดญวนตลาดน้อยบูรณปฏิสังขรณ์อีก ดั่งปรากฏว่าความในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕ นำเบอร์ ๕ วันอาทิตย์ เดือน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ ปีขาล ยังเป็นนพศก ๑๒๓๙ การฉลองวัดอุภัยราชบำรุง ณ วันอาทิตย์ เดือนสี่ ขึ้นสิบสี่ค่ำ ปีฉลู นพศก ๑๒๓๙ นับในปัจจุบัน คือ พ.ศ. ๒๔๒๐ พระยาโชฏึกราชเสษฐี ( ฟัก โชติกสวัสดิ์ ) จัดการในวัดอุภัยราชบำรุง เมื่อได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระราชทานนามว่า วัดอุภัยราชบำรุง พระญวนจึงได้รับการยกย่องในทางราชการ ให้เข้ามาร่วมพระราชพิธีถวาย พระชัยมงคล แต่นั้นจนบัดนี้
https://www.facebook.com/culturebma/posts/986315358161920/