ระวังหน่อยครับ ตอนนี้เก๊เพี้ยบ
ผม(เขยสิงห์)..ไปกราบพระวัดนี้มาหลายสิบครั้ง..ลุงของแฟนก้อเป็นช่างในวัดมาเป็น10ปี...พระกรุนี้ ดีจริงๆครับ..แต่ไคจะเล่นก้อเล่น...ผมไม่อาววววว...
ปล.ว่าจะไม่แร้ววเชียวครับ พี่น้อง ครับ เฉพาะที่วัดขุนอินทรฯนะครับ ของ(ดักคนโดน)ไม่เกี่ยว.....รู้จัก ขุนอินทรประมูลฯ ป่าวครับ ท่านเป็นอะไรกะสมเด็จฯ 2ท่านนี้เกิดทันกันม๊ะเอ่ย พระนอนที่วัดสร้างตอนไหน บูรณะองค์พระกันเมื่อไหร่มั่ง(สอบถามจากศิลปากรฯเขตอ่างทองกันดูดิ่)มีการบูรณะหลายครั้งครับแต่เป็นเพียงการฉาบผิวองค์หลวงพ่อครับ ไม่มีการรื้อขนาดที่จะเอากรุพระฯใส่ลงไปด้ายครับ แระไคกันหนอที่เอาพระลักษณะพระสมเด็จฯ ทั้งกรุเอาไปไว้ใต้องค์พระขนาดมหึมา แระกรุแตกออกตรงไหนอ่ะ ทำไมคนที่วัดดั้งเดิมไม่รู้อ่ะเพียงแต่บอกกันปากต่อปากพอซักเข้าจิงจิงก้อไม่ด้ายเห็นได้เจอกะตัว โยนกันไปเรื่อยๆ...รอบทางเดินข้างองค์พระนอน ก้อไม่เห็นว่าจะมีร่องรอยการเปิดของกรุพระมีแต่รอย"หมาคุดนอน"แระคนที่ว่าขุดเจอกรุ"ตะแก"รู้ด้ายไงหว่าว่ากรุอยู่ตรงไหนองค์พระองค์ตั้งใหญ่ตั้งโต..แระพอไปถามเข้าจริงๆบอก เป็นของแท้แน่นอนไปถามเซียนใหญ่จากบางกอกดูได้เร้ยยยเค้ารับรอง...เอ๋า..กรุก้อขุดเอง พระก้อเจอเอง ยังไม่มั่นใจ ต้องไปถามเซียนหย่ายยยบางกอก สงสัยเซียนใหญ่ที่ว่ามาเข้าฝันให้ไปขุดดูกรุพระสมเด็จฯ แระวัดขุนอินทรฯเป็นวัดสมัยอยุธยาครับพระที่แตกกรุสมัยอยุธยาไม่มีพระลักษณะสมเด็จฯส่วนใหญ่จะเป็นพระเนื้อชินแระเนื้อดินที่เราๆเห็นกันดาษดื่น....พอจะคิดกันได้นะครับ..ลองเอาไปคิดดูกันเอาเองเด้อพี่น้อง...รึลองฟังความคิดเห็นท่านอื่นดูครับ อย่าเพิ่งเชื่อผม ผมผิดด้าย ผมไม่ชั่ยเซียนที่ไหน ผมแค่ลูกของแม่ หลานของปู่ ครับ พี่น้อง ครับ ......
