1-3 วัดใจ 100 รูปหล่อเลขใต้ฐาน รุ่นแรก เจ้าคุณทอง วัดปลดสัตว์ (พระราชญาณดิลก) จ.อ่างทอง ปี 2553 เนื้อตะกั่ว โค้ดทอง หมายเลข 1928 กล่องเดิม

1-3 วัดใจ 100 รูปหล่อเลขใต้ฐาน รุ่นแรก เจ้าคุณทอง วัดปลดสัตว์ (พระราชญาณดิลก) จ.อ่างทอง ปี 2553 เนื้อตะกั่ว โค้ดทอง หมายเลข 1928 กล่องเดิม

พระราชญาณดิลก วัดปลดสัตว์ อ่างทอง ***เจ้าคุณทอง

คอลัมน์ มงคลข่าวสด

"วัดปลดสัตว์" สังกัดคณะธรรมยุต ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร ไปตามทาง หลวงหมายเลข 3501 กิโลเมตรที่ 3-4 เป็นวัดเก่าแก่ที่มีทิวทัศน์สวยงาม โบราณสถานและปูชนียสถานอันทรงคุณค่า โดยเฉพาะเจดีย์ทรงกุฎาคารหรือเรียกอีกอย่างว่า ทรงอาคารเรือนยอด เป็นเจดีย์ทรงลังกา ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5  วัดแห่งนี้มีความสำคัญ ด้วยในอดีตเป็นวัดที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ปราชญ์พระพุทธศาสนาเมืองไทย ประทานชื่อ นามว่า วัดปลดสัตว์ อันเป็นการปลดปล่อยชีวิตสัตว์ เป็นมหาบุญ เปรียบเสมือนว่าได้ชีวิตใหม่ ปลดทุกข์ ปลดโศก ปลดโรค ปลดภัย 
ล่วงเลยมาจนถึงกาลปัจจุบัน วัดปลดสัตว์ปรากฏนามพระสงฆ์สุปฏิปันโนอันคู่ควรแก่การกราบไหว้เป็นมงคลชีวิต คือ พระราชญาณดิลก 

พระราชญาณดิลก (ทองย้อย วิสสุวัณโณ) สิริอายุ 90 พรรษา 69 ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง (ธ) และเจ้าอาวาสวัดปลดสัตว์  เป็นพระสงฆ์นักปกครองที่มีความสามารถและจัดระเบียบการบริหารงานของคณะสงฆ์ใน จ.อ่างทอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ทองย้อย เพ็ชร์วิจิตร เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ 2463 ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา เกิดที่ ม.4 ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง 

ในวัยเยาว์ เรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนวัดปลดสัตว์ จากนั้นได้ลาออก และได้เข้าพิธีบรรพชาเมื่อวันพุธที่ 1 มิถุนายน 2481 ณ วัดปลดสัตว์ อ.เมือง จ.อ่างทอง มีพระวินัยมุนี (แปลก วุฑฺฒิญาโณ) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ 

ครั้นอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2485 ณ พัทธสีมาวัดปลดสัตว์ มีพระครูโยคานุกูล (ไสว อมโร) วัดเสนาสนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการสวัสดิ์ ธัมมกาโม วัดปลดสัตว์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ 

ด้วยท่านมีความสนใจในการศึกษาพระปริยัติธรรม ได้เข้าศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ที่สำนักเรียนจังหวัดอ่างทอง

จากนั้นได้ช่วยงานศาสนกิจคณะสงฆ์ในจังหวัดอ่างทอง ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2495 เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอจังหวัดอ่างทอง (ธรรมยุต) พ.ศ.2504 เป็นเจ้าอาวาสวัดไตรรัตนาราม จ.อ่างทอง พ.ศ.2513 เป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง (ธรรมยุต)

พ.ศ.2516 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปลดสัตว์ พ.ศ.2533 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นอุปัชฌาย์ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดปลดสัตว์ จังหวัดอ่างทอง รวมทั้งได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอจังหวัดอ่างทอง (ธรรมยุต)

พ.ศ.2537 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง (ธรรมยุต)

พ.ศ.2546 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง (ธรรมยุต)

