+++++ เริ่มประมูล 40 บาท ครับ เอาพระแท้ๆ มาแบ่งปันครับ +++++
พระขุนแผนหน้าตะโพน หลวงพ่อแช่ม ปี2470 เนื้อดิน
วัดตาก้อง จ.นครปฐม สุดยอดประสบการณ์ หายากมาก
ตัวจริง ทันแท้ ดูง่าย ครับ น่าแขวนมากๆครับ
ขุนแผนดินหน้าตะโพน" หลวงพ่อแช่มท่านนำเอาดินที่ปิดหน้ากลองตะโพนมาสร้าง "ตะโพน" เป็นกลองชนิดหนึ่ง ซึ่งสมัยก่อนดินที่นำมาผสมกับข้าวสุกเพื่อปิดหนังหน้ากลองตะโพนนั้น นิยมเอาไปให้อาจารย์ที่มีความรู้ทางวิชาอาคม ผสมของดีทางเมตตามหานิยม และปลุกเสกให้โดยเชื่อกันว่าเวลาตีจะทำให้มีเสียงไพเราะทำให้คนได้ยินได้ฟังเกิดความหลงใหล และอยากจะดูการละเล่นนั้นๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านก็มีคนมาขอให้ท่านปลุกเสกดินที่จะนำไปติดที่หน้ากลองตะโพนอยู่เสมอ
แต่ดินที่ใช้ปิดหน้ากลองตะโพนนี้ เมื่อผ่านไปหลายๆ วันก็จะแห้งและแตกหลุดออกมาจะต้องทำใหม่ปิดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านก็รู้ถึงเคล็ดลับทางเมตตามหานิยมของดินหน้าตะโพนชนิดนี้ดี ครั้นเมื่อดินหน้าตะโพนแห้งต้องทำใหม่ ท่านก็จะเก็บของเก่าสะสมเอาไว้เรื่อยๆ จนมีจำนวนมากเพียงพอแล้ว จึงนำเอาดินหน้าตะโพนนั้นมาสร้างเป็นพระเครื่องพิมพ์ขุนแผน โดยหวังอานิสงส์ทางเมตตามหานิยมเป็นหลัก
เมื่อได้ดินหน้าตะโพนมาจำนวนมากเพียงพอต่อการสร้างพระเครื่องแล้ว หลวงพ่อแช่มท่านยังได้นำเอามวลสารอีกหลายอย่างผสมเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นผงวิเศษ ว่าน ดินอุดรูปู ดินตีนท่า ดินโป่ง ฯลฯ เมื่อคลุกเคล้าเนื้อหามวลสารจนเข้ากันดีแล้ว จึงกดพิมพ์เป็นพระเครื่อง ซึ่งมีจำนวนประมาณหมื่นๆ องค์ เสร็จแล้วหลวงพ่อแช่มก็ปลุกเสกเดี่ยวก่อนนำแจก ลักษณะของพระขุนแผนดินหน้าตะโพน แค่ทำพอเป็นรูปร่าง รายละเอียดไม่ค่อยลึก และคมชัดนัก หย่อนความสวยงามไปบ้าง สีสันวรรณะออกไปทางสีเทาเข้ม
ในช่วง ปีพ.ศ. 2470-2490 การละเล่นยอดฮิตก็คือลิเก ส่วนเรื่องดนตรีก็จะเป็นกลองยาว โดยเฉพาะกลองยาวเป็นศิลปการดนตรีขั้นสุดยอด มีทั้งเสียงที่ไพเราะ มีทั้งการละเล่นและการร้องรำทำเพลงประกอบเสียงกลองยาว ทำให้ผู้คนสนุกสนานมีส่วนร่วมกับการละเ้ล่นไปด้วย แต่สุดยอดของการทำเสียงกลองยาวให้มีเสียงทุ้ม เสียงแหลม ที่กินใจไม่ได้อยู่ที่ฝีมือคนตีอย่างเดียว