พระโคนสมอเนื้อดินพิมพ์นาคปรก กรุวังหน้า ลงรักปิดทอง สภาพสวยปิดทองเดิมครับ
ประวัติพระโคนสมอ หลัง จากที่กรุงศรีอยุธยาได้ตกไปเป็นเมืองขึ้นของ ข้าศึกในปี พ.ศ.๒๓๑๐ นั้น ก็ได้เกิดวีระชนคนกล้ามา กู้ชาติ สร้างบ้านแปลงเมืองขึ้นมาใหม่ ก่อเกิดกำเนิดเป็นมหาอาณาจักรขึ้นบนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในปี พ.ศ.๒๓๒๕ “ กรุงรัตนโกสินทร์ “ และนอกจากจะสร้างบ้านเมืองแล้ว ก็ยังมิลืมที่จะให้เมืองแห่งนี้ มีความงดงามประดุจกรุงเก่า ที่ได้เคยมีมาแต่เดิมในครั้งอดีต ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สภาพความเป็นอยู่ รวมถึงสิ่งมงคลล้ำค่า อย่างพระพุทธรูปต่างๆ รวมทั้งพระพิมพ์ที่พอจะรวบรวมได้จากกรุงเก่าเข้ามาในเมืองแห่งนี้ เพื่อที่จะได้อนุรักษ์และรักษาไว้ให้ชนรุ่นหลังสืบต่อไป อย่างเช่น พระโคนสมอ ที่เราจะกล่าวถึง เป็นพระเครื่องที่มีมาตั้งแต่ สมัยอยุธยาตอนปลาย สร้างจากเนื้อดิน ส่วนใหญ่ และก็มีเนื้อชินอีกด้วย พระส่วนมากจะเป็นพระพิมพ์ประจำวัน และมีพิมพ์อื่นๆอีก เช่น พิมพ์ปางมารวิชัย พิมพ์ซุ้มปราสาท พิมพ์ปางพญาชมภู เป็นต้น พุทธลักษณะองค์พระทั้งทรงพิมพ์ก็สวยงามมาก หาได้จัดทำแบบลวกๆไม่ ลายเส้นของพิมพ์สวย คม ชัด ลึก ตามพระพุทธลักษณะ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะฝากไว้ ในการที่จะสืบอายุพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ จนถึงพุทธกาล ๕๐๐๐ ปี และผู้คนในสมัยอยุธยาครานั้น คงจะร่วมแรงร่วมใจในการสร้างพระนี้ขึ้นมาและด้วยเพราะมีพระเป็นจำนวนมาก ต่อเมื่อหลังจากเสียกรุงศรีฯแล้ว พระชุดนี้ถูก ทิ้งร้างมาชั่วระยะ เวลาหนึ่ง มีผู้ที่เห็นคุณค่าจึงได้นำพระกลับมาบรรจุไว้ที่เมืองแห่งนี้ ด้วยเหตุที่ความเชื่อของคนในสมัยก่อนนั้นไม่นิยมที่จะนำเอาพระเข้ามาเก็บไว้ ในบ้าน จึงได้นำพระไปฝากไว้ที่วัดบ้าง บ้างก็บรรจุกรุตามวัดต่างๆ นี้ก็เป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมานาน จึงนำพระชุดนี้มาฝากไว้ตามกรุต่างๆโดยเฉพาะบริเวณ พระราชวังหน้า(บริเวณพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกรุงเทพฯ) ก็เช่นกันได้นำพระชุดนี้มาเก็บรักษาไว้ บ้างก็ไว้ตามวัด และบางวัดที่มีเจดีย์ที่ว่างเปล่า ก็จะนำพระที่สร้างขึ้นมาบรรจุรวมทั้งพระชุดนี้ด้วย หากมีจำนวนเหลือก็นำมาเก็บไว้ตามเพดานพระอุโบสถก็มี หากมีมากเกินที่บรรจุไม่ทันก็เลยเอามากองกันที่โคนต้นไม้บ้าง พอคนเดินไปเดินมาเห็นพระกองอยู่ก็เลยเก็บกลับบ้าน เพราะเห็นสวยดี เก็บกันคนละชิ้นสองชิ้น อะไรมันจะไปเหลือก็หมดล่ะสิ แต่ไม่รู้ว่าพระชื่ออะไร เลยเรียกตามสถานที่ที่ไปพบ และเก็บมาก็ที่โคนต้นสมอน่ะแหล่ะ เลยถือวิสาสะเรียกว่า “ พระโคนสมอ “ มาแต่นั้นเอง ถ้าจะพิจารณาพระพิมพ์เหล่านี้สามารถแยกออกได้เป็น ๒ ชนิด คือ ๑.พระ เนื้อดินกรุเก่า เนื้อดินจะนุ่มกว่า ทั้งรักทองที่ปรากฎ จะติดแน่นและเรียบร้อยกว่า จึงสามารถบอกได้ว่าเป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัย อยุธยาแน่นอน ๒.พระเนื้อดินกรุใหม่ จริงๆแล้วก็ไม่ได้ใหม่อย่างที่บอกน่ะครับ สร้างมาก็ตั้งแต่ก่อตั้ง กรุงรัตนโกสินทร์ ขึ้นมาในช่วงนี้ เนื้อหาของดินค่อนข้างหยาบกว่าเล็กน้อย รักทองก็ดูจะใหม่สดกว่า ส่วนพิมพ์นั้น เป็นพิมพ์เดียวกันกับพิมพ์กรุเก่าทุกประการ สำหรับพระโคนสมอเนื้อชิน แต่เดิมเป็นพระผิวปรอท แต่ภายหลังเมื่อได้บรรจุกรุแล้ว องค์พระที่แตกกรุมาส่วนใหญ่ จะปรากฎถูกสนิมกัดกินผิวผุกร่อน จนถึงเนื้อในหลุดร่อน เรียกสนิมชนิดนี้ว่า “ สนิมเกล็ดกระดี่ “ เพราะมีลักษณะการหลุดร่อนคล้ายเกล็ดปลากระดี่นั้นเอง ต้องเอาน้ำมันชโลมเลี้ยงไว้ไม่ให้สนิมกินลามจนเสียสภาพไป พระโคนสมอ มีการค้นพบ และขึ้นตามกรุต่างๆตามวัดทั่วไป ทั้งที่พบในกรุ เจดีย์ ตามเพดานพระอุโบสถแต่ที่พบมากที่สุดก็ที่ กรุวังหน้า วัดโพธิ์ฯ วัดพระแก้ว และนอกจากนี้ยังมีขึ้นที่วัดอื่นๆอีก เช่น ในปี พ.