เหรียญพระแก้วมรกต ลพ มหาวิบูลย์ วัดโพธิคุณ พร้อมรูปถ่ายเกษา 290-1
เหรียญ พระแก้วมรกต ลพ มหาวิบูลย์ วัดโพธิคุณ พร้อมรูปถ่ายเกษา
ท่านศึกษาพระธรรมสอบนักธรรมแล้ว เกิดสงสัยว่าธรรมะไม่มีจริง คงมีแต่ในหนังสือที่เรียน จนได้เปลี่ยนแนวทางมาวิปัสสากรรมฐานกับครูบาอาจารย์สายพระป่า เช่นหลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่เทียม วัดกษัตรา จึงได้ทราบซึ้งในพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังประวัติหลวงพ่อส่วนหนึ้ง ดังนี้
หลวงพ่อพระมหาวิบูลย์ พุทธญาโณ
พระภิกษุผู้มีความสำรวมเป็นอารมณ์แห่งวัดโพธิคุณ (สวนโพธิญาณ) บ้านแม่ห้วยหินฝน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก
ได้เคยเขียนชีวประวัติของหลวงพ่อพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต แห่ง วัดพระยาทำ ผู้ทรงอภิญญาเป็นเอก ไม่แพ้เกจิอาจารย์ท่านใดในกรุงรัตนโกสินทร์นี้มาแล้ว
จวบจนกระทั่งท่านได้มรณภาพไปเมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ บรรดาศิษย์ทั้งหลายของท่านก็บังเกิดความว้าเหว่ประดุจนกที่ขาดร่มโพธิ์ร่มไทรเป็นที่พึ่งพิง
หากทว่าได้ ท่าน มหาประทุม จินตคุโณ พระภิกษุผู้ทรงคุณธรรมที่เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขาฯ ของหลวงพ่อพระอาจารย์สุชาติมาแนะนำว่า ศิษย์ของหลวงพ่อพระอาจารย์สุชาติที่เก่งขนาดท่านออกปากชมเชยยังมีอยู่อีกองค์หนึ่ง ซึ่งจะเป็นที่พึ่งแก่บรรดาศิษย์ทั้งหลายของหลวงพ่อพระอาจารย์สุชาติได้
พระภิกษุองค์นี้ หลวงพ่อพระอาจารย์สุชาติเคยเรียกมาใช้แทนตัวท่านเองอยู่เป็นเนืองนิตย์ ในสมัยที่ท่านยังอยู่วัดอินทารามตลาดพลู ครั้งเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่
แต่พระภิกษุองค์ดังกล่าวท่านชอบออกธุดงค์หาความวิเวกเสมอมา ในระยะหลังบรรดาศิษย์ทั้งหลายของหลวงพ่อพระอาจารย์สุชาติ จึงไม่ค่อยจะได้รู้จักท่าน
ปัจจุบันนี้ท่านพำนักอยู่ที่วัดโพธิคุณ (สวนโพธิญาณ) อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ท่านผู้นี้คือ ท่านพระอาจารย์มหาวิบูลย์ พุทธญาโณ
ไม่เชื่อก็ต้องลอง
ผู้เขียนได้นมัสการกราบเรียนถามท่านถึงสาเหตุที่มาปฏิบัติธรรมทั้ง ๆ ที่เป็นพระนักศึกษามาก่อน ท่านอาจารย์มหาวิบูลย์ได้เปิดเผยว่า
“ สาเหตุที่อาตมามาปฏิบัตินั้น เพราะเคยเข้าใจว่าธรรมะอยู่ที่การเรียน คือการศึกษาเล่าเรียนอาจจะทำให้เข้าใจธรรมะดี