แต่เคล็ดลับที่สำคัญจะอยู่ที่การปิดดินตะโพนที่หนังกลองยาว ซึ่งเป็นสูตรลับ ของหัวหน้าคณะแต่ละคน ดินตะโพนจะทำจาก ข้าวเหนียวนึ่งสุกผสมกับขี้เถ้า หรือผงธูป ส่วนผสมอื่นหรือการลงของ จะอยู่ที่ใครเป็นศิษย์สายใด ด้วยความสำคัญของดินตะโพนนี้เอง ทำให้ลูกศิษย์ของหลวงพ่อแช่ม ต้องนำดินตะโพนที่พร้อมแล้วไปให้หลวงพ่อแช่ม ลงทางมหาเสน่ห์ ก่อนนำไปปิดกลองยาว เมื่อเวลาเล่นกลองยาว นอกจากความไพเราะแล้ว ยังเป็นผลทาง มหาเสน่ห์ นะจัง ทำให้ผู้ฟังลุ่มหลง แต่เพราะว่าเวลาตีกลองยาวไปนานๆเข้า ข้าวเหนียวที่ใช้ทำดินตะโพนจะหมดความเหนียว ติดหนังกลองไม่อยู่ จึงต้องมีการเปลี่ยนดินตะโพนบ่อยๆ ด้วยเหตุนี้เองหลวงพ่อแช่ม จึงให้เก็บดินตะโพนที่ใช้ไม่ได้แล้ว นำมาสร้างพระเครือง โดยเฉพาะเจาะจงสร้างเป็นพระพิมพ์ขุนแผน ขึ้น โดยใช้ดินตะโพนที่ทำการปลุกเสกแล้วมาเป็นมวลสารหลัก แล้วนำมาปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง ขุนแผนดินหน้าตะโพนหลวงพ่อแช่มจึงเด่นมากในเรื่องมหาเสน่ห์ ด้วยเหตุึผลดังกล่าวข้างต้น
ในยุคนั้น ในเมืองนครปฐมมี ลิเกคณะหนึงหัวหน้าคณะชื่อ ดอกดิน คนละคนกับดอกดิน กัญญามาลย์ ถือว่าเป็นลิเกที่ ดังที่สุด ในประเทศไทย คนรุ่นปู่เล่าต่อกันมาว่า ลิเกคณะดอกดิน จะตระเวณเล่นทั่วประเทศ ไปเล่นที่จังหวัดใดคนจะมืดฟ้ามัวดินเลยทีเดียว แต่จริงๆแล้ว นายดอกดิน ตัวจะดำมากเรียกว่า ดำปี๋ เลยทีเดียว ความหล่อเทียบ ไชยา มิตรไชย ไม่ได้เลย แต่คนทั่วทั้งประเทศจะติดลิเกคณะนี้กันมากทีเดียว ที่สำคัญตัวนายดอกดิน มีเมียมากซะด้วย จนกระทั่งความจริงเปิดเผยจากตัวแกเองในความสำเร็จว่า ตัวนายดอกดินได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก หลวงพ่อได้มอบวิชา นะหน้าทอง ให้กับนายดอกดิน จนทำให้แกเองประสบความสำเร็จถึงขั้นสูงสุดทีเดียว วิชานะหน้าทอง ที่แกได้จากหลวงพ่อทา ในภายหลังได้มีคนมาขอให้นายดอกดิน ลงนะหน้าทองให้ จนถึงขนาดมีพระหลายองค์มาขอเรียนวิชานะหน้าทอง จากนายดอกดิน เลยทีเดียว นอกจากนั้นตัวแกเองก็ได้เป็นศิษย์ หลวงพ่อแช่มวัดตาก้องด้วย เป็นการยืนยันได้ว่าสมัยก่อนการเล่นของเป็นไปอย่างแพร่หลายมาก สายวัดพะเนียงแตก และวัดตาก้อง ก็ถือว่าเป็นหนึงไม่เป็นรองใคร
Read more