รูปหล่อพระพุทธหลวงพ่อดำฝังเขี้ยวหมาป่า วัดกุฏิ จ.ปราจีนบุรี เนื้อตะกั่วผสมปรอท เป็นพระยุคแรกๆ สภาพสวยเดิม เข้มขลัง สร้างก่อนปี 2500
รูปหล่อพระพุทธหลวงพ่อดำฝังเขี้ยวหมาป่า วัดกุฏิ จ.ปราจีนบุรี เนื้อตะกั่วผสมปรอท เป็นพระยุคแรกๆ สภาพสวยเดิม เข้มขลัง สร้างก่อนปี 2500
หลวงพ่อดำ วัดกุฏิ ท่านเป็นเกจิยุคโบราณสายเขมรพระของท่านโดยส่วนมาก จะสร้าง ล้อพระพิมพ์อื่นๆหลวงพ่อท่านสร้างพระสไตล์นี้หลายพิมพ์ แต่เอกลักษณ์ของท่านคือฝังอัฐิธาตุเอาไว้ในองค์พระ บางคนว่าเป็นเขี้ยวหมาป่า บางคนว่าเป็นฟัน กระดาษสาลงยันต์ พทุธคุณโดดเด่นในด้าน คุ้มครอง ป้องกันภัยกันคุณไสย ลมเพลมพัดคงกระพันชาตรีนั้น ชาวปราจีนบุรีนับถือกันมาก พระของท่านเป็นตำนาน ของเมืองไทย ที่สร้างโดยพระเกจิ ในยุคเดียวกับ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย จุดประสงค์การสร้างก็เพื่อกันยาสั่ง ของมนต์ดำเขมร โดยเฉพาะเ นื่องจากของเขมรนั้นแรง แม้แต่พระที่ไม่แก่กล้าพอยังพลาดได้ นับประสาอะไรกัน คนที่ไม่รู้วิชา ลพ.ดำ ท่านจึงสร้างพระชุดนี้เพื่อให้ชาวบ้านป้องกันตัวเองจาก มนต์ดำ สายเขมร และ ที่ว่า มนต์ดำเขมร นั้น ที่เชื่อว่าแรงสุดแล้ว ดังนั้น ของสั่งของพวกอิสลาม หรือพุทธ พระของท่านองค์นี้ก็สามารถกันได้หมดจรด พระของหลวงพ่อดำนี้ที่เป็นเลิศและขึ้นชื่อลือชาเลยคือกันยาสั่งของทางฝั่ง เขมรครับ เรียกได้ว่าทำมากันยาสั่ง กันคุณไสยโดยเฉพาะเลยครับคงกระพันตามมาทีหลังครับ ครูบาอาจารย์ในยุคสมัยก่อนกว่าจะได้ปรอทที่เอามาเป็นส่วนผสมในเนื้อตะกั่ว นี่ท่านต้องเอาไข่เน่าๆไปวางไว้ในป่าที่มีใบไม้เน่าๆกองทับถมกันอยู่เพื่อ ล่อปรอทให้เข้ามากินของเน่าของเสียที่อยู่ในไข่แล้วเอามาซัดด้วยว่ายยาหรือ บางท่านก็สะกดด้วยวิชาอาคมเพื่อกันปรอทหนีไปบางท่านซัดด้วยว่านยาเพื่อให้ ปรอทแข็งตัวไม่ไหลออกไปแล้วต้องเอาปรอทนั้นมาเคี่ยวเพื่อผสมกับเนื้อตะกั่ว อย่างกะหลวงพ่อเนียม วัดน้อยที่สุพรรณท่านจะเอาปรอทมาเคี่ยวในกระปุกเหล้าเคลือบแบบของจีนบาง ครั้งถ้าไฟแรงไปกระปุกแตกปรอทไหลลงดินหมดต้องไปดักเอามาใหม่ทำยาก
หลวงพ่อดำวัดกุฏิ(ปัจจุบันเรียกวัดศรีมงคล) ปราจีนบุรี เป็นพระธุดงค์มาจากเขมร มาจำพรรษาอยู่วัดกุฏิ น่าจะช่วงก่อน 2500 ครับมรณภาพนานมากแล้ว พระเนื้อตะกั่วท่านมีชื่อเสียงเรื่องคงกะพันมหาอุดมาก อีกทั้งป้องกันคุณไสย อาถรรพ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี
