มวลสารที่นำมาเป็นส่วนผสมในการทำพระใช้ผงวิเศษ ว่าน 108 เกสรดอกไม้ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ จากการลบสูตรแบบโบราณ และยังได้นำใบลานเก่ามาเป็นส่วนผสมด้วย ประวัติศาสตร์ส่วนนี้กล่าวกันว่า ขณะที่นำเอาตำราใบลานเก่าที่ชำรุดมาเผา หลวงปู่ศุข และหลวงพ่ออุ่ม ก็ได้เดินจงกรมทำสมาธิไปรอบๆกองไฟด้วย เชื่อกันว่าผงใบลานนี้ให้ผลทางคงกระพันชาตรี เมื่อสร้างเสร็จ หลวงพ่ออุ่มและหลวงปู่ศุขได้ร่วมกันปลุกเสกเป็นเวลา 1 ไตรมาส (ก่อนเข้าพิธีใหญ่)
พิธีพุทธาภิเศกพระที่บรรจุในกรุคลองขอม ประมาณปี พ.ศ.2456-2460 ในสมัยหลวงพ่ออุ่มเป็นเจ้าอาวาสนั้น เป็นการปลุกเสกหมู่ครั้งใหญ่ โดยมีหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์จากเขตสุพรรณบุรี ชัยนาทและจากที่อื่นๆที่เก่งๆอีกหลายท่าน มาร่วมปลุกเสก แต่ที่รู้จักกันดีได้แก่ หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว, หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา แม้กระทั่งหลวงพ่อปาน แห่งวัดบางนมโค ก็มาร่วมพิธีนี้ด้วย เพียงแค่นี้ก็ถือได้ว่าสุดยอดแห่งพิธีกรรมแล้ว เพราะพระเกจิที่มาปลุกเสกนั้นถือได้ว่าเข้มขลังและเก่งจริง
หลังจากนั้นก็แจกแก่บรรดาผู้มาร่วมการกุศล กล่าวกันว่า เมื่อโบสถ์สร้างเสร็จ พระผงยังคงเหลืออยู่จำนวนมาก ส่วนเนื้อทองเหลืองเหลือน้อย หลวงพ่ออุ่ม ได้บรรจุพระเข้าในเจดีย์ที่สร้างขึ้นหน้าโบสถ์
และใต้ฐานชุกชีพระประธานในโบสถ์ พร้อมกับบันทึกเหล็กจารในแผ่นเงิน ระบุความเป็นมาของพระชุดนี้บรรจุ เข้าไปในพระเจดีย์ด้วย และที่เจดีย์นั้นได้มีการเขียนป้ายปิดไว้ว่าเป็นกรุพระของหลวงปู่ศุขอย่างชัดเจน
เมื่อครั้งที่แตกกรุมาใหม่ๆ ประมาณปี พ.ศ.2522 - 24 ว่ากันว่าเซียนพระจากส่วนกลางได้เดินทางไปบูชาเหมามาเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าค่อนกรุเลยทีเดียว ต่อมาประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมา ได้มีคนนำมาลงโฆษณาในหนังสือมหาโพธิ์เป็นเจ้าแรก ให้ผู้ที่สนใจตัดบัตรไปแลกซื้อ ต่อมาก็มีข่าวว่ามีหนังสือเล่มอื่นๆ ทำด้วยเหมือนกัน
เรื่องเล่าเกี่ยวกับการแตกกรุ ได้ฟังจากเซียนใหญ่ที่ได้พระมาตั้งแต่ครั้งแตกกรุใหม่ๆเป็นจำนวนมาก ท่านว่ากรุที่อยู่ใต้พระประธานอุโบสถวัดคลองขอมแตกออกมาเนื่องจากหลังคารั่ว น้ำฝนได้ตกลงมาที่องค์พระเป็นเวลานาน ทำให้ฐานด้านหนึ่งขององค์พระผุและหักล้มลงพิงกำแพง ชาวบ้านต้องช่วยกันยกไว้วางข้างๆตำแหน่งเดิมจึงได้พบกรุที่บรรจุพระพิมพ์เป็นหลุมขนาดใหญ่ สภาพกรุมีสองชั้น พระที่อยู่ชั้นบนผิวพรรณสะอาด ชั้นล่างมีน้ำฝน ไหลซึมผ่าน ขังแล้วแห้งไปๆ เมื่อได้นำพระขึ้นมา ปรากฎมีทั้งดินทรายจับเป็นจำนวนมาก ทางวัดได้นำมากองเรียงๆ ไว้เป็นก้อนใหญ่บ้าง เล็กบ้าง พระมีดินจับอยู่เต็ม และติดกันเป็นก้อน พอจะนับแยกองค์ ก็ต้องเอาน้ำหยอดแล้วเอาเครื่องมือที่พอหาได้ ค่อยๆเซาะพระออกจากกันทีละน้อยๆ ซึ่งแน่นอนพระอาจจะมีตำหนิหรือจะไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก
อีกจุดหนึ่งคือกรุพระที่อยู่ภายในเจดีย์ ซึ่งได้ถูกคนร้ายแอบเจาะจนชำรุด ทางวัดจึงได้ปรึกษาคณะ กรรมการทำการเปิดกรุ พบพระเครื่องเหล่านี้บรรจุอยู่มากมาย ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง (กรุงเทพ-สุพรรณและชัยนาท)ต่างก็พามาเช่าหากัน หมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันพระกรุคลองขอมจำนวนมากๆ ก็ยังอยู่ในความครอบครองของเซียนหลายท่าน เจ้าละมากๆ ทำให้ไม่เป็นที่แพร่หลายหรือรู้จักเท่าที่ควรเพราะ ไม่มีให้เล่น ที่มีออกมาให้เห็นโดยมากเป็นของเก็บเก่าของชาวบ้าน หรือผู้ศรัทธาในองค์หลวงปู่ศุข ได้ไปเช่าหาเก็บไว้เมื่อครั้งกรุแตก อย่างไรก็ตามหากท่านที่คิดจะเก็บพระกรุของแท้ล้านเปอร์เซ็นต์ไว้ศึกษา หรือเพื่อนำมาบูชาติดตัวถือได้ว่าไม่ผิดหวังในเรื่องของพุทธคุณ ดังที่เคยปรากฏเป็นข่าวบ่อยๆ ทั้งเรื่องแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ หรือยิงฟันไม่เข้า มีหลายคนที่มีปัญหาเดือดร้อนเรื่องการเงิน เอาไปบูชาสวดขอพรทุกคืนก็ประสบผลสำเร็จ
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น