เหรียญที่ระลึกพระอนุสรณ์ อนุสาวรีย์ล้นเกล้าฯ ร.๖ พระราชทานกำเนิดรักษาดินแดน ออกเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๕
หรือ ที่เรียกกันส่วนใหญ่ว่า เหรียญ ร.6 ของกรมการรักษาดินแดน ปี 2505 นี้ได้ถูกจัดเข้าอยู่ในทำเนียบวัตถุมงคลของพระภิกษุธมฺมวิตกฺโก พระยานรรัตน์ราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์) วัดเทพศิรินทราวาส แม้ว่าท่านจะมิได้เป็นพระภิกษุรูปเดียวที่ได้ปลุกเสกอธิษฐานจิตเหรียญ ร.6 นี้ก็ตาม คือหมายความว่าเหรียญรุ่นนี้ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกหมู่โดยคณาจารย์หลายองค์ แต่คนทั่วไปก็ยกเหรียญ ร.6 ให้เป็นเครดิตของท่านไป
ทำนองเดียวกับพระเครื่องที่ปลุกเสกในพระอุโบสถวัดบวรฯ แม้เป็นพิธีหมู่คือมีครูบาอาจารย์ทั่วประเทศเข้าร่วมนั่งปรก คนทั้งหลายก็ยกให้เป็นพระเครื่องของสมเด็จพระสังฆราชเจ้าไปทั้งหมดเหมือนกัน
เหรียญพระบรมรูปของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 กรมการรักษาดินแดนจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกพระอนุสรณ์อนุสาวรีย์ ที่ประดิษฐานอยู่หน้าสวนลุมพินี โดยทำขึ้นหลายแบบทั้งกลมใหญ่ กลมเล็ก และใบเสมา จำนวนสร้างคาดว่าถึงหลักแสน เมื่อสร้างสำเร็จแล้ว ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกขึ้นในวันที่ 17 พ.ย. 2505 มีคณาจารย์รับนิมนต์มานั่งปรกปลุกเสกหลายองค์ เช่น หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร หลวงปู่อาคม วัดสุทัศน์ฯ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หลวงพ่อคล้าย วัดจันดี หลวงพ่อนาค วัดระฆัง พระสุธรรมธีรคุณ วัดสระเกศ พระอาจารย์ผ่อง วัดสามปลื้ม และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ในพิธียังได้มีการอัญเชิญดวงพระวิญญาณของอดีตพระมหากษัตริย์ไทย แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ ร.1-ร.8 มาประทับทรงในร่างของนายทหารและนายตำรวจ เพื่อทรงเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีปลุกเสกด้วย
คุณท.สิริปัญโญ ได้กล่าวถึงเหรียญ ร.6 ไว้ในหนังสือทำเนียบประวัติของท่านเจ้าคุณนรฯ ว่า
“ในสมัยนั้นข้าพเจ้ายังรุ่นหนุ่ม ยังได้ดูเขาทำพิธีกันเห็นมีอาสนะว่างอยู่ 2 ที่ เท่าที่จำได้มีพระเกจิอาจารย์จากวัดต่างๆ มานั่งปรกกันเป็นจำนวนมาก และมีพระครูประกาศสมาธิคุณ สำนักวัดมหาธาตุเป็นผู้บรรยาย (โฆษก) ฝ่ายสงฆ์ในสมัยนั้น พอเสร็จพิธีได้มีหลวงพ่ออยู่องค์หนึ่งท่านนั่งปรกอยู่ข้างอาสนะที่ว่าง ท่านได้สอบถามเจ้ากรมรักษาดินแดนว่าเป็นพระรูปใดที่มานั่งปรกอาสนะข้างท่าน ท่านเจ้ากรมจึงกราบเรียนว่าเป็นอาสนะของท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านบอกว่าเห็นมานั่งปรกอยู่เสร็จแล้วก็ได้หายไปเฉยๆ ยังความแปลกใจให้กับทุกคนที่ได้ยินและได้ฟัง เพราะต่างเห็นว่าว่างเปล่า ไม่เห็นมีใครมานั่งอยู่บนอาสนะนั้น”
เรื่องที่อาสนะของท่านเจ้าคุณนรฯ ว่างเปล่า จนเป็นเหตุอัศจรรย์ว่ามีหลวงพ่อองค์ที่นั่งใกล้อาสนะว่างนั้น เกิดนิมิตเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งมานั่งปรกปลุกเสกด้วย คือมานั่งเดี๋ยวเดียวก็หายตัวไปนั้นมีอยู่ว่า ในการกระทำพิธีพุทธาภิเษกเหรียญ ร.6 ครั้งนั้น คณะกรรมการทุกคนจำเป็นต้องระลึกถึงท่านเจ้าคุณนรฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าท่านเป็นผู้หนึ่งที่จงรักภักดีต่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 จนปวารณาตัวบวชไม่สึก และล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ก็ทรงไปโปรดปรานท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นอย่างยิ่ง เมื่อระลึกถึงท่านเจ้าคุณนรฯ ได้อย่างนี้แล้ว ก็ไปกราบอาราธนาท่านเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วย แต่ท่านได้ปฏิเสธและบอกว่า
