@@@ ถูกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว @@@ พระสมเด็จงิ้วดำ หลวงปู่ทองดำ ปี 2522 เนื้อผง วัดถ้ำตะเพียนทอง จ.ลพบุรี
“หลวงปู่ทองดำ”พระเกจิดังเมืองลพบุรีศิษย์สายตรง “หลวงพ่อมุม อินทปัญโญ”จัดสร้างวัตถุมงคลแรง-ยอดสั่งจองฉลุย!ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ รายงานว่า วันที่ 19 สิงหาคม 2561 เป็นวันคล้ายวันเกิด บรรดาศิษย์กำหนดจัดงานบุญฉลองอายุวัฒนมงคลครบ 87 ปี “หลวงปู่ทองดำ” หรือ "หลวงพ่อทองดำ อินทวังโส" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดถ้ำตะเพียนทอง ต.ห้วยขุนราม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ในการนี้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลที่ระลึกขึ้นทั้งประเภทเหรียญและเลสข้อมือยอดสั่งจองฉลุยนายศุภฤทธิ์ พิมพระวัตร ศิษย์ใกล้ชิด กล่าวว่า งานบุญครั้งจะมีการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นด้วย ผมจะหาทุนในการ ก่อสร้างวิหารประดิษฐานพระมหาเศรษฐี 9 หน้าองค์ใหญ่ เพื่อวางฐานชั้น 3 ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างเบื้องต้นจำนวน 1,000,000 บาท ขอเชิญศิษย์ยานุศิษย์หลวงปู่ทองดำ ทุกท่าน ร่วมบุญครั้งนี้โดยพร้อมเพียงกันหลวงพ่อทองดำ ท่านมีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งภาคกลางและเมืองไทยหลวงพ่อทองดำ บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น ปัจจุบัน สิริอายุ 87 พรรษา 65ท่านมีนามเดิมว่า ทองดำ ปุยอบ เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2477 ที่บ้านปรางค์กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายศิลาและนางนวล ปุยอบ มีพี่น้องด้วยกัน 4 คน ครอบครัวประกอบอาชีพทำนาช่วงวัยเยาว์ ได้เข้าเรียนหนังสือที่วัดบ้านปราสาท เรียนจบชั้นประถมที่ 4 หลังจากนั้นออกมาช่วยพ่อแม่ประกอบอาชีพทำนา เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย หาปลาในช่วงฤดูฝน ช่วงหน้าแล้งบางคราวก็ไปรับจ้างทำงานยังต่างถิ่นครั้นมีอายุครบ 22 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสมอ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระครูวิรุฬหธรรมกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์เง้า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์โพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์หลังอุปสมบท ได้ศึกษาในพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรีและโท ก่อนหันไปศึกษาวิทยาคมกับหลวงพ่อมุม อินทปัญโญ วัดปราสาทเยอร์เหนือในช่วงแรก หลวงพ่อมุมไม่ค่อยสอนวิชาอาคมให้นัก เพราะต้องการดูอุปนิสัยศิษย์ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนหลังหลวงพ่อมุมก็เมตตาสอนให้ และอยู่ศึกษาปฏิบัติอยู่กับท่านเป็นเวลาแรมปีต่อมา ท่านได้ไปเรียนวิชากับพระอาจารย์ทองสุข วัดบ้านเพชร ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่แก่กล้าวิทยาคมอย่างมาก ทั้งยังเป็นพระอาจารย์สักยันต์ที่เลื่องลือยิ่งรูปหนึ่ง นอกจากนี้ พระอาจารย์ทองสุขได้มอบตำราไว้ให้ และยังสอนด้านการนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานอีกด้วยท่านได้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปราสาทจันโง ปกครองอยู่เกือบ 12 ปี หลังจากพัฒนาสร้างวัดจนสำเร็จมั่นคงดีแล้ว ท่านก็เดินธุดงค์ไป จ.อุบลราชธานี และได้ไปพบกับพระอาจารย์โฮม พระอาจารย์ปฏิบัติรูปหนึ่งที่เก่งมาก ท่านฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับพระอาจารย์โฮมที่บนเขา ท่านสอนให้เดินจงกรม นั่งปฏิบัติภาวนาและสวดมนต์ต่างๆท่านได้อยู่เป็นเวลา 1 พรรษา ก่อนลากลับ พระอาจารย์โฮม ได้มอบตำราพระธรรมเก้าโกฏิ ตำรานี้มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ท่านได้นำมาอ่านท่องจนจำขึ้นใจได้ทุกหน้าหลวงพ่อทองดำได้เดินธุดงค์จาก จ.