มีคุณตาท่านหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆเห็นเราห้อยพระหลวงพ่อดำ เลยชวนคุยกันเรื่องพระเครื่อง
ท่านเล่าว่าสมัยหนุ่มๆ มาอยู่ปราจีนบุรีใหม่ๆแถววัดกุฏีนี่แหละ ห้อยพระปิดตา(ปักเป้า)หลวงพ่อดำ
ท่านบอกว่าเรื่องปืนไม่ต้องพูดมาก ท่านนิสัยนักเลงไม่ยอมคนศัตรูเยอะ โดนยิงทั้งต่อหน้าและลับหลัง
มีตั้งแต่เดินสวนกับอริพอเดินคล้อยหลังกันแล้วมันหันกลับมายิง เจออริอยู่คนละฟากคันนาชักปืนยิง ได้ยินแต่เสียงแชะๆ ท่านมั่นใจมาก เพราะไม่เคยโดนยิงออกเลยซักครั้ง ประสพการณ์โชกโชนหายห่วงเรื่องปืนกับตัวท่านเอง
แล้วท่านก็เล่าให้ฟังอีกว่า หลวงพ่อดำธุดงค์มาวัดมีโบสถ์เก่าอยู่แล้ว หน้าโบสถ์จะมีสิงห์ตะกั่วคู่หนึ่งตั้งอยู่ ขนาดไม่ใหญ่มาก เด็กๆ แถววัดจะชอบแบกกันไปเล่นกันตามท้องนาเป็นที่สนุกสนาน แล้วเรื่องที่แปลกก็คือ
สิงห์ คู่นี้ ต่อให้เด็กๆเล่นแล้วทิ้งไว้ตามท้องนา เช้ามาก็จะเห็นกลับไปตั้งอยู่หน้าโบสถ์ที่เดิมทุกครั้งไปโดยไม่มีใครทราบว่า ใครเอามาไว้ที่เดิม
สิงห์ตะกั่วคู่นี้หละครับ ที่มาของเนื้อตะกั่ว ของพระหลวงพ่อดำ ท่านนำมาหลอมสร้างพระของท่าน
หลวงพ่อดำ วัดกุฏิ ท่านเป็นเกจิยุคโบราณสายเขมรพระของท่านโดยส่วนมาก จะสร้าง ล้อพระพิมพ์อื่นๆหลวงพ่อท่านสร้างพระสไตล์นี้หลายพิมพ์ แต่เอกลักษณ์ของท่านคือฝังอัฐิธาตุเอาไว้ในองค์พระ บางคนว่าเป็นเขี้ยวหมาป่า บางคนว่าเป็นฟัน กระดาษสาลงยันต์ พทุธคุณโดดเด่นในด้าน คุ้มครอง ป้องกันภัยกันคุณไสย ลมเพลมพัดคงกระพันชาตรีนั้น ชาวปราจีนบุรีนับถือกันมาก พระของท่านเป็นตำนาน ของเมืองไทย ที่สร้างโดยพระเกจิ ในยุคเดียวกับ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย จุดประสงค์การสร้างก็เพื่อกันยาสั่ง ของมนต์ดำเขมร โดยเฉพาะเ นื่องจากของเขมรนั้นแรง แม้แต่พระที่ไม่แก่กล้าพอยังพลาดได้ นับประสาอะไรกัน คนที่ไม่รู้วิชา ลพ.