สุดยอดพระกันไฟ
พระกำแพงศอก หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี พ.ศ.2505 (พร้อมบัตรรับรอง)ค่ะ
***เป็นพระบูชาขนาดองค์พระกว้าง 11 ซม. สูง 31 ซม. สภาพสวยแบบเดิมๆเลยค่ะ
พระเครื่องหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
ชั่วโมงเซียนป๋องสุพรรณ-พระหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี "สิบล้านองค์" เป็นจำนวนตัวเลขความตั้งใจในการจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลของ พระครูอุภัยภาดาธร หรือที่รู้จัดกันดีในนาม "หลวงพ่อขอม"อดีตเจ้าอาวาส วัดไผ่โรงวัว ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธโคดม" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อโลหะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ เมตร สูง ๒๖
***พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ หลวงพ่อขอมสร้างไว้นั้น มีมากมายหลายแบบ หลายพิมพ์ แต่มีเพียง ๔ รุ่น หรือ ๔ พิมพ์เท่านั้น ที่ได้รับความนิยม คือ
๑.เหรียญทรงรูปไข่ หลวงพ่อขอมรุ่นแรก (บล็อกตาแตก)
๒.เหรียญทรงรูปไข่ รุ่นสอง (บล็อกหน้าหนุ่ม)
๓.รูปเหมือนหล่อ รุ่นแรก ได้รับความนิยมทั้งพิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก และ
๔.พระกำแพงศอก ซึ่งมีทั้งหมด ๗ พิมพ์
***ประวัติหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี***
**หลวงพ่อขอม เดิมท่านชื่อ เป้า แต่เพื่อนๆ เรียกท่านว่า ขอม เมื่อได้ก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้ว พระขอม หรือ อนิโชภิกษุ ได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดบางสาม ได้ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาพระธรรมวินัย ด้วยความเอาใจใส่อย่างยิ่ง และปฏิบัติตนในศีลาจารวัตรเป็นอย่างดี อยู่หลายปี
***จนกระทั่งเวลาแห่ง ความเปลี่ยนแปลงมาถึง ได้มีสำนักสงฆ์สร้างขึ้นใหม่แห่งหนึ่ง มีชื่อเรียกตามความนิยมของชาวบ้านว่า...วัดไผ่โรงวัว... ด้วยเหตุที่นี่ไม่มีสมภารเจ้าวัด บรรดาชาวบ้านย่านนั้นซึ่งจับตาดูพระขอมมาตั้งแต่ต้น ลงความเห็นพ้องต้องกันว่า ผู้ที่สมควรได้รับตำแหน่งสมภารวัดใหม่นี้ ไม่มีท่านใดเหมาะเท่า พระขอม เมื่อลงความเห็นดังนี้ ต่างก็พากันกันไปนิมนต์ พระขอม ให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดไผ่โรงวัว พระขอมซึ่งเคยเป็นที่คุ้นเคยกับพุทธบริษัทที่นั่น ไม่อาจขัดศรัทธาได้ จึงย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดนั้นเป็นเวลา ๒ ปี
***ชีวิต ของท่านในช่วงนี้ หากจะขาดก็คือขาดสถานศึกษาเล่าเรียนพระพุทธศาสนา เพราะวัดไผ่โรงวัวเป็นวัดใหม่ สิ่งนี้ทำให้พระขอมพิจารณาตนเอง และเห็นว่าอันธรรมวินัยของพระศาสดานั้น ท่านยังเข้าไม่ถึงพอที่จะเป็นสมภารเจ้าวัดได้ หากผู้ศรัทธายังประสงค์จะให้ท่านเป็นผู้นำของวัดนี้อยู่ ท่านก็จำต้องเสาะแสวงหาความรู้เพิ่มเติม ดังนั้นท่านจึงขอย้ายไปจำ พรรษาที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองสุพรรณบุรี แล้วไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่ วัดประตูสาร ใกล้ๆ กับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่ท่านจำพรรษาอยู่นั่นเอง