ผมเห็นที่อ่างทองมีแต่คนขาย ไม่เห็นมีเซียนพื้นที่ซื้อเก็บเลยครับ เห็นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
เดิมทีผมก็อยากนิมนต์อยู่มาก เฝ้าศึกษา สังเกตุอยู่นานหลายๆ เว็บครับ
ดูไปดูมาชักเริ่มสับสน บ้างก็ปิดประมูลกันหลักร้อย บ้างก็หลักพัน แต่มีกระทู้น่าแปลกครับ
เคาะไปหมื่นกว่ายังไม่ปิด จึงจำต้องตัดใจเพราะเราไม่เชี่ยวชาญ จะโดนเชือดเปล่าๆ
ผมว่าก่อนที่ข้อมูลชัดเจน ดูได้ ดูเป็นกัน เก็บสตางค์เล่นพระอื่นๆ ไปก่อน หรือเก็บสตางค์ไว้ก่อนก็ดีครับ
อย่าใจร้อน อย่าโลภ ท่านจะมีความสุขกาย สุขใจ สบายกระเป๋า
ผมก็อีกคนที่ดูไม่เป็นตอนนี้สั่งเข้ามาสององค์จะศึกษาครับเก๊ก็ไม่เป็นไรพี่ๆจำได้ใหมพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงที่แตกกรุเมื่อ20-30ที่แล้วมีเด็กเอามาขายที่ท่านำปากเกล็ดองค์ละ 10-30บาทพอเริ่มมีพระเข้ามาขายที่กรุงเทพมากเข้าก็มีการวิจารย์กันว่า ปลอม-ผียัดกรุ-ไม่ทัน เอาเป็นว่าผมไม่เอาดีกว่า แล้วปัจจุบันละครับเล่นหรือยัง ราคาละ มันน่า....ยัง..ยัง...มีอีกขออีกสักรุ บางขุนพรมกรุเจดีย์เล็ก เป็นอย่างไรเก็ทั้งกรุ ปจัจุบันละครับดูเอานะครับ ทีเขียนมานี้มิ มี เจตตนา ตอว่าใครเพียงแต่ เขียนมาเพื่อ บอก อะไรบางอย่าง ให้กับพี่ๆๆน้องๆๆได้รู้ก่อนที่อะไรๆจะไกลเกินจริง สาธุ สาธุ สาธุ
ผมเพิ่งกลับมาจากบ้านแฟน(สิงห์บุรี)คราวนี้เอาแน่ๆเลยครับ บุกไปทุกที่เลย..ที่มีข้อมูล สรุป(ส่วนตัว)ครับ..พระสมเด็จฯวัดขุนอินทรประมูล..ขอย้ำ..พระสมเด็จฯวัดขุนอินทรประมูล ที่ออกให้บูชาจากวัด..ขอย้ำ.."จากวัด" เป็น"พระแท้"ทุกองค์ครับ เนื่องจากออกมาจากทางวัด มีวัตถุประสงค์ชัดเจนมีการบันทึกและจำนวนที่แน่นอน แต่จะเล่นหากันที่ราคาเท่าไหร่ก้อแล้วแต่ครับ ตัวใครตัวมัน ครับ ...............ยกตัวอย่างครับ "วัดโภคินระอาราม" จัดงานสร้างส้วมวัด พอดีมีท่านที่ไม่ประสงค์จะออกนามไปกว้านซื้อพระใน..สนาม..มาเข่งนึง ให้ท่านสมภารเป่าพรวดๆ แล้วแจกให้กะผู้มีจิตศัทธาที่บริจากเงิน3สลึง มีคนนำกลับไปที่บ้าน เมียตบไม่เป็นไรแค่"ฟันหัก" เลยเชื่อถือกันมากมาย..เอาไปปล่อยกันต่อๆกัน..จนราคา..5สลึง............ถามครับ..พระของท่านสมภาร วัดโภคินระอาราม แท้มั้ยเอ่ย ดีเด่นทางไหน ค่านิยมเท่าไหร่ แขวนขึ้น"เขียง"เอ้ยย"คอ" ได้ไม๊ครับ....ก๊ากๆๆๆๆ .................และก้อยังมีพระกฐิน-ผ้าป่าของเกจิอาจารย์หลายๆท่านที่ปัจจุบันได้รับความนิยม ครับผม ผม"คิด"ได้แค่นี้แหล่ะครับ พี่น้อง ครับ...จะไปว่าของเค้า"เก๊"ก้อไม่ได้ เพราะของเค้าออกมาจากวัดฯรับจากมือ"สมภาร"ครับ พี่น้อง ครับ
ปล..ย้ำอีกครั้ง"พระสมเด็จฯวัดขุนอินทรประมูล"นะครับ ไม่ใช่ "พระสมเด็จกรุวัดขุนอินทรประมูล"เพราะ ที่วัดขุนอินทรฯยังไม่มีพระแตกกรุออกมาครับ พี่น้อง ครับ
ได้ข่าวว่าประมาณหลังวันที่ 20เมษายน 2552 ( จำไม่ได้ว่าวันไหน ) จะมีการประกวดพระเฉพาะสายอ่างทองอย่างเดียวที่ วิทยาลัยพละอ่างทอง
หนึ่งในการประกวดจะมีสมเด็จกรุวัดขุนอินทร์รวมอยู่ด้วย เห็นในใบรายการมาแล้ว
แบ๊ะ ๆ ครับ.....รอดูไปเรื่อย ๆครับ....
