+++ บรมครูพระฤาษี!!! ((( พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา ))) +++
:::- ลอยองค์บรมครูพระฤาษีรุ่นแรก ((( พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา [วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์] ))) เป็นบรมครูของพระอาจารย์ประสูติ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙
:::- องค์ที่ลงในภาพ สภาพสวยสมบูรณ์ เดิม ๆ ไม่ผ่านการใช้งาน (((ราคาเบากว่าศูนย์พระมากครับ))) รับประกันความแท้ตลอดชีวิต เก๊คืนเงินเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
:::- ประวัติ พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม (หลวงพ่อประสูติ) เจ้าอาวาสวัดในเตา (วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์) ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากวัดหนึ่ง เป็นสายสำนักเขาอ้อ หลวงพ่อประสูติ ถือได้ว่าเป็นพระนักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและเป็นพระนักพัฒนา ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาจากชาวบ้านโดยทั่วไป
:::- พระอาจารย์ประสูติ มีนามเดิมว่า สูตร คงฤทธิ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๘ (ปัจจุบันอายุ ๔๕ ปี ๒๐ พรรษา) ณ หมู่ที่ ๒ บ้านห้วยหลุด ตำบลห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายประดิษฐ์ และนางสนิท คงฤทธิ์ ครอบครัวประกอบอาชีพทำสวนยางพารา หาเงินส่งเสียให้ลูก ๆ ได้เล่าเรียนหนังสือ
:::- เมื่อวัยเยาว์ : ท่านได้เรียนหนังสือระดับประถมศึกษา ณ โรงเรียนบ้านทุ่งต่อ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ได้ไปพักอยู่ประจำที่วัดในเตา กับ หลวงปู่แสง ธมฺมสโร เจ้าอาวาสวัดในเตา ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองตรัง สายสำนักเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง ทำให้ พระอาจารย์ประสูติ มีโอกาสได้ศึกษา เล่าเรียนสรรพวิชาต่าง ๆ จากหลวงปู่แสง จนกระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จากโรงเรียนห้วยยอด จังหวัดตรัง
:::- อุปสมบท : เมื่อท่านอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ใน พ.ศ.๒๕๐๙ ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดห้วยยอด จังหวัดตรัง โดยมีพระครูนิมิตสังฆคุณ เจ้าคณะอำเภอห้วยยอด เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อพระอาจารย์ประสูติ เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้วก็ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก ก่อนกราบลาพระอุปัชฌาย์ เพื่อออกธุดงค์วัตร เสาะแสวงหาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังตามภาคต่าง ๆ เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิชาความรู้ เริ่มต้นเรียนจากหลวงปู่แสง เจ้าอาวาสวัดในเตา ซึ่งขณะนั้นในบริเวณรอบวัด ถือเป็นพื้นที่สีแดง แต่หลวงปู่แสงและพระอาจารย์ประสูติ สามารถอยู่จำพรรษาได้อย่างปกติสุข เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน กราบลาอาจารย์ออกธุดงค์ เพื่อไปศึกษาวิชาความรู้หลังร่ำเรียนวิชาจากหลวงปู่แสง ท่านได้กราบลา เพื่อเดินทางไปศึกษาวิชากับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วทุกภาคของประเทศไทย เช่น เดินทางไปภาคเหนือ เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ ครูบาเหมย วัดศรีดงเย็น จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางลงมายังภาคกลาง เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแผด จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนภาคใต้ ท่านเดินทางไปยังหลายวัด