“อาตมาจะขอนั่งปรกปลุกเสกอยู่ในกุฏินี้ เพื่อส่งกระแสจิตไปร่วมพิธีพุทธาภิเษก ด้วยจนกว่าจะเสร็จ”
และท่านยังได้สั่งให้จัดอาสนะสำหรับท่านไว้ในพิธีนั้นด้วย
คณะกรรมการสร้างเหรียญ ร.6 ชุดนั้นได้นำชื่อของท่านเจ้าคุณนรฯ ออกประกาศให้ประชาชนทั้งหลายทราบว่า ท่านจะส่งกระแสจิตเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ด้วย แม้ว่าท่านจะไม่มา
จนกระทั่งเกิดเป็นเรื่องฮือฮา ถึงกับมีการจองเหรียญ ร.6 นี้เป็นจำนวนมาก ชั่วเวลาไม่ถึงสิบวันก่อนพิธี ปรากฏว่ามีการจองเหรียญกันแล้วไม่น้อยกว่า 4 หมื่นเหรียญ นี่ก็เห็นจะเป็นเพราะคำประกาศที่ว่าท่านเจ้าคุณนรฯ จะส่งกระแสจิตเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกนั่นเอง
เรียกว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้ยิน
แต่ว่าในที่สุดก็มีเหตุแปลกประหลาดยิ่งกว่าเกิดขึ้น เมื่อหลวงพ่อองค์หนึ่ง (เสียดายที่ไม่ทราบชื่อของท่าน) ได้เกิดมีอันเห็นพระรูปหนึ่งที่ท่านเองไม่เคยรู้จัก มานั่งบนอาสนะว่างของเจ้าคณนรฯ ในระหว่างที่พิธีปลุกเสกกำลังดำเนินอยู่ จึงทำให้ทุกคนเชื่อว่า นั่นต้องเป็นภาพที่เกิดด้วยอำนาจการส่งกระแสจิตของท่านเจ้าคุณนรฯ อย่างไม่ต้องสงสัย
จะเรียกว่ากายทิพย์หรือเรียกอย่างไรก็สุดแล้วแต่ศรัทธา
สาเหตุที่ท่านเจ้าคุณนรฯ ไม่ได้มาร่วมพิธีปลุกเสกเหรียญ ร.6 นั้นก็เพราะว่าท่านได้อธิษฐานการไม่ออกจากวัดเอาไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้สงครามจะเกิดถึงขั้นมีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดใส่วัด ท่านก็ไม่หนีไปไหน ยังคงนั่งภาวนาแผ่เมตตาให้นักบินข้าศึกอยู่ในกุฏิของท่านตามลำพัง คนอื่นๆ พากันทิ้งวัดหมด แต่ท่านไม่ทิ้ง เพราะว่าได้อธิษฐานไว้อย่างนั้นแล้ว
คราวภิกษุผู้เป็นบิดาของท่านมรณภาพลงที่วัดโสมนัสวิหาร ท่านก็ยังไม่ออกจากวัดไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ หรืองานพระราชทานเพลิงศพภิกษุบิดาท่านแต่อย่างใด เพราะสัจจะที่ได้ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ออกจากวัดจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ซึ่งท่านก็ทำได้ตามนั้นจนกระทั่งถึงวันหมดลมหายใจไปจริงๆ
อย่างไรก็ตาม พระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ ได้เคยปลุกเสกหรืออธิษฐานจิตไว้มากมายนั้น โดยมากมีราคาแพงมากๆ คงมีเหรียญ ร.6 ที่กรมการรักษาดินแดนจัดสร้างในปี 2505 นี้เท่านั้นที่ยังมีราคาถูกๆ อาจเรียกว่าถูกที่สุดในบรรดาของขลังทั้งหมดของท่านก็ว่าได้
โอนเงินตามกฎ DD-PRA คือ โอนภายใน 3 วัน เมื่อโอนแล้วแจ้งทางกล่องข้อความ
หลัง 3 วัน ขออนุญาตยกเลิก และให้คำติครับ
ขอบคุณครับ
ซื้อจริง-ไม่ทิ้งประมูล การันตี 1 เสียง โอนเร็วมาก ขั้นเทพ ปิดปุ๊ป โอนปั๊ป ขอบคุณที่ร่วมประมูลและหวังว่าคงมีโอกาสร่วมประมูลอีกครับ รหัสพัสดุจัดส่งทางไปรษณีย์ RL 6082 8355 6 TH ( ถ้าไม่ได้รับของหรือไปถึงช้าผิดปกติ... รบกวนแจ้งที่ mailbox เพื่อจะได้ตรวจสอบและติดตามให้ครับ )
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น