พระอุปคุต หลังยันต์ เนื้อทองผสม (ออกวรรณะสัมฤทธิ์)หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี
#พร้อมบัตรรับรองสถาบันการันตีพระ (ไม่ระบุที่สร้าง)
พระอุปคุต พระอรหันต์ที่เป็นเลิศในทางปราบมาร พุทธคุณโดดเด่นในทางมหาอำนาจคงกะพันชาตรี องค์นี้เก่ามากกระแสเนื้อโลหะออกสัมฤทธิ์
หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา สุพรรณบุรี เป็นพระเกจิยุคเก่าของเมืองสุพรรณบุรี และท่านยังเป็นลูกศิษย์ยุคต้นๆของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
หลวงพ่ออิ่ม ในอดีตมีชื่อเสียงมากในสุพรรณบุรี ว่าเป็นพระเกจิที่เก่งด้านคงกระพันชาตรี เป็นที่เลื่องลือไปทั่วในยุคนั้น ประวัติของหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา เลือนรางมาก ทราบแต่เพียงว่าท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ ปีจอ เดือน ๗ ในปลายสมัยรัชกาลที่ ๔ ตรงกับวันที่ ๑ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๖ อุปสมบทเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๒๖ ท่านเป็นพระธุดงค์มาจากเมืองอื่น แล้วเดินทางมาปักกลดปฏิบัติธุดงควัตรอยู่บริเวณบ้านหัวเขา อำเภอเดิมบางนางบวช ซึ่งแต่เดิมเป็นป่ารกทึบ ท่านเห็นว่าอาณาบริเวณนี้มีความสงบร่มรื่นเหมาะแก่การสร้างเป็นวัด จึงได้สร้างเป็นวัดขึ้นมาชื่อว่า “วัดหัวเขา” และท่านก็ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก
ในการอุปสมบทครั้งแรกของหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ นั้น หลวงพ่ออิ่ม ก็เป็นพระคู่สวดให้ และในการอุปสมบทครั้งที่สองของหลวงพ่อมุ่ย หลวงพ่อมุ่ยท่านก็ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออิ่ม ประวัติกล่าวว่าหลวงพ่อมุ่ยแวะเวียนไปมาหาสู่กับหลวงพ่ออิ่มเป็นประจำ อีกทั้งยังเคยไปจำพรรษาที่วัดหัวเขาเป็นเวลา ๑ พรรษา เพื่อเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่ออิ่ม หลังจากนั้นก็ยังไปมาหาสู่หลวงพ่ออิ่ม และหลวงพ่ออิ่มยังพาไปศึกษาต่อกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าด้วย หลักฐานจากหนังสือพระราชทานเพลิงศพพระครูวรนาถรังษี หลวงพ่อปุย วัดเกาะ กล่าวด้วยว่า พ.ศ.๒๔๖๓ หลวงพ่อปุยก็เดินทางมาฝากตนเป็นศิษย์หลวงพ่ออิ่ม และอาจารย์มนัส โอภากุล เขียนไว้ในหนังสือลานโพธิ์กล่าวว่า หลวงพ่ออิ่มยกย่องหลวงพ่อปุยว่า เปรียบเสมือนบัวที่พ้นน้ำแล้ว สอนอะไรก็เข้าใจง่าย ศึกษาได้รวดเร็ว ไม่ต้องจ้ำจี้จำไชเท่าไรนัก หลวงพ่อปุยเองก็เคยเล่าให้ศิษย์ฟังเสมอๆว่า
หลวงพ่ออิ่มท่านเป็นพระที่เคร่งในพระธรรมวินัยมาก ญาณสมาบัติสูงมาก สมัยที่หลวงพ่ออิ่มท่านได้ปกครองวัดหัวเขา ท่านพัฒนาวัดหัวเขาจนเป็นวัดที่เจริญวัดหนึ่งในสมัยนั้น และมีพระภิกษุสงฆ์เดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์มากมาย อาทิ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ , หลวงพ่อปุย วัดเกาะ , หลวงปู่แขก วัดหัวเขา และหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน เป็นต้น
หลวงพ่ออิ่มท่าน มรณภาพ เมื่อประมาณต้นปีพ.ศ.๒๔๘๐ สิริอายุ ๗๔ปี สำหรับลูกศิษย์ของหลวงพ่ออิ่ม ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีคือหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ หากพูดถึงพระเกจิอาจารย์ที่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ยกย่องกันแล้วหล่ะก็ “หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี” ก็นับเป็นอีกรูปหนึ่ง ที่หลวงพ่อปานกล่าวยกย่องด้วยความเคารพ
โดยหลวงพ่อปาน เรียกหลวงพ่ออิ่มว่า “พระเจดีย์” ซึ่งหมายถึงว่า เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่น่าเคารพยกย่องเหมือนกับเป็นพระสถูป หรือพระเจดีย์ ที่ควรค่าแก่การสักการะบูชา และก็ต้องบอกว่า คำที่หลวงพ่อปานกล่าวยกย่อง ไม่เกินเลยความจริงแต่ประการใด เพราะพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุพรรณรูปนี้ เก่งอย่าง “ของจริง ของแท้” แบบเล่าขานปากต่อปาก ไม่ต้องโหมโฆษณาตามสื่อมวลชนแขนงต่างๆ กันแต่ประการใด มิหนำซ้ำ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ยังมีข้อวัตรปฏิบัติตรงตามพระธรรมวินัยสมเป็นพุทธบุตรอีกต่างหาก ถึงขนาดที่ว่า สามารถกำหนดอิริยาบถการมรณภาพได้อีกด้วย คือ ท่านกำหนดนั่งสมาธิมรณภาพ จนถือว่า เป็นพระเกจิฯ ในยุคแรกๆ ของเมืองสุพรรณฯ ที่นั่งสมาธิมรณภาพ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งบ่งบอกถึงภูมิจิต ภูมิธรรมขั้นสูงตามหลักพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดีว่า หลวงพ่ออิ่ม ก็เป็นพระอริยบุคคลรูปหนึ่ง
***คาถาขอลาภพระอุปคุต***
มะหาอุปคุต จะ มะหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโม โจรา เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เมฯ เอหิจิตติจิตตัง พันธะนัง อุปะคุตโต จะมหาเถโร พุทธะสาวะกะอานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุณณะตา จะ เทวะตานัมปิ มะนุสสานัมปิ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมัง กายะพันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ
***วิธีสวดขอลาภ ***
ให้จุดธูปเทียนบูชา พร้อมกับดอกไม้หอม เครื่องหอมน้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระในร้านค้าขาย หรืออาคารสำนักงาน แล้วอธิษฐานขอให้กลิ่นควันธูปเทียน ลมพัดไปทางไหน ขอให้ดลใจผู้คนเข้ามาอุดหนุนตลอด ขอให้ดำเนินกิจการด้วยความราบรื่น มีความสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ เมื่ออธิษฐานจุดธูปเทียนบูชาแล้ว ให้สวด นะโม ๓ จบ และสวดคำบูชาขอลาภพระอุปคุต ๑ จบ แล้วทำน้ำมนต์สวดด้วย คำบูชาขอลาภพระมหาอุปคุต อีก ๑ จบ เสร็จแล้ว เอาน้ำมนต์ประพรมร้านค้า และสินค้าในร้านค้้้า