เพื่อขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ อาทิ หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร , พระครูบุญญาภินันท์ หรือพระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ จังหวัดพังงา , หลวงปู่ชื่น วัดทุ่งชน จังหวัดตรัง เป็นต้น การออกธุดงค์เสาะแสวงหาพระอาจารย์เพื่อศึกษาวิชาความรู้ด้านพระพุทธศาสนา ทำให้เป็นพระนักปฏิบัติดี ปฏิบัติมั่นในพระธรรมวินัย ศีลาจารวัตรงดงาม แข็งแกร่งในวิปัสสนากัมมัฏฐาน มีสมาธิแก่กล้า จนเป็นที่เลื่องลือ ในด้านการปลุกเสกเครื่องรางของขลังเด่นในพุทธคุณ (ด้านเมตตามหานิยม) พระอาจารย์ประสูติเดินทางกลับจังหวัดตรัง และใน ปี พ.ศ.๒๕๔๐ พระอาจารย์ประสูติ ท่านได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรังอีกครั้ง และต่อมา พ.ศ.๒๕๓๕ หลวงปู่แสง เจ้าอาวาสวัดในเตา มรณภาพลง ทำให้วัดแห่งนี้แทบจะกลายเป็นวัดร้างไป เนื่องจากไม่มีเจ้าอาวาสและพระลูกวัดอาศัยอยู่อย่างถาวร แม้จะมีพระสงฆ์หลายรูปหมุนเวียนกันมาเพื่ออยู่จำพรรษาที่วัดในเตา แต่ท้ายสุดไม่สามารถอยู่ได้และต้องย้ายออกไป อย่างไรก็ตาม เมื่อชาวบ้านรับทราบว่า พระอาจารย์ประสูติ เดินทางกลับมาจำวัดอยู่ที่วัดห้วยยอด ในฐานะที่เป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่แสง มากที่สุด และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาเช่นเดียวกับหลวงปู่แสง บรรดาชาวบ้านจึงได้ไปกราบนิมนต์ขอให้พระอาจารย์ประสูติ เป็นเจ้าอาวาสวัดในเตา นับตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๔ จนถึงปัจจุบัน แม้ชื่อจริงของท่านคือ สูติ แต่ลูกศิษย์ลูกหาตลอดจนผู้ที่เคารพนับถือ ถนัดที่จะเรียกท่านว่า พระอาจารย์ประสูติ จนติดปาก จะมีบ้างที่ศิษย์ต่างจังหวัดจะเรียกว่า หลวงพ่อประสูติ ทั้งนี้ พระอาจารย์ประสูติ มีวิชาความรู้เกี่ยวกับพิธีการปลุกเสกจตุคามรามเทพ มาแต่สมัยยังเป็นสามเณร ที่วัดห้วยยอด ด้วยเคยติดตามหลวงปู่แสง ไปร่วมพิธีปลุกเสก ณ วิหารหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๐ ด้วยชื่อเสียงของท่านที่ขจรขยายไปทั่ว ทำให้วัดในเตา เป็นสถานที่หนึ่ง ในพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพไปโดยปริยาย ดังนั้น หากในประเทศไทยหรือในภาคใต้ มีวัดแห่งใดประสงค์ที่จัดสร้างจตุคามรามเทพ นอกเหนือไปจากวิหารหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช และวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เพื่อประกอบพิธีแล้ว วัดในเตา จังหวัดตรัง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่นิยมใช้ในการทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องรุ่นต่างๆ สำหรับวัดในเตา ได้ก่อสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๒๐๓ มีพระพุทธรูปที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย ประดิษฐานอยู่คู่กับวัด ๓ องค์ คือ พระพุทธโกษีย์ พระธรรมรูจี และพระศรีไกรสร โดยได้นำเอาชื่อของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ประดิษฐานอยู่ในถ้ำ มาตั้งเป็นชื่อวัด และภายในถ้ำแห่งนี้ เป็นที่ร่ำลือกันว่า มีเหล็กไหล ฝังอยู่มานานหลายร้อยปีแล้ว เป็นผลทำให้มีชาวบ้านจำนวนมาก แอบลักลอบเข้าไปขุดเหล็กไหล สร้างความเสียหายอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ พระอาจารย์ประสูติ จึงได้นำเหล็กไหล ที่ได้กระทำพิธีขอพลีขึ้นมาจากใต้ถ้ำ รวมน้ำหนักประมาณ ๔๐๐ กิโลกรัม ไปฝังเอาไว้ใต้พระประธานภายในอุโบสถวัด เพื่อต้องการแก้ปัญหาการทุบทำลายถ้ำ ขโมยเหล็กไหล และพระอาจารย์ประสูติ ท่านได้นำเหล็กไหล