พระเนื้อดิน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ปี 2505 มาพร้อมบัตรดีดี ครับผม หลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านจึงสร้างพระทรงสัตว์พาหนะรูปแบบที่คล้ายๆกับหลวงพ่อปาน สร้างประมาณปี ๒๕๐๕ มีการอุดผงยันต์เกราะเพชรด้านบน สร้างทั้งหมด ๖ แบบคือทรงไก่, เม่น, ปลา, นก, หนุมาน, ครุฑ วิชาผงยันต์เกราะเพชร ยันต์เกราะเพชร เป็นตำราวิเศษพระร่วงเจ้าจากสุโขทัยและได้นิมิตจากป่าช้าท้ายวัดนั้น หลวงพ่อปาน โสนันโท ท่านได้ลบผงยันต์เกราะเพชรมาบรรจุในองค์พระ เนื้อดินเผาด้านบน นำยันต์เกราะเพชรพิมพ์เป็นผ้ายันต์ กระดาษยันต์ เพื่อให้นำไปบูชาเพื่อรักษาตนให้แคล้วคลาดอันตราย เมื่อหลวงพ่อปานท่านได้มรณภาพ วิชาเป่ายันต์เกราะได้มีเกจิอาจารย์ที่เป็นลูกศิษย์ ที่ได้เล่าเรียนและสืบทอดวิชาเป่ายันต์เกราะเพชร ได้นำออกมาแพร่หลายและสร้างเป็นเครื่องมงคลมาจนถึงปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง โบราณท่านรับรองว่าใครรับยันต์เกราะเพชรแล้ว ๑. ไม่ตายโหง ๒. จะไม่ถูก คุณผี คุณคน จะป้องกัน สรรพอันตราย ที่บุคลทั้งหลายทำด้วยวิชาการต่างๆ ๓. จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษ ท่านใดที่ได้รับยันต์ไปแล้ว ถ้าบูชาไว้ด้วยดี ถ้าบุคคลใดก็ตามจะกลั่นแกล้ง บุคคลที่ได้ รับยันต์ไปแล้ว ท่านไม่ให้โกรธตอบให้ทำเฉยๆไว้ แล้วบุคคลนั้น จะได้รับผลกรรมที่ทำ เองโดนเฉพาะ หมายความว่า เราไม่ต้องตอบโต้อะไร เมื่อเขาได้แกล้งเราด้วยวิธีใด ก็วิธีนั้นๆ แหละจะ ลงโทษเขาเอง ถ้าเขาจะทำให้เราลำบากเขาก็จะลำบาดเอง อันนี้เป็นวิธีการอันดับหนึ่ง ที่ไม่ใช่ทำให้เขาลำบาก ถ้าเขาทำผลใดผงนั้นเขาพึงจะได้รับไปเอง เราไม่บาป แต่มีเงื่อนไข คือ ๑. ห้ามดื่มสุราเมรัยเว้นไว้แต่เป็นกระสายยา ๒. ห้ามทุจริตโดยลักขโมย ฉ้อโกง เป็นต้น ถ้าใคร ประพฤติปฏิบัติ ในศีล ๒ ข้อ ประการนี้ได้ ยันต์เกราะเพชร จะคุ้มครอง บุคลผู้นั้น ถ้ารักษาศีลไม่ได้ ยันต์เกราะเพชรจะไม่คุ้มตรองป้องกัน อันนี้เป็นจริง วิธีเป่า ยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปาน โสนันโท แห่งวัดบางนมโค อ. เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเถระผู้มากด้วยบารมีทั้งอภิญญาและด้านพลังจิต ด้านการรักษาโรค ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ และหลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสคันธ์ และเป็นศิษย์ร่วมอุปัชฌาย์กับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มีอาวุโสอ่อนกว่าหลวงพ่อจงหนึ่งพรรษา ท่านเรียกหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกว่าหลวงพี่เสมอมา หลวงพ่อปานท่านได้ตำราวิเศษจากพระร่วงเจ้าจากสุโขทัยและได้นิมิตจากป่าช้าท้ายวัดบางนมโคให้สร้างพระประทับนั่งอยู่เหนือสัตว์พาหนะหกอย่าง อันได้แก่ นก ครุฑ เม่น ไก่ ปลา และหนุมาน ท่านยังได้ตำราเกราะเพชรอันเป็นการชักยันต์พระอิติปิโสบทแรกเต็มบทเดินทแยงไปมาเป็นตาหมากรุกจนครบการเดินยันต์ พระอิติปิโสบทต้นเป็นยันต์ทะแยงคล้ายกับเกราะนี้ ตำราพระร่วงเจ้าเรียกว่า ชักยันต์เกราะเพชร อานุภาพของยันต์เกราะเพชร มีดังนี้ ก. เขียนลงบนกระดาษหรือผ้าเอาติดตัวไปเข้ารณรงค์สงคราม แม้มีลูกปืนยิงมาเป็นห่าฝนก็ไม่สามารถต้องร่างกาย แม้ถูกก็ไม่เข้า ข. เขียนบนกระดานชนวนแล้วลบผงมาใช้ จะแก้โรคได้สารพัดเป็นมหานิยม มหาอำนาจ คงกระพัน เป็นที่เกรงขามของภูตผีปีศาจทั้งปวง ค. เป่าให้ติดกระหม่อมของผู้คน จะเกิดความคงกระพันและเมตตามหานิยมไปจนถึงแคล้วคลาด และถ้าเป็นลูกชายตนโตออกมาเป็นผู้ชายยันต์นั้นจะติดไปจนปรากฏอยู่ในกระหม่อมเมื่อแรกเกิด หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลบผงยันต์เการะเพชรนำลงบรรจุในองค์พระเนื้อดินเผาด้านบน โดยผสมกับซีเมนต์อุดไว้ในรูที่เจาะไว้เพื่อเพิ่มพลังให้แก่องค์พระ ท่านกล่าวไว้ว่า พระนี้ปกติแล้วก็มีอานุภาพเหมือพระเครื่องทั่วไป แต่เสริมด้วยยันต์เกราะเพชรแล้วจะยิ่งมรอำนาจทางรักษาโรคและไล่ภูตผีปีศาจ ท่านได้นำยันต์เกราะเพชรพิมพ์ผ้ายันต์ กระดาษยันต์ และประทับไว้เหนือศีรษะของท่านในภาพทุกชุดไป นอกจากนี้หลวงพ่อท่านได้เป่ายันต์เกราะเพชรใส่ในกระหม่อมของคนทั่วไปเป็นคราวๆ ไป เรียกว่า เป่ายันต์เกระเพชร ท่านได้กล่าวว่าเกราะเพชรเป็นของสูงมีเทวดารักษา ไปหนใดเทวดาเห็นยันต์นี้เข้าก็รู้ได้ทันทีว่าในการสร้างยันต์นี้ได้มีการชุมนุมเทวดาและเทวดาทุกชั้นฟ้าก็มาร่วมรับรู้ จึงได้รับการรักษาให้แคล้วคลาดอันตรายต่อเนื่องกันไปทุกหนแห่ง
( ท่านใดชนะการประมูลเมื่อท่านโอนแล้วรบกวนแจ้งทาง INBOX ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ )
เช่าจริง โอนไว ติดต่อง่าย ขอบคุณมากครับ
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น