พระกรุขุนอินทประมูล ได้เริ่มแตกกรุออกมาในยุคแรกๆ นับเป็นเวลากว่า ๒๐ ปี มาแล้ว ระหว่างปี
ีพ.ศ.๒๕๓๐-๒๕๕๑ หลายๆท่าน อาจจะเกิดความงงและสงสัยว่าเอ๊ะ....ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย ซึ่งมันก็มิใช่เรื่อง
แปลกที่ท่านและคนอื่นๆอีกกว่า ๖๐ ล้านคนจะไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใดๆเลย เพราะพระกรุขุนอินทประมูลที่ได้แตกกรุ
ออกมานั้นเกิดจากการแอบขุดของคนบางกลุ่ม โดยการขุดตรงบริเวณด้านหลังกึ่งกลางองค์หลวงพ่อพระใหญ่ ซึ่ง
เป็นพระนอนที่มีความยาว ๒๕ วา ของวัดขุนอินทประมูล โดยหัวหน้าขบวนการ เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในสถาน
บริเวณแห่งนั้นร่วมกับลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งซึ่งมีทั้งหมดไม่เกิน ๑๐ คน อันเป็นกลุ่มปฏิบัติการที่รู้เรื่องราวมาโดย
ตลอด การกระทำโดยการแอบขุดของคนจำนวนไม่ถึง ๑๐ คนนั้น กระทำการโดยการปกปิดมาโดยตลอดกว่า ๒๐
ปีมานี้จะเป็นที่ทราบโดยทั่วถึงกันกับคนอีกกว่า ๖๐ ล้านคน มันคงเป็นไปได้ยากอย่างยิ่งที่จะเห็นและรู้ได้เพราะ
การแตกกรุของวัดขุนอินทประมูล ไม่เหมือนกับวัดอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งประโคมเป็นข่าวใหญ่โตรู้กันไปทั่วบ้านทั่วเมือง
เหตุที่ข้าพเจ้านำข้อมูลมาเปิดเผย ก็เพื่อให้คนอีกกว่า ๖๐ ล้านคนได้ทราบ ได้พิจารณาตามเหตุและผลเพื่อให้
ประวัติศาสตร์ของชาติที่ถูกบันทึกไว้ก่อนแล้วนั้น จากส่วนที่เป็นนามธรรมให้สมบูรณ์เป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่ง
ก่อนหน้านั้น ข้าพเจ้าก็คืออีกคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้เรื่องราวเช่นนี้มาก่อนเลยเช่นกัน
ปฐมเหตุได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ มีท่านอาจารย์ รูปหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือ
เมตตากรุณาให้พระข้าพเจ้ามา ๒ องค์ เป็นพระพิมพ์สมเด็จ ท่านบอกข้าพเจ้าแต่เพียงสั้น ๆ ว่าเป็นพระกรุวัด
ขุนอินทประมูลความสงสัยใคร่ที่อยากจะรู้ความจริงก็เกิดจากเหตุที่ได้พระสมเด็จมา ๒ องค์นี้เอง ด้วยอยากรู้ว่า
เท็จจริงประการใด จึงได้เกิดการนำสืบ ค้นคว้า พิสูจน์ ทั้งด้านพยานบุคคล พยานวัตถุ หลักฐานเอกสารต่างๆ
เท่าที่จะหาได้ เพื่อนำ มาประมวลหาเหตุและผลในการพิสูจน์หาความจริง ซึ่งได้กระทำการค้นคว้าพิสูจน์มาได้
๗-๘ ปี แล้ว จนมั่นใจได้แล้วว่าทุกอย่างที่ได้รับรู้มาเป็นเรื่องจริง และก็ต้องกราบขออภัย ซึ่งไม่สามารถเปิดเผย
ชื่อเสียงเรียงนามของเหล่าขบวนการแอบขุดเหล่านี้ได้ เพราะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของคนเหล่านั้น
ย้อนหลังกลับไปเมื่อเกือบ ๒๐ ปีก่อนนั้น วัดขุนอินทประมูลยังไม่ค่อยมีคนนิยมมาท่องเที่ยว มากราบไหว้พระมาก