บางส่วนมาสร้างเป็นพระเครื่องต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ แต่จำนวนการสร้างแต่ละแบบน้อยมากเลยไม่ค่อยมีใครพบเห็น และหลาย ๆ คนที่มีก็ไม่ยอมปล่อยให้เช่าบูชากัน พระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ยุคแรก ๆ ของท่านส่วนใหญ่จะสร้างน้อยเพราะทำกันเองที่วัด และพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่มักจะเจอคู่กันบ่อย ๆ ในพิธีต่าง ๆ คือ พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ จังหวัดพังงา ซึ่งถือได้ว่าเป็นอาจารย์อีกรูปหนึ่งของ พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา
:::- พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตานับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากท่านหนึ่ง ในช่วง ๕ – ๖ ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งถ้ามีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ๆ จะต้องมีพระอาจารย์ประสูติ วัดในเตาร่วมพิธีด้วยเสมอ พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีเยอะมากพอสมควร แต่จำนวนการสร้างแต่ละอย่างจะไม่มากนักแต่หลากหลาย โดยเฉพาะ เครื่องรางของขลัง ที่ท่านสร้างออกมาจะเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์โดยตลอดมา เช่น หุ่นพยนต์รุ่นแรกที่เป็นตะกรุดจะหายากมากไม่ค่อยมีหมุนเวียนในสนามพระ ซึ่ง พระอาจารย์ประสูติ มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์วิชาการผูก (หุ่นพยนต์) ซึ่ง หุ่นพยนต์ ของอาจารย์ประสูติ จะเป็นได้ทั้งหญิงและชาย หุ่นพยนต์รุ่นแรกท่านทำจากตะกรุดจารอักขระด้ายที่ร้อยจะเป็นสีเหลืองทอง ยุคต่อมาจะเป็นไหมสีขาว และต่อมาก็เป็น หุ่นพยนต์มงคลเก้า หรือ หุ่นพยนต์มหามงคล ๙ , หม่อมกวัก , หน้ากากมโนราห์ หน้ากากพรานบุญ , เสือนอนกิน , เจ็ดนารีพันหลัก , ตะกรุด , ผ้ายันต์ , ศาสตร์ดวงตราพลังจักรวาล , และอีกมากมาย
:::- ลอยองค์บรมครูพระฤาษีรุ่นแรก ((( พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา [วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์] ))) เป็นบรมครูของพระอาจารย์ประสูติ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙
:::- องค์ที่ลงในภาพ สภาพสวยสมบูรณ์ เดิม ๆ ไม่ผ่านการใช้งาน (((ราคาเบากว่าศูนย์พระมากครับ))) รับประกันความแท้ตลอดชีวิต เก๊คืนเงินเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
:::- ประวัติ พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม (หลวงพ่อประสูติ) เจ้าอาวาสวัดในเตา (วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์) ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากวัดหนึ่ง เป็นสายสำนักเขาอ้อ หลวงพ่อประสูติ ถือได้ว่าเป็นพระนักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและเป็นพระนักพัฒนา ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาจากชาวบ้านโดยทั่วไป
:::- พระอาจารย์ประสูติ มีนามเดิมว่า สูตร คงฤทธิ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๘ (ปัจจุบันอายุ ๔๕ ปี ๒๐ พรรษา) ณ หมู่ที่ ๒ บ้านห้วยหลุด ตำบลห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายประดิษฐ์ และนางสนิท คงฤทธิ์ ครอบครัวประกอบอาชีพทำสวนยางพารา หาเงินส่งเสียให้ลูก ๆ ได้เล่าเรียนหนังสือ
:::- เมื่อวัยเยาว์ : ท่านได้เรียนหนังสือระดับประถมศึกษา ณ โรงเรียนบ้านทุ่งต่อ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ได้ไปพักอยู่ประจำที่วัดในเตา กับ หลวงปู่แสง ธมฺมสโร เจ้าอาวาสวัดในเตา ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองตรัง สายสำนักเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง ทำให้ พระอาจารย์ประสูติ มีโอกาสได้ศึกษา เล่าเรียนสรรพวิชาต่าง ๆ จากหลวงปู่แสง จนกระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จากโรงเรียนห้วยยอด จังหวัดตรัง