ด้านการปกครอง ให้พระภิกษุ-สามเณรลงอุโบสถสังฆกรรม และทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็นตลอดปี ระเบียบปกครองวัดอาศัยหลักพระธรรมวินัย กฎระเบียบ และข้อบังคับ ปกครองคณะสงฆ์ แบบพ่อกับลูก พี่กับน้อง และแบ่งอำนาจหน้าที่ช่วยกันรับผิดชอบภายในวัด มีการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลี

งานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จัดกิจกรรมบวชชี-พราหมณ์ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นประจำทุกปี ร่วมมือกับคณะสงฆ์ และหน่วยงานราชการ เผยแผ่หลักธรรม โดยออกปฏิบัติงานพระธรรมทูต อบรมพระภิกษุ-สามเณร ประชาชน และนักเรียนเป็นประจำ

ผลงานด้านงานสาธารณูปการ บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะวัดไตรรัตนาราม ต.ทางพระ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ให้มีความเรียบร้อย เป็นผู้ริเริ่มสร้างโรงเรียนวัดไตรรัตนาราม(วิมลวิทยา) ต.ทางพระ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง อีกทั้งยังได้บูรณปฏิสังขรณ์ ฌาปนสถาน กุฏิสงฆ์ อุโบสถ เจดีย์วัดปลดสัตว์ สร้างกำแพง ศาลาอเนก ประสงค์ ศาลาท่าน้ำ เขื่อนดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา

พระเดชพระคุณท่านมีความรู้พิเศษ สามารถอ่าน-เขียนภาษาบาลี-ขอมได้ ซึ่งได้รับการเรียนการสอนมาจากพระราชธรรมโสภณ (สวัสดิ์) งานด้านนวกรรมและงานเลขานุการ

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2497 ได้รับพระราช ทานแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ในราชทินนามพระครูวิมลธรรมบรรหาร พ.ศ.2507 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ที่พระครูสัญญาบัตรเทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามเดิม 

พ.ศ.2511 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์พระครูสัญญาบัตร เทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระ วิมลธรรมานุยุต

พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชญาณดิลก

ด้านการศึกษาพุทธาคม พระราชญาณดิลก หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่า ท่านเจ้าคุณทอง ได้สืบสายวิทยาคมชั้นยอด ด้วยการศึกษาตำราเก่าจากคัมภีร์เก่าใบลานที่ตกทอดมาจากท่านขุนธรรมการ (อาจารย์เฒ่า) รวมทั้งได้เล่าเรียนวิชาจากเจ้าคุณสวัสดิ์ (พระราชธรรมโสภณ) 

สำหรับเจ้าคุณสวัสดิ์ เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่ออิ่ม วัดศีลขันธ์ ยอดพระเกจิดังเมืองอ่างทอง จึงกล่าวได้ว่า ท่านเจ้าคุณทองได้รับตกทอดวิชาสายหลวงพ่ออิ่ม 

อย่างไรก็ตาม ท่านไม่เคยพูดคุยโอ้อวด แต่กลับเงียบเฉย วางตัวเรียบง่าย ยิ่งกาลเวลาผ่านไป เจ้าคุณทองได้สั่งสมประสบการณ์ รู้หนาวรู้ร้อน ผ่านกาลฝนมามาก มีประสบการณ์ทุกอย่าง ทำให้เกียรติคุณของท่านเป็นที่รู้จักศรัทธาเลื่อมใส วัดใกล้หรือไกลหากจัดพิธีพุทธาภิเษก-เทวาภิเษกวัตถุมงคลแล้วทำใบฎีกานิมนต์มา ท่านไม่เคยปฏิเสธ เชื่อมั่นได้เลยว่าวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตแล้วมีอิทธิคุณสูงส่ง แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี มีโชคลาภและมากด้วยประสบการณ์ 

พระราชญาณดิลก ถือว่าเป็นพระเถระที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม ด้วยหลักใหญ่ใจความของท่านอยู่ที่การศึกษา ทุ่มเทชีวิตจิตใจและรับผิดชอบมายาวนาน สิ่งดีๆ ที่มีในตัวท่าน ในฐานะผู้อุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม ศาสนา และประเทศชาติ เป็นอเนกนานัปการ ควรค่าแก่การยกย่องประกาศเกียรติคุณสืบไป