มายเหมือนเช่นปัจจุบันนี้สมัยก่อนพื้นที่รอบด้านจะถูกล้อมรอบไปด้วยท้องนา รกไปด้วยป่าด้วยหญ้าไม่ค่อยมีคน
พลุกพล่าน ส่วนการขุดที่ข้าพเจ้าสืบทราบมานั้น จะทำการขุดในยามวิกาลหรือเวลากลางคืน พอกลางวันก็จะใช้ไม้อัด
และสังกะสี ปิดปากหลุมที่ขุดโดยโช้ดินกลบทับไว้อีกทีเพื่อป้องกันไม่ให้คนสังเกตเห็น ทำการขุดเช่นนี้ตลอด
เวลาที่ล่วงมากว่า ๒๐ ปี การขุดจะขุดในตำแหน่งบริเวณด้านหลังตรงกึ่งกลางองค์พระนอน ห่างจากองค์พระ
นอนออกมา ๑ เมตร หลุมกว้าง ๑ เมตรและขุดลึกลงไป ๑.๕๐ เมตร โดยขุดเจาะเป็นโพรงหรืออุโมงค์ตลอด
ตามแนวความยาวขององค์พระนอนทั้งด้านหน้าและด้านหลังตลอดรอบองค์พระจนเวลาล่วงมาถึง ตุลาคม ๒๕๔๑
ดินชั้นบนที่เป็นฐานรองรับน้ำหนักองค์หลวงพ่อเกิดทรุดตัวเหตุเพราะดินชั้นล่างถูกขุดทำลาย ทำให้ส่วนที่เป็นปูน
ที่ฉาบก่อด้านหลังองค์หลวงพ่อ พังครูดทลายลงมาตลอดทั้งแนวทำให้องค์หลวงพ่อใหญ่ อันเป็นพระนอนศิลป์
สุโขทัยยาว ๒๕ วาหรือ ๕๐ เมตร ที่สวยงาม สง่างามและยาวที่สุดของประเทศไทยต้องพังทลายลงคงเหลือ
เพียงในส่วนของด้านหน้า ส่วนของพระเศียรและพระบาทขององค์พระเท่านั้นที่ไม่พังเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้เกิดขึ้นในเวลา ๑๐.๓๐ น.ก่อนเพลของวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๑ เกิดเสียงลั่น
ดังสนั่นปานฟ้าผ่า ตรงบริเวณ องค์หลวงพ่อใหญ่ เกิดเสียงลั่นดังสนั่นดังนี้ถึง ๒ คราครั้งแรกเกิดตอนกลางวัน
เวลา ๑๐.๓๐ น. ครั้งที่สอง เกิดตอนกลางคืนเวลาประมาณ ๓- ๔ ทุ่ม ซึ่งขณะนั้นวัดมีการจัดงานมีมหรสพ
พอสิ้นเสียงลั่นดัง ครั้งที่สอง องค์หลวงพ่อใหญ่ก็ทรุดลงเป็นกองอิฐกองปูน จุดประสงค์ของกลุ่มที่ขโมยขุด ไม่ได้
มุ่งหวังขุดหาพระสมเด็จแต่อย่างใดแต่ หวังของที่มี มูลค่าสูง เช่น พระพุทธรูปบูชาแก้วแหวนเงินทองอัญมณีม
ีค่าต่าง ๆ ได้พระพุทธรูปทองคำ ก็นำไปหลอมเป็นทองแท่งแล้วนำไปขายที่ร้านทอง เพื่อทำลายหลักฐานอันนำ
มาซึ่งความผิด อันอาจจะถึงตนเองได้
แต่กลุ่มคนเหล่านี้ก็หาได้หนีพ้นวิบากกรรมที่ตนได้ก่อขึ้นแล้วนั้นได้หัวหน้าขบวนการที่เคยรุ่งเรืองทั้งตำแหน่ง
และฐานะในขณะนั้น ต้องมีอันระเห็จระเหเร่ร่อนไปทั่ว หาที่พำนักเป็นหลักแหล่งอันแน่นอนไม่ได้ ทรัพย์สินที่เคยมี สถานะที่เคยดำรงอยู่ก็เสื่อมมลายสลายไปสิ้น ทุกข์กาย ทุกข์ใจหาทางออกไม่พบ หมดทางต้องหันไปพึ่งพายาบ้า
ยาเสพติด เพื่อหวังให้ช่วยคลายทุกข์ในยามมืดมนหมดหนทาง ส่วนคนที่ลงมือขุดบางคน ประสพอุบัติเหตุถึงขั้น
สาหัสเกือบแทบจะเอาชีวิตไม่รอด เหตุมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ไปล้ม ถูกรถบรรทุกขนาดใหญ่เหยียบซ้ำ จนมอเตอร์ไซค์
และหมวกกันน็อคที่ใส่หลุดออกจากศีรษะบี้แบนพังยับเยินล้วนเป็นฝันร้ายของชีวิต ที่ชะตากรรมต้องประสพอันเกิด