:::- อุปสมบท : เมื่อท่านอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ใน พ.ศ.๒๕๐๙ ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดห้วยยอด จังหวัดตรัง โดยมีพระครูนิมิตสังฆคุณ เจ้าคณะอำเภอห้วยยอด เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อพระอาจารย์ประสูติ เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้วก็ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก ก่อนกราบลาพระอุปัชฌาย์ เพื่อออกธุดงค์วัตร เสาะแสวงหาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังตามภาคต่าง ๆ เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิชาความรู้ เริ่มต้นเรียนจากหลวงปู่แสง เจ้าอาวาสวัดในเตา ซึ่งขณะนั้นในบริเวณรอบวัด ถือเป็นพื้นที่สีแดง แต่หลวงปู่แสงและพระอาจารย์ประสูติ สามารถอยู่จำพรรษาได้อย่างปกติสุข เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน กราบลาอาจารย์ออกธุดงค์ เพื่อไปศึกษาวิชาความรู้หลังร่ำเรียนวิชาจากหลวงปู่แสง ท่านได้กราบลา เพื่อเดินทางไปศึกษาวิชากับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วทุกภาคของประเทศไทย เช่น เดินทางไปภาคเหนือ เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ ครูบาเหมย วัดศรีดงเย็น จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางลงมายังภาคกลาง เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแผด จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนภาคใต้ ท่านเดินทางไปยังหลายวัด เพื่อขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ อาทิ หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร , พระครูบุญญาภินันท์ หรือพระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ จังหวัดพังงา , หลวงปู่ชื่น วัดทุ่งชน จังหวัดตรัง เป็นต้น การออกธุดงค์เสาะแสวงหาพระอาจารย์เพื่อศึกษาวิชาความรู้ด้านพระพุทธศาสนา ทำให้เป็นพระนักปฏิบัติดี ปฏิบัติมั่นในพระธรรมวินัย ศีลาจารวัตรงดงาม แข็งแกร่งในวิปัสสนากัมมัฏฐาน มีสมาธิแก่กล้า จนเป็นที่เลื่องลือ ในด้านการปลุกเสกเครื่องรางของขลังเด่นในพุทธคุณ (ด้านเมตตามหานิยม) พระอาจารย์ประสูติเดินทางกลับจังหวัดตรัง และใน ปี พ.ศ.๒๕๔๐ พระอาจารย์ประสูติ ท่านได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรังอีกครั้ง และต่อมา พ.ศ.๒๕๓๕ หลวงปู่แสง เจ้าอาวาสวัดในเตา มรณภาพลง ทำให้วัดแห่งนี้แทบจะกลายเป็นวัดร้างไป เนื่องจากไม่มีเจ้าอาวาสและพระลูกวัดอาศัยอยู่อย่างถาวร แม้จะมีพระสงฆ์หลายรูปหมุนเวียนกันมาเพื่ออยู่จำพรรษาที่วัดในเตา แต่ท้ายสุดไม่สามารถอยู่ได้และต้องย้ายออกไป อย่างไรก็ตาม เมื่อชาวบ้านรับทราบว่า พระอาจารย์ประสูติ เดินทางกลับมาจำวัดอยู่ที่วัดห้วยยอด ในฐานะที่เป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่แสง มากที่สุด และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาเช่นเดียวกับหลวงปู่แสง บรรดาชาวบ้านจึงได้ไปกราบนิมนต์ขอให้พระอาจารย์ประสูติ เป็นเจ้าอาวาสวัดในเตา นับตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๔ จนถึงปัจจุบัน แม้ชื่อจริงของท่านคือ สูติ แต่ลูกศิษย์ลูกหาตลอดจนผู้ที่เคารพนับถือ ถนัดที่จะเรียกท่านว่า พระอาจารย์ประสูติ จนติดปาก จะมีบ้างที่ศิษย์ต่างจังหวัดจะเรียกว่า หลวงพ่อประสูติ ทั้งนี้ พระอาจารย์ประสูติ มีวิชาความรู้เกี่ยวกับพิธีการปลุกเสกจตุคามรามเทพ มาแต่สมัยยังเป็นสามเณร ที่วัดห้วยยอด ด้วยเคยติดตามหลวงปู่แสง ไปร่วมพิธีปลุกเสก ณ วิหารหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๐ ด้วยชื่อเสียงของท่านที่ขจรขยายไปทั่ว ทำให้วัดในเตา เป็นสถานที่หนึ่ง ในพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพไปโดยปริยาย ดังนั้น หากในประเทศไทยหรือในภาคใต้ มีวัดแห่งใดประสงค์ที่จัดสร้างจตุคามรามเทพ นอกเหนือไปจากวิหารหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช และวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง เพื่อประกอบพิธีแล้ว วัดในเตา จังหวัดตรัง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่นิยมใช้ในการทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องรุ่นต่างๆ สำหรับวัดในเตา ได้ก่อสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๒๐๓ มีพระพุทธรูปที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย ประดิษฐานอยู่คู่กับวัด ๓ องค์ คือ พระพุทธโกษีย์ พระธรรมรูจี และพระศรีไกรสร โดยได้นำเอาชื่อของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ประดิษฐานอยู่ในถ้ำ มาตั้งเป็นชื่อวัด และภายในถ้ำแห่งนี้ เป็นที่ร่ำลือกันว่า มีเหล็กไหล ฝังอยู่มานานหลายร้อยปีแล้ว เป็นผลทำให้มีชาวบ้านจำนวนมาก แอบลักลอบเข้าไปขุดเหล็กไหล สร้างความเสียหายอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ พระอาจารย์ประสูติ จึงได้นำเหล็กไหล ที่ได้กระทำพิธีขอพลีขึ้นมาจากใต้ถ้ำ รวมน้ำหนักประมาณ ๔๐๐ กิโลกรัม ไปฝังเอาไว้ใต้พระประธานภายในอุโบสถวัด เพื่อต้องการแก้ปัญหาการทุบทำลายถ้ำ ขโมยเหล็กไหล และพระอาจารย์ประสูติ ท่านได้นำเหล็กไหล บางส่วนมาสร้างเป็นพระเครื่องต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ แต่จำนวนการสร้างแต่ละแบบน้อยมากเลยไม่ค่อยมีใครพบเห็น และหลาย ๆ คนที่มีก็ไม่ยอมปล่อยให้เช่าบูชากัน พระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ยุคแรก ๆ ของท่านส่วนใหญ่จะสร้างน้อยเพราะทำกันเองที่วัด และพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่มักจะเจอคู่กันบ่อย ๆ ในพิธีต่าง ๆ คือ พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ จังหวัดพังงา ซึ่งถือได้ว่าเป็นอาจารย์อีกรูปหนึ่งของ พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา
:::- พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตานับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากท่านหนึ่ง ในช่วง ๕ – ๖ ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งถ้ามีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ๆ จะต้องมีพระอาจารย์ประสูติ วัดในเตาร่วมพิธีด้วยเสมอ พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีเยอะมากพอสมควร แต่จำนวนการสร้างแต่ละอย่างจะไม่มากนักแต่หลากหลาย โดยเฉพาะ เครื่องรางของขลัง ที่ท่านสร้างออกมาจะเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์โดยตลอดมา เช่น หุ่นพยนต์รุ่นแรกที่เป็นตะกรุดจะหายากมากไม่ค่อยมีหมุนเวียนในสนามพระ ซึ่ง พระอาจารย์ประสูติ มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์วิชาการผูก (หุ่นพยนต์) ซึ่ง หุ่นพยนต์ ของอาจารย์ประสูติ จะเป็นได้ทั้งหญิงและชาย หุ่นพยนต์รุ่นแรกท่านทำจากตะกรุดจารอักขระด้ายที่ร้อยจะเป็นสีเหลืองทอง ยุคต่อมาจะเป็นไหมสีขาว และต่อมาก็เป็น หุ่นพยนต์มงคลเก้า หรือ หุ่นพยนต์มหามงคล ๙ , หม่อมกวัก , หน้ากากมโนราห์ หน้ากากพรานบุญ , เสือนอนกิน , เจ็ดนารีพันหลัก , ตะกรุด , ผ้ายันต์ , ศาสตร์ดวงตราพลังจักรวาล , และอีกมากมาย
