พระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว) ได้อุทิศชีวิตและร่างกายให้กับพระศาสนา และสังคมอย่างไม่หยุดยั้ง ตลอดชีวิตของท่านตั้งแต่บวชจนถึงปี พ.ศ. 2524 หลวงปู่ไม่เคยป่วยมากถึงกับต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเลย นอกจากบางครั้งเป็นไข้หวัด เรียกหมอมาฉีดยา
ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2524 หลวงปู่ได้เดินพลาดบันได เท้าแพลง เดินไม่ได้หลายเดือน ถึงกระนั้นท่านก็ยังทำกิจวัตรของท่านโดยการใช้รถเข็น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 หลวงปู่เริ่มป่วยบ่อยครั้งส่วนใหญ่จะเป็นไข้หวัดและอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ และไม่ค่อยมีแรง คณะกรรมการและศิษยานุศิษย์ ต้องการที่จะให้ท่านได้พักผ่อนให้มาก จึงได้นำท่านไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท กรุงเทพมหานคร เป็นเวลาเกือบเดือน เมื่อท่านหายเป็นปกติแล้วจึงได้นำกลับมาพักผ่อนที่วัดตามเดิม
ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 หลวงปู่ได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไทอีกหลายครั้ง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรคเก่า คืออ่อนเพลีย-วิงเวียนศีรษะ-และไข้หวัด แต่เมื่อได้เข้าพักรักษาตัวไม่นาน ท่านก็หายเป็นปกติทุกครั้ง
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2526 อาการป่วยของหลวงปู่ก็เริ่มเกิดขึ้นอีกเวลาประมาณ 16.00 น. ศิษย์หลวงปู่ ได้นำเอารถมารับหลวงปู่ ไปยังโรงพยาบาลพญาไทในเย็นของวันนั้น หลวงปู่ต้องเข้าพักรักษาตัวใน ห้อง ไอ.ซี.ยู. เป็นเวลา 1 คืน
วันที่ 6 ก.ย. 26 อาการของหลวงปู่ก็เริ่มดีขึ้นโดยลำดับ ท่านก็บอกหมอ และศิษย์ที่ไปเฝ้าว่า ท่านต้องการกลับวัด หมอขอร้องให้ท่านอยู่อีกสัก 2-3 วัน จึงจะกลับได้
วันที่ 7 ก.ย. 26 อาการของหลวงปู่ก็เริ่มดีขึ้นโดยลำดับ
วันที่ 8 ก.ย. 26 อาการของหลวงปู่ก็นับว่า เกือบจะเป็นปกติแล้ว และตั้งใจว่าจะกลับไปวัดได้ในวันรุ่งขึ้น
จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. พระมหาสมบูรณ์ ปญฺญาวุโธ และคณะที่ไปเยี่ยมหลวงปู่ตั้งแต่ตอนเย็น วันนั้น ต่างพูดคุยกวันในห้องพักนั้นอย่างปกติ โดยคุยกับหลวงปู่บ้าง คุยกันเองบ้าง เพราะดีใจที่หลวงปู่หายดีแล้ว
เวลาประมาณ 24.00 น. หลวงปู่ได้ตื่นขึ้นมาเพื่อเข้าห้องน้ำ พระประจวบก็ได้ประคองให้หลวงปู่เข้าห้องน้ำ เมื่อเสร็จกิจแล้ว ก็กลับมานอนตามปกติ หลวงปู่ก็นอนหลับ
เวลา 3.30 น. หลวงปู่ได้ตื่นขึ้น และเข้าห้องน้ำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเสร็จแล้วหลวงปู่ก็นั่งอยู่บนเตียงและบอกให้พระประจวบหยิบบุหรี่ใบจากให้ท่านสูบ ท่านก็ถามพระประจวบว่า "เวลาเท่าไรแล้ว" พระประจวบ ตอบว่า จวนตี 4 แล้ว ท่านก็พยักหน้ารับรู้แล้วบอกพระประจวบว่า ให้ถอยออกไปก่อนบอกว่าให้ไปนอนต่อเถอะยังดึกอยู่
จนเวลา 05.00 น. เห็นหลวงปู่นอนหลับ ก็เดินเข้าไปจับดูเหมือนกับท่านกำลังหลับ น้ำเกลือที่ให้ยังหยดอยู่ตามปกติ พระประจวบคิดว่าหลวงปู่นอนหลับจึงไม่รบกวนท่าน สักพักหนึ่งพระประจวบจึงฉุกคิดว่า ปกติหลวงปู่ท่านเป็นคนตื่นง่ายเมื่อถูกตัวท่านแล้วท่านจะต้องรู้ตัวจึงรีบเข้าไปจับดูและเอานิ้วไปแต่ที่จมูกท่าน ปรากฏว่าท่านไม่หายใจเสียแล้ว ด้วยความตกใจ รีบไปเรียกนางพยาบาลมาโดยเร็ว เมื่อนางพยาบาลมาตรวจดู เห็นหลวงปู่ตัวยังอุ่นอยู่ จึงรีบปั้มหัวใจเพื่อช่วยเหลือให้ท่านได้หายใจอีกครั้ง แต่ ...สายไปเสียแล้ว หลวงปู่สิ้นใจโดยสงบ ทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยแต่มันก็เป็นไปแล้วจริง ๆ ... (เหตุการณ์นี้จากการจดบันทึก ของพระประจวบ สุนฺทรญาโณ พระผู้อุปัฏฐากใกล้ชิดจดไว้)
วันที่ 9 ก.ย. 26 หลวงปู่กลับมาวัดจริง ๆ ตามความประสงค์ของท่าน แต่ท่านกลับมาเพียงร่างกายเท่านั้น ส่วนวิญญาณของท่านไปสู่สุคติโลกสวรรค์แล้วโดยความสงบสุข ปล่อยให้ลูกศิษย์ทั้งหลายต้องเศร้าโศรกเสียใจอย่างใหญ่หลวง ถึงแม้เป็นกฎธรรมชาติก็จริงอยู่ แต่ใครเล่าจะอดใจได้ ในเมื่อสิ่งที่รัก-สิ่งที่เคารพ-บูชาสุงสุด ได้จากไปอย่างที่ไม่ทันจะคาดคิดอย่างนี้
หลวงปู่จากไปเมื่อตอนเช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2526 เวลา 04.45 น. ท่ามกลางความอาลัยของศิษยานุศิษย์ และผู้ที่เคารพทั่วไป
โอนแล้ว 820 บาท 18/11/65 เวลา 23.30 น
สุดยอด เยี่ยมมาก โอนไว โอนเร็ว โอนจริง ขอบคุณมากครับ
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น