เรื่องราวของหลวงปู่เม้า ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเกจิอาจารย์ ที่มีวาจาสิทธิ์ พูดคำไหนคำนั้น ทั้งยังเป็นเกจิที่มีวิชาอาคมและความขลัง ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอีกองค์หนึ่ง
ในหนึ่งชีวิตคุณเคยแขวนพระเครื่องไหม และจำได้หรือไม่ว่ามีรุ่นไหนบ้างที่อยู่บนคอเรา ผมจำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ พ่อมักจะหาพระเครื่องมาให้ผมแขวนติดคอเสมอด้วยความเชื่อผสมความเป็นห่วงลูกชายที่ชอบทำอะไรแผลง ๆ มีพระอยู่องค์หนึ่ง จำได้แม่นคือ หลวงปู่เม้าลิ้นดำ แห่งวัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ที่จำได้แม่นยำเพราะคำว่า “ลิ้นดำ” ฟังดูแล้วแปลกแตกต่างจากพระเกจิองค์อื่น ตรงที่ลิ้นดำ พ่อเล่าให้ฟังว่าท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์มาก พูดคำไหนคำนั้น วันนี้ผมขอนำประวัติของหลวงปู่เม้า ลิ้นดำมาเล่าโดยย่อ เผื่อว่าคุณผู้อ่าน ๆแล้ว มีโอกาสผ่านไปจ.บุรีรัมย์จะได้หาโอกาสแวะไปกราบไหว้ บูชาหลวงปู่ เพื่อความเป็นสิริมงคลเสริมโชคลาภ วาสนาให้กับตัวเอง
หลวงปู่เม้า พลวิริโย กำเนิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2417 ครั้นพอถึงอายุ 13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร พออายุครบบวช จึงได้อุปสมบท ซึ่งมีหลวงพ่อเพียร วัดถนนหักเป็นพระอุปชฌาย์ หลวงปู่เม้าท่านถือการธุดงควัตรเป็นนิจศีล ธุดงไปยังที่ต่าง ๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
หลวงปู่เม้าได้ศึกษาเล่าเรียนวิชา วิปัสสนากัมมัฏฐานจาก พระอาจารย์เพียร ทั้งยังได้ศึกษาจากพระอาจารย์องค์อื่น ๆ อีกหลายท่าน เช่น พระอาจารย์ครุฑ พระอาจารย์นิล พระอาจารย์ดา และพระอาจารย์เสาร์ เป็นต้น
ยุคที่มีสงครามอินโดจีน หลวงปู่เม้าได้เสกวัตถุมงคล แจกจ่ายให้กับเหล่าทหารที่ไปรบในสงคราม โดยเฉพาะผ้ายันต์และตะกรุดโทนเพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัย ทหารที่ได้รับไปก็แคล้วคลาดปลอดัย จนเป็นที่กล่าวขานถึง เรื่องรู้ถึงหูจอมพล. ป. พิบูลสงคราม ท่านจึงเดินทางมากราบและฝากตัวเป็นศิษย์
วัตถุมงคลที่เป็นที่รู้จักของหลวงปู่เม้า เช่น หนุมานโลหะโบราณ เหรียญรูปไข่รุ่นแรก ปี 2517 หลวงปู่เม้า มรณะภาพปี 2519 สิริอายุรวม 102 ปี 82 พรรษา
2.TH71104UEV3K4H FLASH ขอขอบพระคุณท่านที่มาอุดหนุนครับ
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น