ดำ ท่านจึงสร้างพระชุดนี้เพื่อให้ชาวบ้านป้องกันตัวเองจาก มนต์ดำ สายเขมร และ ที่ว่า มนต์ดำเขมร นั้น ที่เชื่อว่าแรงสุดแล้ว ดังนั้น ของสั่งของพวกอิสลาม หรือพุทธ พระของท่านองค์นี้ก็สามารถกันได้หมดจรด พระของหลวงพ่อดำนี้ที่เป็นเลิศและขึ้นชื่อลือชาเลยคือกันยาสั่งของทางฝั่ง เขมรครับ เรียกได้ว่าทำมากันยาสั่ง กันคุณไสยโดยเฉพาะเลยครับคงกระพันตามมาทีหลังครับ ครูบาอาจารย์ในยุคสมัยก่อนกว่าจะได้ปรอทที่เอามาเป็นส่วนผสมในเนื้อตะกั่ว นี่ท่านต้องเอาไข่เน่าๆไปวางไว้ในป่าที่มีใบไม้เน่าๆกองทับถมกันอยู่เพื่อ ล่อปรอทให้เข้ามากินของเน่าของเสียที่อยู่ในไข่แล้วเอามาซัดด้วยว่ายยาหรือ บางท่านก็สะกดด้วยวิชาอาคมเพื่อกันปรอทหนีไปบางท่านซัดด้วยว่านยาเพื่อให้ ปรอทแข็งตัวไม่ไหลออกไปแล้วต้องเอาปรอทนั้นมาเคี่ยวเพื่อผสมกับเนื้อตะกั่ว อย่างกะหลวงพ่อเนียม วัดน้อยที่สุพรรณท่านจะเอาปรอทมาเคี่ยวในกระปุกเหล้าเคลือบแบบของจีนบาง ครั้งถ้าไฟแรงไปกระปุกแตกปรอทไหลลงดินหมดต้องไปดักเอามาใหม่ทำยาก
หลวงพ่อดำวัดกุฏิ(ปัจจุบันเรียกวัดศรีมงคล) ปราจีนบุรี เป็นพระธุดงค์มาจากเขมร มาจำพรรษาอยู่วัดกุฏิ น่าจะช่วงก่อน 2500 ครับมรณภาพนานมากแล้ว พระเนื้อตะกั่วท่านมีชื่อเสียงเรื่องคงกะพันมหาอุดมาก อีกทั้งป้องกันคุณไสย อาถรรพ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี
มีคุณตาท่านหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆเห็นเราห้อยพระหลวงพ่อดำ เลยชวนคุยกันเรื่องพระเครื่อง
ท่านเล่าว่าสมัยหนุ่มๆ มาอยู่ปราจีนบุรีใหม่ๆแถววัดกุฏีนี่แหละ ห้อยพระปิดตา(ปักเป้า)หลวงพ่อดำ
ท่านบอกว่าเรื่องปืนไม่ต้องพูดมาก ท่านนิสัยนักเลงไม่ยอมคนศัตรูเยอะ โดนยิงทั้งต่อหน้าและลับหลัง
มีตั้งแต่เดินสวนกับอริพอเดินคล้อยหลังกันแล้วมันหันกลับมายิง เจออริอยู่คนละฟากคันนาชักปืนยิง ได้ยินแต่เสียงแชะๆ ท่านมั่นใจมาก เพราะไม่เคยโดนยิงออกเลยซักครั้ง ประสพการณ์โชกโชนหายห่วงเรื่องปืนกับตัวท่านเอง
แล้วท่านก็เล่าให้ฟังอีกว่า หลวงพ่อดำธุดงค์มาวัดมีโบสถ์เก่าอยู่แล้ว หน้าโบสถ์จะมีสิงห์ตะกั่วคู่หนึ่งตั้งอยู่ ขนาดไม่ใหญ่มาก เด็กๆ แถววัดจะชอบแบกกันไปเล่นกันตามท้องนาเป็นที่สนุกสนาน แล้วเรื่องที่แปลกก็คือ
สิงห์ คู่นี้ ต่อให้เด็กๆเล่นแล้วทิ้งไว้ตามท้องนา เช้ามาก็จะเห็นกลับไปตั้งอยู่หน้าโบสถ์ที่เดิมทุกครั้งไปโดยไม่มีใครทราบว่า ใครเอามาไว้ที่เดิม
สิงห์ตะกั่วคู่นี้หละครับ ที่มาของเนื้อตะกั่ว ของพระหลวงพ่อดำ ท่านนำมาหลอมสร้างพระของท่าน
เหลือเวลา
รายการปิดแล้ว!
