ช่อเหล็กไหลเงินยวง เหล็กไหลประเภทนี้มักจะอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นสบาย และมีอุณหภูมิที่หนาวเย็นมาก มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เหล็กไหลชีปะขาว พบได้มากในเขตประเทศเนปาล ธิเบต หรือประเทศที่มีภูมิอากาศค่อนข้างหนาวเย็นและมีหิมะตก สีของเหล็กไหลเงินยวงจะมีสีขาว มีลักษณะเป็นยวงคล้ายกับปรอท แวววาวดุจโลหะ เชื่อกันว่าวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในเหล็กไหลเงินยวงมักจะเป็นชีปะขาว หรือคนธรรพ์ที่คอยดูแลรักษาเหล็กไหลชนิดนี้อยู่เชื่อกันว่าอนุภาพของเงินยวงมีพลังความศักดิ์สิทธิ์ในองค์เอง ทำลายอวิชาต่างๆได้ดี และปรับ อุณหภูมิภายในร่างกายให้กับเจ้าของใช้ทำน้ำมนต์รักษาโรค ป้องกัน ...
#การบูชาเหล็กไหลโดยตามความเชื่อแล้วก็จะมีการบูชาด้วยการใช้คาถาอาคม ซึ่งเหล็กไหลจะมีความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ได้ก็ต่อเมื่อผู้ที่บูชามีความเชื่อ มีความเคารพศรัทธาต่อพลังธาตุกายสิทธิ์ และต่อครูบาอาจารย์ที่ได้ทำการถ่ายทอดพระคาถาอาคมนั้นๆ นับได้ว่าใครที่ได้ครอบครองเหล็กไหลถือเป็นความโชคดี เหนือสิ่งอื่นใด ความสำเร็จในชีวิตจะเกิดขึ้นได้ เราต้องเป็นผู้สร้างเอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถสร้างให้ได้ แต่จะเป็นเครื่องช่วยนำทางให้พบแต่ความโชคดี แคล้วคลาด ปลอดภัย สิ่งที่สำคัญเราพึงระลึกอยู่เสมอว่า คนทุกคนล้วนแต่อยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่ตั้ง ขอให้เราจงยอมรับกรรมนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือไม่ดีก็ตาม ให้มีสติอยู่เสมอจะได้ไม่เสียสมดุลของชีวิต
การบูชาธรรมธาตุเหล็กไหล ( ตั้ง นะโม 3 จบ )
“ พุทโธเมนาโถ ธัมโมเมนาโถ สังโฆเมนาโถ สะกะพะจะ บูชา จะ มหาบูชา
ท่านผู้ดูแลรักษา ธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ อันทรงฤทธิ์อานุภาพนี้
อิสะวาสุ อิติปิโส ภะคะวา เหล็กไหลเจริญมา เจริญยิ่ง เจริญดี
สิ่งดี ๆ ทั้งหลาย หลั่งไหลเข้ามาสู่แก่ตัวข้าพเจ้า ชื่อ ......... นามสกุล .........
สัมมะ สัมมา สัมมา สัมมะ นะมะอะอุ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ ”
ตอนกล่าวคาถา “ นะ มะ อะ อุ ” กำหนดจิตรับพลังเหล็กไหลเข้าไปที่ นะ (หน้าผาก) , มะ (หน้าอก) , อะ (แผ่นหลัง) และ อุ (หน้าท้อง ที่จุดสะดือ)ครับ