อุบลราชธานี มาแถบอีสานผ่านหลายจังหวัด ตัดผ่านมาถึงนครราชสีมา ครั้งหนึ่ง ต้องเดินทางผ่านดงพญาเย็น แต่เดิมมีชื่อว่าดงพญาไฟ สถานที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายมากมาย ทั้งมีเสือโจรผู้ร้ายชุกชุมคอยดักจี้ปล้นเอาทรัพย์ ผีสางนางไม้ก็ดุร้าย ทั้งไข้ป่าก็ชุกชุมด้วยเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ที่ราบลุ่มและภูเขาใหญ่น้อย แต่ท่านสามารถผ่านไปได้โดยสวัสดิภาพ กระทั่งมาถึง จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี ท่านมาปักกลดอยู่ที่หน้าถ้ำพระนารายณ์เขาวง แต่แรกก็ไม่มีชาวบ้านให้ความสนใจ ท่านก็ปฏิบัติภาวนาของท่านตามปกติอยู่มาวันหนึ่งมีชาวบ้านนำภัตตาหารมาถวาย รวมทั้งมีชาวบ้านคนหนึ่ง ฐานะยากจน มาคอยอุปัฏฐากดูแลความเป็นอยู่ของท่านต่างๆ นานา หลวงพ่อทองดำ ได้เป่าลงกระหม่อมและมอบตะกรุดโทนไปดอกหนึ่ง ปรากฏว่าชาวบ้านคนดังกล่าวประสบเหตุถูกคนทำร้าย แต่ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ทำให้มีชาวบ้านมาหาท่านกันหลายคน เพื่อขอตะกรุดพ.ศ.2512 เครือญาติของนางพิสมัย แซ่บาง เห็นวัตรปฏิบัติของท่านเมื่อครั้งที่ยังอยู่บริเวณหน้าถ้ำพระนารายณ์เขาวง จ.ลพบุรี เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงนิมนต์หลวงพ่อทองดำให้มาอยู่ ด้วยสถานที่ดังกล่าวมีความเงียบสงบเหมาะสำหรับการเจริญภาวนากัมมัฏฐานอย่างยิ่งเมื่อท่านเดินทางไปอยู่บริเวณดังกล่าว คณะชาวบ้านและเครือญาติของนางพิสมัย ก็ปลูกที่พักให้หลังหนึ่งเล็กๆ ที่หน้าถ้ำตะเพียนทอง ซึ่งแต่ก่อนนั้นชาวบ้านไม่รู้ว่ามีถ้ำ รู้แต่ว่ามีทรัพย์สมบัติและผีดุ เมื่อท่านมาอยู่แล้ว ท่านกับชาวบ้านก็ช่วยกันถากถางต้นไม้และมีพระติดตามท่านมาอีกรูปหนึ่ง คืนหนึ่ง หลวงพ่อทองดำ เกิดนิมิตฝันไปว่าในบริเวณแห่งนี้มีทรัพย์สมบัติและมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำ ขณะกำลังเจริญภาวนาเดินจงกรมนั้นก็มีวิญญาณร้ายมารบกวนไม่เคยขาด ท่านจึงปรารภต่อวิญญาณนั้นว่า "อาตมามาที่นี่เพื่อสร้างวัดไม่ได้มาเอาทรัพย์สมบัติแต่ประการใดๆ" วิญญาณร้ายจึงยอมหนีไปครั้นเมื่อก่อสร้างเสนาสนะในวัดได้ระยะหนึ่ง มีชาวบ้านมาขอวัตถุมงคลกับท่าน หลวงพ่อก็มีแต่ตะกรุดโทนให้ไป ต่อมา ท่านได้ลงหมึกสักยันต์ให้ชาวบ้าน และผู้คนที่ดั้นด้นกันมาจากที่ไกลในจำนวนคนเหล่านั้น หลายคนเป็นโจรเสือร้ายที่มีหมายจับของทางราชการหลายคน ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีในสมัยนั้น ต้องมากราบขอร้องให้หลวงพ่องดการลงหมึกสักยันต์ ด้วยมีหลายคนเป็นโจรปล้นฆ่า ยากแก่การปราบปราม ซึ่งท่านไม่เคยรู้เลยว่าเขาเป็นคนร้ายมีหมายจับของทางราชการนับจากนั้นเป็นต้นมา ท่านงดสักยันต์โดยเด็ดขาดต่อมา ท่านได้จัดทำเสื้อยันต์และผ้ายันต์มอบให้ทหารที่ไปรบตามชายแดน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ พวกทหารเหล่านั้นได้พากันมากราบหลวงพ่อทองดำ บอกว่ารอดพ้นปลอดภัยจากฝ่ายตรงข้ามด้วยเสื้อยันต์ของหลวงพ่อช่วงปี พ.ศ.2520-2524 หลวงพ่อทองดำรับนิมนต์ร่วมพิธีปลุกเสกพระเครื่องในกรุงเทพฯ หลายครั้งด้วยกัน หลังจากนั้น ได้หยุดไปนานจนถึงปี พ.ศ.2545 ท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหารายได้ก่อสร้างอุโบสถ กุฏิ และเสนาสนะต่างๆพระเครื่องรุ่นปี พ.ศ.2545 ที่ท่านสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ คือ รุ่นมหาอำนาจ มหาเมตตา มหานิยม รุ่น 2 เรียกว่า รุ่นยอดขุนพลไตรมาส 45 รุ่น 3 คือ ขุนแผนจ้าวทรัพย์-จ้าวเสน่ห์ และอื่นๆ อีกหลายรุ่น และ พระ 9 หน้ามหาเศรษฐี รุ่นโคตรเศรษฐีนวโกฏิกล่าวได้ว่าชื่อเสียงเกียรติคุณความเป็นสุดยอดพระเกจิอาคมขลังของหลวงพ่อทองดำ แห่งวัดถ้ำตะเพียนทอง เป็นที่เลื่องลือมานาน ร่ำลือถึงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลของท่าน ที่มีพุทธคุณรอบด้าน
Read more
วันที่เริ่ม October 26, 2020 13:32:54
วันที่ปิดประมูล October 27, 2020 14:26:01
ราคาเปิด10
เพิ่มครั้งละ10
ธนาคารกรุงเทพ (ฟิวเจอร์) ,
Weihatyai
ผู้เสนอราคาล่าสุด