จากกรรมได้ลิขิตไว้ทั้งสิ้น
แต่ถ้ามองหาส่วนที่ดีในสิ่งที่ไม่ดีนั้น ย่อมมีอยู่เสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นแค่เพียงเศษขยะหรือแม้แต่จากมหา
โจรร้ายเพราะอย่างน้อยประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง กับพระสมเด็จชุดนี้ก็ได้ถูกเปิดเผยขึ้นโดยน้ำมือของคนกลุ่มนี้
นับว่าในมุมแห่งความมืดก็ยังมี ความสว่างที่ส่องให้เห็นความจริงอันเป็นประโยชน์ต่อประวัติศาสตร์ของชาติอย่าง
เอนกอนันต์
กาลเวลาล่วงเลยมากว่า ๑๐ ปี นับจากปี ๒๕๓๐-๒๕๔๑ ความก็มาแตกเมื่อความจริงเป็นที่ปรากฏว่า ใน
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๑ พระนอนที่ใหญ่และสวยงามที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย ต้องพังทลายลงทั้งองค์
จากน้ำมือของมนุษย์บางกลุ่มที่ทำการแอบขโมยขุด
ดังเอกสารสำนวนการสอบสวนที่ลงประกาศไว้ทาง นสพ.ไทยรัฐ หมายเลขข่าวที่ ๑๑-๐๑๒-p๑๙
วันที่ ๒๒-๑๑-๒๕๔๑ หน้า ๑๙-๕ ดาว ประเภทการศึกษา ของอธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้นความว่า
ยกเลิกสร้างวิหาร:นายนิคม มูสิกะคามะ อธิบดีกรมศิลปากร ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ ๒๐ พ.ย. ส่งไปถึงเจ้า
อาวาสวัดขุนอินทประมูล หมู่ ๓ ต.ขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ให้ยกเลิกรูปแบบรายการสร้างวิหาร
คลุมพระนอนขุนอินทประมูลที่ดำเนินการมานานและยกเลิกกรรมการซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากร ๓ คนที่มา
ควบคุมดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากพบว่าองค์พระนอนชำรุดมากมีผู้ลักลอบขุดทำลายจนเกรงเกิดอันตราย นอก
จากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า กรรมการจากกรมศิลปากรมีส่วนร่วมกับกลุ่มบุคคลขุดทำลายองค์พระ จนพังทลายลงมา
แล้วมีการเบิกเงินเพิ่มขึ้น ทางอธิบดีกรมศิลปากรจึงสั่งยกเลิกการควบคุมก่อสร้างและให้หยุดการก่อสร้างไว้ชั่วคราว
จนกว่าจะหาวิธีบูรณะองค์พระนอนให้มั่นคงก่อนจะออกแบบสร้างหลังคาคลุมองค์พระนอนต่อไป
นับเป็นบทสรุปที่ชัดเจนของกลุ่มคนที่กระทำการโดยมิชอบ ส่วนรายละเอียดของประวัติที่มาที่ไปของพระ
สมเด็จกรุขุนอินทประมูลนี้ ที่จะนำเสนอทุกท่านเพื่อพิจารณาในลำดับต่อไป จะขอเปิดประเด็นที่ความเชื่อมต่อ
ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๐๙ และปี พ.ศ. ๒๔๑๐ ว่ามีความสำคัญเกี่ยวพันและสัมพันธ์ต่อกันอย่างใด
ท้ายสุดนี้ขออำนวยพรให้ทุกๆท่าน จงมีแต่ความสุขความเจริญ เป็นผู้ที่ทรงจิต ทรงในธรรม เจริญในอารมณ์์
ที่ตื่นรู้และเบิกบาน มีนิพพานเป็นบั้นปลาย ด้วยเดชะ อำนาจบารมีแห่งองค์สมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี
ฤาษีกลางดง
ข้ารับใช้แห่งองค์สมเด็จ(โต)
ที่มา http://www.khuninthapramul.com/page3.htm
ผศ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ
สวัสดีครับท่านผู้มีเกียรติและพ่อแม่พี่น้องที่เคารพทั้งหลาย วันนี้กระผมมีโอกาส
ได้มาพูดคุยกับท่านผู้มีเกียรติและพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย เนื่องจากกระผมได้มีโอกาสกราบ
นมัสการท่านพระครูวิเศษชัยวัฒน์ หรือหลวงพี่เสวย ท่านเจ้าอาวาสวัดชัยมงคล และ
รักษาการ เจ้าอาวาสวัดขุนอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง ท่านเจ้าประคุณหลวงพี่เสวยได้
ถาม “ พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล ” ซึ่งขุดขึ้นมาจากกรุใต้ฐานของพระพุทธไสยาสน์
ขุนอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปรางค์ไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่
มาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธประวัติของพระพุทธไสยาสน์ขุนอินทประมูลนั้น
ท่านเจ้าประคุณหลวงพี่เสวย ก็คงจะได้รวบรวมมาในหนังสืออย่างละเอียดแล้ว สิ่งที่
กระผมจะกล่าวถึง ก็เป็นเพียงเฉพาะ พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลเท่านั้น และด้วย
ปรัชญาการวินิจฉัยพระเครื่องพระบูชานั้น ไม่ควรจะใช้หูฟัง ไม่ควรจะเชื่อหรืออ่านจาก
พุทธประวัติทั้งสิ้น ให้ใช้ตาพิจารณาถึงความเป็นไปได้ขององค์พระพุทธปฏิมากรรม คือ พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลเท่านั้น
เป็นพระผงสีขาวที่มีมวลสารตามทฤษฎีของพระสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี วัดระฆังโฆษิตาราม เป็นพระรูปทรง
สี่เหลี่ยมและมีขนาดเท่าๆ กับ พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม พุทธศิลป์ใกล้เคียงกับพระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตารามมาก แต่ก็มีพุทธพิมพ์ในรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้างอันเป็นเอกลักษณ์แม่พิมพ์ของ พระสมเด็จ กรุขุนอินทประมูลโดยเฉพาะ
พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลนั้น ท่านผู้รู้ในจังหวัดอ่างทอง ได้ขนานพระนาม เป็นพระพิมพ์ว่า
๑. พระพิมพ์พระประธาน ๒. พระพิมพ์ใหญ่
๓. พระพิมพ์ทรงเจดีย์ ๔. พระสมเด็จองค์เล็ก หรือ พิมพ์คะแนน
ในความเป็นจริงนั้นพระพุทธปฏิมากรรมหรือพระเครื่องที่สร้างขึ้นโดยคณาจารย์ที่มีตำแหน่งระดับพระสมเด็จ เช่น
สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี,หรือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า (สุกไก่เถื่อน)ประชาชนชาวไทยจะขนานพระนามว่า
เป็น พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พระสมเด็จอรหัง เป็นต้น แต่ถ้าเป็นพระเครื่องที่สร้าง
