- หลวงพ่อเป็นพระที่สุขุม มีสติ ปัญญาความคิดปฏิภาณเฉียบแหลมว่องไว สามารถแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ทันทีแม้จะเป็นพระที่หัวโบราณแต่ก็ทันสมัยอยู่เสมอ ลพ.เป็นผู้มีความเมตตาธรรมสูง
ไม่เลือกชนชั้นว่าผู้ดีหรือยากจน และพบหลวงพ่อได้ทุกโอกาส
ด้านไสยเวทย์
หลวงพ่อได้ศึกษาทางไสยเวทย์หลายด้านด้วยกันเช่นหมอแผนโบราณ,หมอกระดูก
(แต่ก่อนแพทย์สมัยใหม่ยังไม่เจริญเท่าที่ควร)ใครเจ็บป่วยก็จะมาตามหลวงพ่อไปรักษาไม่ว่าจะดึกแค่ไหนหลวงพ่อไม่เคยปฏิเสธ หลวงพ่อจะรักษาให้ทุกรายจนเป็นที่นับถือเลื่อมใสของชาวบ้านทำแม้แต่น้ำมนต์ไล่ภูตผี
ชีวิตบั้นปลายของหลวงพ่อ
เมื่อวันที่๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๑
ลพ.มีกิจนิมนต์สองที่คือช่วงเพลที่โรงงานโม่แป้งมันและช่วงเย็นที่สวนศรีเมือง
ที่โรงโม่แป้งมัน(มาบข่า)ก็ทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารให้พรเรียบร้อย
ก่อนที่ลพ.จะประพรมน้ำพระพุทธมนต์ลพ.สั่งให้เดินเครื่องโม่แป้ง
แล้วเริ่มประพรมน้ำพระพุทธมนต์จวนจะเสร็จแล้วเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นเมื่อสายพานเย่อเอาจีวรของลพ.ติดเข้าไปกับสายพาน(สายพานสามเส้นประมาณ๘นิ้ว)ทำให้ตัวหลวงพ่อติดกับสายพาน
หลวงพ่อก็จึงดึงจีวรกลับแต่สู้แรงเครื่องไม่ได้หลวงพ่อจึงท่องคาถาแคล้วคลาดว่า ยัมมะโข ภะคะวันตัง
สะระณังคะตาติ อุทธังอัทโธ นะโมพุทธายะ พุทธังปัดคลาดแคล้ว ธังมังปัดคลาดแคล้ว สังฆังปัดคลาดแคล้ว
พระเจ้าเกิดแล้ว อิติปิโส ภะคะวาติ เมื่อว่าจบเครื่องยนต์ก็ดับพอดี ปรากฏว่าสายพานขาด ๑เส้น
หลุดหัวต่ออีกสองเส้น ชาวบ้านจึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลระยอง
หลวงพ่อได้สลบไปชั่วครู่พอฟื้นมาก็พบกับหมอและพยาบาลหญิง
หลวงพ่อจึงขอเปลี่ยนโรงพยาบาลไปที่โรงพยาบาลสัตหีบ(อาภากรเกียรติวงศ์)รักษาอยู่หลายเดือนจึงหายแต่ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็รับนิมนต์ตลอด(หลวงพ่อท่านเป็นพระที่เกรงใจ)โดยขัดศรัทธาไม่ได้
พ.ศ. ๒๕๒๓
อาการของหลวงพ่อก็ยังทรงๆอยู่เช่นเดิมและมีโรคปวดท้องเพิ่มขึ้นมาอีกฉันยาหม้อแล้วก็ไม่ทุเลากลับมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ
เดือนมีนาคมหลวงพ่อจึงต้องเข้าโรงพยาบาล(อาภากรเกียรติวงศ์)อีกครั้งหนึ่งและเป็นการเข้าโรงพยาบาลครั้งสุดท้ายของหลวงพ่อ มาอยู่ได้๑๐วันแพทย์ก็ยังหาสาเหตุของโรคไม่พบ
แพทย์จึงต้องนำอุจจาระไปตรวจจึงพบว่ามีเลือดปนมากับอุจจาระ
แพทย์จึงเอาสายยางดูดเอาน้ำในกระเพาะอาหารออกมาตรวจอีกครั้งและพบเลือดสดๆปะปนมากับน้ำนั้นด้วย
แพทย์จึงสันนิษฐานว่าหลวงพ่อเป็นแผลในกระเพาะอาหารและจะทำการผ่าตัดหลวงพ่อยังไม่ยอมให้ผ่าตัดแต่จะกลับวัด ทางโรงพยาบาลไม่ยอมให้กลับจนเมื่อร่างการหลวงพ่อไม่ไหวหนังเข้าหลวงพ่อจึงยอมให้ผ่าตัด เมื่อวันที่๒๘มีนาคม๒๕๒๓เวลา๐๙.๐๐น.จึงนำหลวงพ่อเข้าห้องผ่าตัดผลปรากฏว่าหลวงพ่อเป็นแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ทะลุแผลที่ทะลุนั้นอยู่ตรงถุงน้ำดีและตับอ่อนพอดีไม่สามารถจะตัดต่อลำไส้ได้จึงได้อุดช่องเดิมแล้วลัดตรงข้ามแผลไปออกลำไส้
พอหลวงพ่อฟื้นขึ้นมาอาการก็ยังไม่ดีขึ้นแม้แพทย์พยายามช่วยเหลืออาการก็ยังไม่ดีขึ้นจึงต้องนำเข้าห้อง
ไอ.ซี. ยู. อีกครั้งหนึ่ง และหลวงพ่อก็จากไปด้วยสงบเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๒๓
Read more