ตามประวัติ หลวงพ่อสนิท ท่านมีนามเดิมว่า สนิท มีพงษ์ เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คนของนายบุญ และนางเรื่อง มีพงษ์ เกิดวันที่ 9 เมษายน 2468 ที่บ้านวังชัน ต.วังกุ้ง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มารดาเสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเยาว์วัย ต่อมาบิดาถึงแก่กรรมได้ย้ายมาอยู่กับพี่สาวที่บ้านลำบัวลอย ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก เมื่ออายุครบบวช ลุงได้พาไปอุปสมบทที่วัดท่าเรือ แล้วได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดลำบัวลอย ซึ่งในขณะนั้นเป็นวัดเล็กๆ อยู่ในถิ่นทุรกันดาร มีกุฏิสงฆ์หลังเล็กเพียงไม่กี่หลัง จนกระทั่งได้เป็นเจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบลท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก โดยได้รับสมณศักดิ์ที่ 'พระครูวรเวทย์วินิฐ' หลวงพ่อสนิทเป็นพระเถระรูปหนึ่งที่ประกอบคุณงามความดี เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัย มีนิสัยโอบอ้อมอารี รักสันโดษ ไม่สะสมทรัพย์สิน ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างอันเป็นที่เคารพนับถือของพระภิกษุ และประชาชนทั่วไป เป็นผู้มีสายตาและความคิดที่กว้างไกล โดยได้เชิญชวนญาติโยมชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกล มาร่วมก่อสร้างอุโบสถศาลาการเปรียญ และถาวรวัตถุอีกมากมาย จนวัดลำบัวลอยมีความสวยเด่นเป็นสง่า จวบจนปัจจุบัน
ด้านพุทธาคม 'พระครูวรเวทย์วินิฐ' หรือ 'หลวงพ่อสนิท' วัดลำบัวลอย ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก ได้ไปศึกษากับพระอาจารย์เส็ง วัดอินทรีย์ จ.ปราจีนบุรี และได้ร่ำเรียนวิชาจระเข้โทนและยาสมุนไพร เมื่อออกธุดงค์ได้พบกับพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นหลายท่าน เช่น พระอาจารย์ดำ ได้ร่ำเรียนวิชาเวทมนตร์คาถา วิชายาสมุนไพร ภายหลังท่านได้นำวิชาความรู้เหล่านั้นมารักษาผู้ป่วยด้วยยาแผนโบราณและผู้ป่วยที่โดนคุณไสย ให้แก่ผู้ที่เดือนร้อน และ ชาวบ้านที่มาหาท่านจนเป็นที่เลื่องลือ
วาระสุดท้ายหลวงพ่อสนิทมรณภาพเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2542 สิริอายุ 74 ปี พรรษา 51
ประเภทครื่องราง เช่น ตะกรุด ๗ ดอก พระขรรค์เพชร แน่นางกวัก สาริกาหลงรัง (เนื้อผง) พญาเต่าเรือน ขนาดบูชา และขนาดพกพา สาริกาคู่ (เนื้อผง) เต่ากริ่งเนื้อโลหะ จระเข้โทนเนื้อชินตะกั่ว (รุ่น 1 และรุ่นทบ.) จระเข้จันทร์เพ็ญ หรือปางนารายณ์อวตาร เนื้อรัตนมงคล (รุ่น 3) บาตรน้ำมนต์ ผ้ายันต์พญาเสือโคร่ง ท้าวเวสสุวรรณ ประคำ สีผึ้ง จระเข้ (กะไหล่เงินกะไหล่ทอง) ปลัดขิก ไข่พญากาเผือก หินแกะหนูกับแมว จระเข้สามกษัตริย์ (มีทั้งปลุกเสกพร้อมรุ่น 1 และที่ไปออกให้ที่วัดอื่น) เป็นต้น
วิชาจระเข้อาคม หลวงพ่อสนิทท่านเรียนจนสำเร็จและได้หล่อจระเข้โทนขึ้นมาบูชาครู ท่านสามารถเสกจระเข้หล่อให้มีชีวิตตัวใหญ่เท่าพญาชาละวันว่ายน้ำตีหางไปมาดังโครมคราม สำหรับจระเข้ที่นำมากล่าวถึงนี้คือ จระเข้จันทร์เพ็ญ หรือปางนารายณ์อวตาร ซึ่งเป็นจระเข้รุ่น 3 ที่สร้างด้วยโลหะพิเศษเนื้อทองผสมกะไหล่ทอง เจตนาเพื่อบูชาคุณอาจารย์เส็ง ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาจระเข้โทนมาให้ สูตรของหลวงปู่ เป็นรัตนมงคล พุทธาภิเษก 5 ไตรมาส (พ.ศ.2528-2533) ทุกคืนวันเพ็ญ จนกระทั่งจระเข้แหวกว่ายมีชีวิตในน้ำจันทร์เพ็ญ (เป็นน้ำที่ปรากฏมาเองโดยอัศจรรย์ ในบาตรที่หลวงปู่ใส่จระเข้จันทร์เพ็ญในพิธี) ท่านบอกว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นอวสานของท่าน เป็นรุ่นที่ดีที่สุด พุทธคุณเหมือนจระเข้ รุ่น 1 และ 2 แต่มีฤทธิ์มากกว่า (เป็นรุ่นเดียวที่มีศรนารายณ์คาด) พุทธคุณมีหลายด้าน