ศ.๒๕๐๖ ที่วัดเชิงท่า จ.นนทบุรี ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ ที่วัดสระเกศ ก็มีในเจดีย์เหมือนกันในจำนวนมาก และหากเป็นพระโคนสมอขนาดเล็ก เนื้อดินก็จะพบในกรุของ วัดประยูรฯ และวัดสระเกศ เท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็นเนื้อชิน จะเป็นของกรุกรุวังหน้า และวัดพระแก้วเท่านั้นเอง ไม่ปรากฎว่ามีขึ้นอีกในที่ใด จำนวนก็น้อย และหายากครับ พระโคนสมอนับว่าเป็นพระที่ทรงคุณค่ามาก มีครบทั้งศาสตร์ และศิลป์ เป็นพระเครื่องที่มีความเชื่อว่าให้คุณเด่นในด้าน คงกระพันชาตรี และนิรันตรายเป็นเยี่ยม จัดในประเภทของดีราคาเบา แสดงอิทธิปาฎิหารย์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน มีข่าวในบางกระแสด้วยว่า แม้องค์พระประมุขของเราอาราธนาติดพระองค์อยู่เสมอ เป็นพระเนื้อชิน พิมพ์ห้อยพระบาท รวมอยู่ด้วย เคยมีผู้รู้ได้บอกเล่าให้ฟังว่า ในสมัยโบราณนั้น เขาเอาพระโคนสมอให้ม้าศึก และช้างศึกคล้องไว้ เมื่อออกศึกคราใด ก็จะแคล้วคลาดจาก คมหอกคมดาบที่ไปศึกมา เรียกว่าไม่ได้กิน ไม่ได้ระคายผิวเลย เป็นที่เลื่องชื่อมาก และมาในสมัยที่ไม่ไกลเท่าไรนัก ในยุคสงครามอินโดจีน นี้แหล่ะ เชื่อหรือเปล่าว่า นักรบชาติไทยเรา นอกจากจะเป็นทหารหาญ ที่มีจิตใจเข้มแข็ง ขวัญดี และมีฝีมือแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่ทหารเวียดนาม และอเมริกัน ต้องยอมรับนั้นก็คือพระเครื่องที่เป็นที่ยอมรับมากๆ ว่าเยี่ยมจริงๆ โดยเฉพาะการสู้รบของ “ จงอางศึก “ ขนาดข้าศึกมีมากถึง ๑๐ ต่อ ๑ ยังทำอะไรไม่ได้ หรือจะเป็น “ กองพลเสือดำ “ ที่ลือชื่อ สร้างกิตติคุณฝากไว้ยังมีปรากฎอยู่จนถึงเดี๋ยวนี่ แม้ขณะนี้เองก็ตาม บ้าน เมืองมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก เปลี่ยนจากสงครามมาเป็นความเสี่ยงจากการทำงานก็ตาม พุทธคุณก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง นับว่าพระโคนสมอยังเป็นพระที่อยู่ในกระแสที่ผู้ที่ต้องการเสาะแสวงหาของดีๆ มีพุทธคุณที่พิสูจน์ได้ จะได้นำมาใช้คุ้มกาย ส่วนสนนราคาก็ว่ากันไปตามสภาพ ว่าสวยคมขนาดไหน พิมพ์ยากง่ายเพียงไร นิยมหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ในปัจจุบันไม่ค่อยพบตามสนามพระแล้วโดยเฉพาะพิมพ์ที่อลังการ สวย คมๆ เนื่องจากมีผู้ที่มีอันจะกิน คอยเก็บสะสมเข้ารัง นำไปใส่แท่น ล้อมกรอบไม้ บูชาติดฝาบ้าน ตามบ้านเศรษฐีเขา พอมองแล้วคลาสสิกดี เลยเดี๋ยวนี้ค่อนข้างจะหาสวยๆยากอีกทั้ง ราคาก็สูงขึ้นมากตามลำดับความต้องการ และหากใครคิดเก็บก็ต้องรีบหน่อย และอย่าประมาทว่าไม่มีของทำเลียนแบบน่ะครับมีเหมือนกัน แต่พิจารณาได้ไม่ยากนักเพราะของเก๊ มันตื้นๆ ไม่ได้รูปทรง เนื้อหาไม่ได้อายุ และทองก็ไม่เก่า และหากจะสะสมทั้งทีก็ หาเอาจากผู้ที่น่าไว้ใจมีการรับรองอย่างถูกต้อง และมีความน่าเชื่อถือกันนะครับ
รับประกันพระแท้ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 083-2699000 ID Line : Ting_sathu Email : [email protected] หรือ [email protected]
ภาณุภัณฑ์ พระเครื่อง เชิญที่นี่ >> https://www.siam-pra.com/shop/Ting_sathu
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น