การศึกษาพระปริยัติธรรมของพระขอมดำเนินไป ๓ ปี ก็สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก อันเป็นความรู้ชั้นเถรภูมิ คราวนี้ท่านกลับมาสู่วัดไผ่โรงวัวอีกครั้งหนึ่ง อย่างสมภาคภูมิ กลับมาอย่างผู้พร้อมที่จะบริหารภารกิจให้พระศาสนาอย่างเต็มที่ ดังได้กล่าวแล้วว่า วัดไผ่โรงวัวเป็นวัดใหม่ จึงยังไม่ถึงพร้อมในทุกๆ ด้าน คือไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย กุฏิที่อยู่จำพรรษาของพระภิกษุสามเณร ก็เป็นกระต๊อบมุงจากเก่าๆ มีอยู่เพียง ๒ หลัง ศาลาการเปรียญที่เป็นที่บำเพ็ญกุศลของทายกทายิกา เป็นเพียงเรือนไม้ไผ่หลังคามุงจาก อาศัยพื้นดินเป็นพื้นของศาลา น่าอนาถใจยิ่ง
ภาระของพระขอม คือต้องปรับปรุงศาสนสถานแห่งนี้ให้น่าพักพิงสมกับเป็นวัดก่อน เพื่อจะได้เป็นหนทางนำไปซึ่งการปรับปรุงจิตใจของชาวบ้านผู้ศรัทธาเป็นชั้น ที่สอง และเนื่องจากบรรดาชาวบ้านต่างมีศรัทธาพระขอมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว งานปรับปรุงก่อสร้างชั้นแรกจึงผ่านไปได้ไม่ยาก เริ่มด้วยการถมดินไม่ให้น้ำท่วมวัดได้ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นที่ลุ่มมาก ถึงฤดูฝนคราใดน้ำท่วมทุกปี และท่วมมากขนาดเรือยนต์เรือแจวแล่นถึงกุฏิได้ เมื่อถมดินเสร็จ ท่านได้จัดการขุดสระน้ำสำหรับเป็นที่สรงน้ำ และน้ำดื่มของพระภิกษุสามเณร และเพื่อชาวบ้านทั้งหลายจะได้อาศัยอาบกินโดยทั่วไป แล้วซ่อมกุฏิที่ชำรุดทรุดโทรม สร้างศาลาการเปรียญ สร้างโบสถ์ จัดสรรให้เหมาะสมเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม สมกับคำว่า ...วัด... ทำให้ศรัทธาของชาวบ้านก็เพิ่มมากขึ้น
***นับตั้งแต่พระขอมได้บวชเป็นพระสงฆ์ ท่านมีความตั้งใจมั่น ดังที่เรียกว่ามโนปณิธาน เรื่องนี้ท่านกล่าวกับผู้ใกล้ชิดว่า... อาตมาได้ฟังพระท่านเทศน์ว่า บุคคลผู้ใดเลื่อมใส ได้สร้างพระพุทธรูป จะเล็กเท่าต้นคาก็ดี โตกว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ หมื่นชาติแสนชาติ ผู้นั้นจะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย จนตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ถ้าผู้ใดสร้างพระพุทธรูปด้วยทองคำ ผู้นั้นจะได้เกิดเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า...
***ด้วยมโนปณิธานนี้เอง ทำให้ท่านขอมคิดเริ่มสร้าง พระพุทธโคดม ด้วยทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พ. ศ. ๒๕๐๐ หลวงพ่อขอมเริ่มบอกบุญแก่ญาติโยม ใช้เวลา ๒ ปี กว่าจะเริ่มสร้างได้ เนื่องจากเป็นงานใหญ่นั่นเอง ถึงต้องใช้เวลาสร้างทั้งหมด ๑๒ ปี จนแล้วเสร็จ พ.ศ. ๒๕๑๒
***จนถึงวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๓๓ เวลา ๑๖.๕๕ หลวงพ่อขอมก็มรณภาพลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลว รวมสิริอายุ ๘๘ ปี พรรษา ๖๘ ทำให้นึกถึงคำปฏิญาณของหลวงพ่อขอม ที่ท่านได้กล่าวไว้ ๕ ข้อ คือ
๑. ชีวิตของเราที่เหลือ ขอช่วยพระพุทธองค์ไปจนตาย
๒.เมื่อมีชีวิตอยู่ ถ้าเรามีเงินส่วนตัวสัก ๑ บาท เราจะอายพุทธบริษัทเป็นอย่างยิ่ง
๓.เราจะให้รูปพระองค์เกลื่อนไปในพื้นธรณี
๔.โอ...โลกนี้ไม่ใช่ของฉัน และ
๕.เราต้องตาย ตายใต้ผ้าเหลืองของเรา
ต้องขอขอบพระคุณท่านเจ้าของข้อมูลมา ณ. ที่นี้ด้วยค่ะ