แต่เรียน ๆ ไปจนได้นักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก และมหาเปรียญแล้วก็รู้สึกเหมือนเดิมไม่มีความเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดสุขก็ยังสุข ทุกข์ก็ยังทุกข์จิตใจไม่ดีขึ้น ก็เลยมาค้นหาธรรมะ ว่าธรรมะที่แท้จริงนั้นอยู่ตรงไหน ธรรมะนั้นเป็นอย่างไร
ตอนนั้นอาตมาเกิดอคติต่อธรรมะ คือแทบไม่เชื่อว่าธรรมะนั้นมีจริง ! คิดว่าเป็นเพียงตัวหนังสือที่ชาวบ้านเขาเขียนกันขึ้นมาให้คนเรียนเท่านั้น
อาตมาเข้าใจอย่างนั้น มีความเห็นผิดขนาดนั้น ! ต่อมาจึงได้ตัดสินใจ หลังจากได้ยินท่านพระครูประกาศพูดบ้าง ครูบาอาจารย์ท่านพูดบ้าง
ครูบาอาจารย์ที่รู้จักมักคุ้นโดยเฉพาะ “ หลวงพ่อใหญ่ ” (ท่านเจ้าคุณวิเชียรมุนี) เจ้าอาวาสวัดอินทารามสมัยโน้น ท่านเป็นพระภาวนาแต่เป็นพระสันโดษ ท่านไม่ค่อยพูด อยู่เงียบ ๆ ท่านเรียกไปพูดให้ฟังก็เลยลองตัดสินใจภาวนาจากตำรา
มานั่งภาวนาอยู่ในกุฎิคืนหนึ่ง ผลก็คือรู้จักเหตุรู้จักผลดีขึ้น จิตใจสงบลง
อาตมาภาวนาโดยใช้เพ่งกสิณเพ่งน้ำอยู่คืนหนึ่ง รู้สึกสบายดี ก็เลยตั้งใจจะลองภาวนาดูสัก ๖ เดือน ถ้า ๖ เดือน ไม่รู้อะไรเลยก็จะเลิกแล้ว ไม่เชื่อแล้วธรรมะนี้ ”
ปฏิบัติกันขั้นอุกฤษฏ์
เมื่อท่านอาจารย์มหาวิบูลย์พุทธญาโณ ตัดสินใจเช่นนั้น ท่านก็เริ่มปฏิบัติและปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง โดยใช้คำภาวนา “ พุท-โธ ” บ้างใช้ภาวนา “ เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ ” บ้าง
แต่ส่วนมากใช้ อาโปกสิณ หรือไม่ก็ เตโชกสิณ ท่านบอกว่าเป็นวิธีที่ง่ายหน่อย รวมจิตเร็ว
การปฏิบัติของท่านอาจารย์มหาวิบูลย์นั้น ท่านปฏิบัติอยู่ในสามอิริยาบถ คือ ยืน เดิน นั่ง ไม่มีการนอนตลอด ๖ เดือน !
ยืนก็ภาวนา เดินก็ภาวน นั่งก็ภาวนา เพ่งกสิณบ้าง ถึงกระนั้นท่านยังบอกว่าสองเดือนแรกไม่เห็นผลอะไร พอเข้าเดือนที่สามจึงรู้สึกจะได้ผลดี จิตมีความรู้แปลก ๆ สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็เกิดรู้ขึ้น อะไรที่แปลกปลอมเข้ามา จิตก็เริ่มรู้ทันเร็วขึ้น ธรรมะที่ไม่เคยเรียนรู้ก็ผุดขึ้นมาในใจ
การปฏิบัติของท่านตอนนั้นทำให้สุขภาพทรุดโทรม ร่างกายผ่ายผอม แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อ ท่านต้องการเห็นธรรมะ ท่านต้องการรู้ธรรมะ แม้ตัวจะตายท่านก็ยอม
“ พออาตมาปฏิบัติได้ครบ ๖ เดือนก็เข้าป่า ” ท่านบอก
วันที่เริ่ม December 21, 2024 23:50:38
วันที่ปิดประมูล December 30, 2024 23:50:38
ราคาเปิด250
เพิ่มครั้งละ20
ธนาคารกสิกรไทย (คลองด่าน) ,