พระกรุ พระกลีบบัว วัดบางสะแก กทม ฝั่งธน เนื้อดิน พร้อมบัตรรับรองครับ
ย้อนไปในปี พ.ศ.2511 ‘เจดีย์เก่าหลังอุโบสถ วัดบางสะแกนอก เขตตลาดพลู ฝั่งธนบุรี’ ซึ่งสร้างมานานกว่า 100 ปี ได้มีการชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ขณะที่พระลูกวัดกำลังทำความสะอาดบริเวณนั้นและช่วยกันรื้อพระเจดีย์เก่าเพื่อที่จะบูรณะใหม่ตามคำสั่งท่านเจ้าอาวาส ก็ปรากฏ ‘พระเนื้อดิน’ ไหลทะลักออกมาจำนวนมาก เมื่อเรื่องทราบถึง พระครูไพโรจนคุณ เจ้าอาวาสสมัยนั้น จึงให้ไปนำพระมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่จะสูญหายไปเสียหมด เรียกกันว่า “พระกรุวัดบางสะแกนอก”ลักษณะเป็นพระเนื้อดินเผาผสมใบลานเผาไฟ เนื้อองค์พระมีสีต่างๆ ตามธรรมชาติของพระเนื้อดินที่ผ่านการเผาทั่วไป โดยส่วนใหญ่เป็นเนื้อดำจัดบ้างไม่จัดบ้าง ที่พบเห็นมี 2 พิมพ์ คือ พระนั่งสมาธิบนกลีบบัว และ พระปิดตามหาลาภ (พระภควัมบดี) ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก โดยสภาพองค์พระที่อยู่หน้ากรุไม่ถูกน้ำจะงดงาม ส่วนองค์ที่แช่อยู่ในน้ำ ส่วนต่างๆ จึงลบเลือน ทำให้ด้อยความงามลงไป
จากการสันนิษฐานที่ไปที่มาของพระกรุวัดบางสะแกนอก ตามเนื้อหาและพุทธศิลปะแล้วนั้น นับมีเอกลักษณ์ต่างๆ ใกล้เคียงกันมากกับพระที่สร้างโดย ‘หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า’ เหตุผลสนับสนุนอีกประการ คือ ถึงแม้เจดีย์จะอยู่ภายในพื้นที่วัดบางสะแกนอก แต่วัดที่อยู่ใกล้เคียงกับองค์เจดีย์มากที่สุดคือ ‘วัดบางสะแกใน’ ซึ่งสมัยนั้น หลวงปู่เม่ง ศิษย์เอกของหลวงปู่ศุข เป็นเจ้าอาวาส ประกอบกับคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ทันยุค ทำให้สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นพระที่ ‘หลวงปู่เม่ง’ นำมาฝากกรุไว้ และหลวงปู่ศุขอาจได้ร่วมปลุกเสกด้วย เพราะพุทธคุณที่ปรากฏนั้นเข้มขลังครบครันในทุกด้าน ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมาก เนื่องจาก หลวงปู่ศุข ท่านมักได้รับนิมนต์เข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมปลุกเสกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ เป็นเนืองนิตย์ และท่านก็สนิทกับพระเกจิหลายรูปแถบฝั่งธนบุรี จึงอาจมาจำพรรษากับหลวงปู่เม่ง ผู้เป็นศิษย์เอก กลับมาที่ “พระกรุวัดบางสะแกนอก” ที่แตกกรุในเมื่อปี พ.ศ.2511 ดังกล่าวแล้ว แรกเริ่มไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ด้วยไม่ใช่พระกรุเก่าแก่ อายุการสร้างยังไม่มากนัก ซึ่งพอดีกับช่วงนั้นมีพระกรุอื่นๆ มากมายที่มีอายุอานามมากกว่า จึงเป็นที่สนใจเช่าหามากกว่า และไม่ใฝ่ใจในการหาที่มาขององค์พระ จนเมื่อ 10 ปีให้หลัง ผู้ที่มีไว้ครอบครองต่างประสบพุทธคุณเป็นที่ปรากฏ ทั้งแคล้วคลาด เมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรีครบครัน จนเป็นที่เลื่องลือของชาวตลาดพลู ต่างเสาะแสวงหามาคู่กาย เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป “พระกรุวัดบางสะแกนอก” จึงกลายเป็นที่นิยมในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชา ยิ่งได้ทราบถึงที่ไปที่มาที่แน่ชัด ยิ่งสร้างให้ค่านิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยลดหลั่นกันไปตามความสมบูรณ์สวยงามขององค์พระ ปัจจุบันนับว่าหาดูหาเช่ายากเอาการอยู่ โดยเฉพาะองค์สวยๆ โดนเก็บเข้ารังหมดครับผม
วันที่เริ่ม December 05, 2022 13:15:19
วันที่ปิดประมูล December 06, 2022 19:15:37
ราคาเปิด10
เพิ่มครั้งละ10
ธนาคารธนาคารกรุงไทย (สำนักงานประกันสังคม) ,