คาถาบูชาชนิดย่อๆ 'อิ สวา สุ' ภาวนา 3 คาบ 7 คาบ หรือแบบฉบับเต็มก็ว่า 'พุทธัง สะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆัง สะระณังเมสิทธิ พุทธังเอหิมาเรโส พุทธังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ' ดีนักปกป้องคุ้มครอง แคล้วคลาด ภูตผีปีศาจเกรงกลัว ป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ จระเข้โทน จะใส่กระเป๋าเสื้อกางเกง ผูกติดเอง คล้องคอ ลอดราวผ้า ใต้ถุนไม่ถืออะไรทั้งสิ้น เว้นแต่จะเป็นผู้คิดคดต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จระเข้ไม่คุ้มครอง จะแพ้ภัยตัวเอง
ด้านพุทธาคม 'พระครูวรเวทย์วินิฐ' หรือ 'หลวงพ่อสนิท' วัดลำบัวลอย ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก ได้ไปศึกษากับพระอาจารย์เส็ง วัดอินทรีย์ จ.ปราจีนบุรี และได้ร่ำเรียนวิชาจระเข้โทนและยาสมุนไพร เมื่อออกธุดงค์ได้พบกับพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นหลายท่าน เช่น พระอาจารย์ดำ ได้ร่ำเรียนวิชาเวทมนตร์คาถา วิชายาสมุนไพร ภายหลังท่านได้นำวิชาความรู้เหล่านั้นมารักษาผู้ป่วยด้วยยาแผนโบราณและผู้ป่วยที่โดนคุณไสย ให้แก่ผู้ที่เดือนร้อน และ ชาวบ้านที่มาหาท่านจนเป็นที่เลื่องลือ
วาระสุดท้ายหลวงพ่อสนิทมรณภาพเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2542 สิริอายุ 74 ปี พรรษา 51
ประเภทครื่องราง เช่น ตะกรุด ๗ ดอก พระขรรค์เพชร แน่นางกวัก สาริกาหลงรัง (เนื้อผง) พญาเต่าเรือน ขนาดบูชา และขนาดพกพา สาริกาคู่ (เนื้อผง) เต่ากริ่งเนื้อโลหะ จระเข้โทนเนื้อชินตะกั่ว (รุ่น 1 และรุ่นทบ.) จระเข้จันทร์เพ็ญ หรือปางนารายณ์อวตาร เนื้อรัตนมงคล (รุ่น 3) บาตรน้ำมนต์ ผ้ายันต์พญาเสือโคร่ง ท้าวเวสสุวรรณ ประคำ สีผึ้ง จระเข้ (กะไหล่เงินกะไหล่ทอง) ปลัดขิก ไข่พญากาเผือก หินแกะหนูกับแมว จระเข้สามกษัตริย์ (มีทั้งปลุกเสกพร้อมรุ่น 1 และที่ไปออกให้ที่วัดอื่น) เป็นต้น
วิชาจระเข้อาคม หลวงพ่อสนิทท่านเรียนจนสำเร็จและได้หล่อจระเข้โทนขึ้นมาบูชาครู ท่านสามารถเสกจระเข้หล่อให้มีชีวิตตัวใหญ่เท่าพญาชาละวันว่ายน้ำตีหางไปมาดังโครมคราม สำหรับจระเข้ที่นำมากล่าวถึงนี้คือ จระเข้จันทร์เพ็ญ หรือปางนารายณ์อวตาร ซึ่งเป็นจระเข้รุ่น 3 ที่สร้างด้วยโลหะพิเศษเนื้อทองผสมกะไหล่ทอง เจตนาเพื่อบูชาคุณอาจารย์เส็ง ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาจระเข้โทนมาให้ สูตรของหลวงปู่ เป็นรัตนมงคล พุทธาภิเษก 5 ไตรมาส (พ.ศ.2528-2533) ทุกคืนวันเพ็ญ จนกระทั่งจระเข้แหวกว่ายมีชีวิตในน้ำจันทร์เพ็ญ (เป็นน้ำที่ปรากฏมาเองโดยอัศจรรย์ ในบาตรที่หลวงปู่ใส่จระเข้จันทร์เพ็ญในพิธี) ท่านบอกว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นอวสานของท่าน เป็นรุ่นที่ดีที่สุด พุทธคุณเหมือนจระเข้ รุ่น 1 และ 2 แต่มีฤทธิ์มากกว่า (เป็นรุ่นเดียวที่มีศรนารายณ์คาด) พุทธคุณมีหลายด้าน
คาถาบูชาชนิดย่อๆ 'อิ สวา สุ' ภาวนา 3 คาบ 7 คาบ หรือแบบฉบับเต็มก็ว่า 'พุทธัง สะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆัง สะระณังเมสิทธิ พุทธังเอหิมาเรโส พุทธังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรัง คงคังปิติอิ' ดีนักปกป้องคุ้มครอง แคล้วคลาด ภูตผีปีศาจเกรงกลัว ป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ จระเข้โทน จะใส่กระเป๋าเสื้อกางเกง ผูกติดเอง คล้องคอ ลอดราวผ้า ใต้ถุนไม่ถืออะไรทั้งสิ้น เว้นแต่จะเป็นผู้คิดคดต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จระเข้ไม่คุ้มครอง จะแพ้ภัยตัวเอง
เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!
