วงการพระเครื่องตอนนี้คึกคักอย่างมาก
ประชาชนแห่แหนกันไปหาเช่าซื้อเหรียญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทุกรุ่นที่มีวางจำหน่ายตามแผงพระเครื่องชั้นนำ ไม่ว่าจะเหรียญเก่าใหม่
หรือเหรียญที่ระลึกในงานมงคลต่างๆ
ประชาชนก็พยายามเสาะหามาเก็บไว้เป็นที่ระลึก
เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว
ใช่หาเพื่อเชิงพาณิชย์ในห้วงเวลานี้ตลาดพระเครื่องกลับมากระชุ่มกระชวยพอสมควร
ไม่ว่าเหรียญอะไรก็ตามที่มีรูปในหลวงล้วนก็ขายดีแบบเทน้ำเทท่าหมดตู้โชว์
ส่วนเหรียญพระเกจิ พระดัง พระยอดนิยม
ชั่วโมงนี้เก็บเข้าตู้ไว้โชว์เพียงอย่างเดียว
อย่างเช่นเหรียญในหลวงนั่งบัลลังก์ เนื้ออัลปากา บล็อกนิยม กระบี่ยาว
เป็นเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เป็นเหรียญรูปทรงใบเสมาแบบมีหู
ด้านหน้าเป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับนั่งบนบัลลังก์
ส่วนด้านหลังเหรียญจะเป็นตราสามง่ามและจักรีอย่างสวยงาม
โดยกระทรวงมหาดไทยได้ขออนุญาตจัดสร้างพระบรมรูปและเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ออกแบบโดยกรมศิลปากร เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้านหน้าเป็นพระบรมรูปประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนบัลลังก์
โดยมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”
ขณะที่ด้านหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ตราจักรี โดยมีข้อความว่า “พ.ศ. 2539”
สำหรับชื่อเหรียญนี้รุ่นนี้ หากเรียกเป็นทางการจะเรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า
เหรียญทรงเสมา (อาร์ม)
ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2539
โดยเป็นการจัดสร้างของกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ
50 ปี นับว่าเป็นเหรียญประสบการณ์ดังในด้านทางแคล้วคลาดปลอดภัย
นายทหารและตำรวจมักนิยมแขวนหรือพกติดตัวเสมอ
ดังเช่นเหตุการณ์มีผู้ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำสภาพความเสียหายพังยับเยินและเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน
หรือ ตชด.
ขณะปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ซุ่มยิง
แต่โชคดีไม่ได้รับอันตราย เนื่องจากคล้องเหรียญนั่งบัลลังก์รุ่นดังกล่าว
และกลับรอดชีวิตได้อย่างปาฏิหาริย์
ก่อนปรากฏลงข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
ต้องถือว่าเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่มีความนิยมมากในหมู่นักสะสมหรือผู้ชื่นชอบในปัจจุบัน
เรื่องราวปาฏิหาริย์ก็ล้วนแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ
แต่สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจมองเห็นหรือพิสูจน์ได้จากหลักวิทยาศาสตร์แม้จะก้าวล้ำเพียงใด
เรื่องราวความเชื่อปาฏิหาริย์ก็ไม่เคยถูกพิสูจน์ได้ว่า
แท้จริงการรอดชีวิตหรือการแคล้วคลาด
มาจากเหรียญหรือพระที่เราแขวนติดตัวหรือเปล่า
ไม่ใช่เฉพาะเหรียญรุ่นเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปีเท่านั้น
แต่เหรียญพระเกจิดังๆ ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้
แต่สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์เห็นกันมานานหลายร้อยพันปี คือ
ความดีจะอยู่คู่กับตัวเราไปตลอดเท่านั้น
การสร้างเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ
50 ปีนั้น ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆ เช่น
ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปี
2533
และชนวนโลหะพระนิโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทยและประชาชนทั่วประเทศจัดสร้างเพื่อน้อมเกล้าฯ
ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2538
และแผ่นจารอาคมจากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ
ขณะที่พิธีกรรมทางศาสนาได้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประกอบพิธีเจริญจิตตภาวนาด้วยพระองค์เอง ณ
พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร การจัดสร้างเหรียญครั้งนี้
เหรียญมีราคาถูกเป็นพิเศษเพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดกาลนาน
รายได้ทั้งหมดได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยพระราชกุศลมูลนิธิชัยพัฒนา
จัดสร้างทั้งหมด 3 เนื้อ คือ 1.เนื้อทองมี 2 เนื้อ คือ เนื้อทองสัมฤทธิ์
จัดสร้างจำนวน 25,390 เหรียญ และเนื้อทองคำขัดเงา น้ำหนักเหรียญละ 15 กรัม
สร้างจำนวน 25,390 เหรียญ 2.เนื้อเงินขัดเงา น้ำหนักเหรียญละ 8 กรัม
สร้างจำนวน 5 ล้านเหรียญ และ 3.เนื้ออัลปากา สร้างจำนวน 5 ล้านเหรียญ
นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหรียญในหลวงที่ได้รับความนิยม
โดยการจัดสร้างแต่ละครั้งส่วนใหญ่จะมีการจัดสร้างครั้งละจำนวนมากๆ
ทำให้ประชาชนสามารถหาเช่าซื้อได้ง่าย อีกทั้งราคาก็ไม่แพง
คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้
ในความเป็นจริงเหรียญที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งเหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีต่างๆ
หรือเหรียญที่ปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่สร้างเพื่อทูลเกล้าฯ
ถวายนั้นมีอยู่มากมายเพื่อให้ประชาชนได้พึ่งระลึกถึงพระองค์ท่าน
Read more