โดยคณาจารย์ที่ไม่มีตำแหน่งชั้นสมเด็จพระเครื่องเหล่านั้นจะไม่ขนานพระนามว่าเป็นพระสมเด็จ ดังตัวอย่าง เช่น พระ
วัดรังษี พระวัดพลับ พระหลวงปู่ภู เป็นต้น แต่ปัจจุบันแนวทางการขนานพระนามของพระเครื่องในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่
ี่มีพุทธลักษณะคล้ายๆ พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม ก็มีการขนานพระนามเป็นพระสมเด็จเช่นกัน เช่น พระสมเด็จวัด
เกศไชโย เป็นต้น สำหรับพระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลนั้น เนื่องจากมีพุทธลักษณะคล้ายคลึงกับ พระสมเด็จวัดระฆัง
โฆษิตารามทั้งพุทธศิลป์และมวลสารทั้งหมด อีกทั้งตามพุทธประวัติ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังสี ได้เคยเสด็จ มากราบนมัสการพระพุทธไสยาสน์ขุนอินทประมูลเหมือนเช่น วัดเกศไชโย พระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูล
จึงอาจจะได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี เป็นผู้สร้างหรือร่วมสร้างและบรรจุในใต้
ฐานของพระพุทธไสยาสน์ขุนอินทประมูล หรืออย่างน้อยที่สุดก็อาจจะได้รับพระบารมีจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี คณะกรรมการจึงขนานพระนามเป็น “ พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล ”
พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล เป็นพระเนื้อผงที่บรรจุในใต้ฐานพระพุทธไสยาสน์ ขุนอินทประมูลและน่าจะบรรจุ
อยู่ในที่สูงปราศจากน้ำท่วมใดๆ ด้วยอายุขององค์พระที่บรรจุไว้นานเป็นร้อยปี กลางวันจะร้อนด้วยไอแดด และกลางคืน
จะเย็นด้วยอากาศในตอนกลางคืน จึงก่อเกิดคราบปูนในอากาศที่ตกตะกอนจับลงบน องค์พระเครื่องที่เป็นพระผง จน
กระทั่งมี คราบปูนสีขาวนวลและจับแน่นเหมือนหินปูนโดยทั่วทั้งองค์พระ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ดังตัวอย่าง
เช่น พระหลวงปู่ภูพิมพ์ ๗ ชั้น ของวัดอินทร์ ฯ ที่ไปบรรจุไว้ในกรุ ที่จังหวัดพิษณุโลกนั้น จะมีผิวคราบปูนจับอยู่บาง ๆ
เป็นต้น แต่คราบปูนที่จับอยู่บน พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล มีความหนากว่ามาก แสดงว่าพระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล
ได้บรรจุในกรุมีอายุนานกว่าพระหลวงปู่ภูพิมพ์ ๗ ชั้นที่เปิดกรุได้ที่จังหวัดพิษณุโลกและอาจจะนานกว่าสองเท่า คราบปูน
ที่จับอยู่บนผิวขององค์พระตามธรรมชาตินั้น นอกจากจะมี ผิวธรรมชาติที่คล้ายคลึงกันแล้วผิวปูนตามธรรมชาติจะจับแน่น
ไม่สามารถหลุดโดยง่ายต้องใช้ ของแข็งขุดจึงจะสามารถเข้าถึงเนื้อได้ นอกจากผิวจะแข็งแกร่งแล้วยังมีสีด้านเหมือน
หินปูนธรรมชาติ เหมือนหินปูนในถ้ำ ถ้าเป็นหินปูนที่สร้างเทียมขึ้นจะต้องเป็นลักษณะปูนขาวผสมกาวที่แข็งและจับแน่น
แต่ก็จะต้องปรากฏความมันของกาวที่สร้างจากเคมีสังเคราะห์ขึ้นครับ
จึงหวังว่าท่านพุทธศาสนิกชนจะได้นิมนต์ไว้เป็นพุทธบูชาต่อไป
ที่มา http://www.khuninthapramul.com/page9.html
ข้อมูลดังกล่าวผมเคยอ่านแล้วครับ และด้ายไปสอบถามคนพื้นที่ ถึงที่วัดครับ มีการบูรณะองค์พระนอนจริง มีการก่อฉาบด้านหลังองค์พระครับ แต่ไม่มีกรุพระสมเด็จหรือพระอะไรเลยสักองค์ ครับ
สงสัยครับ ทำไมทางวัดไม่ทำการเปิดกรุเสียเองให้เป็นเรื่องเป็นราว ครับ ปี 30-41 บ้านเราก้อพัฒนาไปมากแล้วมีการเปิดกรุอย่างเป็นทางการหลายๆแห่งตั้งแต่ปี2500 เป็นต้นมา แล้วตกลง พระสมเด็จวัดขุนอินทประมูล ที่วัดให้เช่าบูชามาจากนอกวัดใช่ไม๊ครับ อ้างอิง..ต่อมาได้มีผู้ที่รวบรวมพระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูลครั้งมีการขุดกรุตามที่อาตมาได้กล่าวไว้ข้างต้น ได้ปรารภว่ามีจิตศรัทธาจะบริจาคพระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูลที่รวบรวมเอาไว้จำนวน ๒,๐๐๐ องค์ นำกลับมาถวายคืนวัดขุนอินทประมูลเพื่อสนับสนุนการสร้างอุโบสถ บุคคลท่านนี้ น่ายกยองอย่างแรงครับ พระสมเด็จฯ 2,000 องค์ เฉลี่ย องค์ละ 2หมื่น คิดเป็นเงิน 40ล้านบาท ครับ ป๊าดดดด...โคตรใจบุญเลยครับ น่าจะเอาชื่อเค้ามาตั้งขื่อพระอุโบสถหลังใหม่นะครับ..(หรือว่าเค้าจะมีเก็บวั่ยอีกแยะก้อมั่ยรู้เน๊าะ) นิสสส นึงครับ ...จากบทความของท่าน สมภาร ..หาก พระเทพโลกอุดรมีอายุ400ปีท่านมีบุตรห้าคนหนึ่งในนั้นคือพระบุญส่ง ญาณคุตโต(น้อยแสง) หรือพระราชสุวรรณโสภณ เจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง พระบุญส่งท่านควรจะมีอายุไม่น่าจะต่ำกว่า300ปีครับ...งง ครับ ยังมีอีกเย๊อะ ลองวิเคราะห์ดูเองครับ......บทความหลายๆบทความที่ผมเข้าไปอ่านในหลายๆเวปฯขัดแย้งกันเอง อีลุงตุงนัง ทั้งปี สถานที่ ที่มาที่ไป สรุปไม่ได้เลยครับว่า ตกลง สมเด็จฯวัดขุนอินทประมูล เป็นมายังไง และว่าจะไม่แร้วเชียวไอ้ที่ลงทะเบียนรายนามเจ้าของพระแต่ละองค์นั้นผมว่าเข้าท่าครับ..ชิวๆดี แต่ว่าลงทะเบียนองค์พระซ้ำกัน-หน้า-หลังมั่วไปหมดครับ(สังเกตุดีๆ)ไม่รู้ของไคเป็นของไค ครับ ....เอาเป็นว่า(ส่วนตัว)ผมยังยืนยันกระทู้ จ. 20 เมษายน 2552 15:03 ของผมครับ....พระที่ออกจากวัดฯเป็นพระสมเด็จวัดขุนอินทประมูล แท้ ทุกองค์ ครับ แต่ไม่ไช่ พระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูลครับ............
ผ่านเข้ามาอ่าน มันดีครับข้อมูลเพียบ ยุคนี้ข้อมูลข่าวสารถึงกันหมดครับ ไร้พรหมแดนจริงๆ ปี 35-42
ข่าวสารบ้านเราก็รวดเร็วอยู่เชียงใหม่ก็รู้เรื่องราวปัตตานี แต่ทำไมอยู่สระบุรี ไม่รู้เรื่องราวเมืองอ่างทอง
ขับรถประมาณ 30 กม.เอง 555น่าจะบอกกันตั้งแต่ตอนแตกกรุใหม่ๆ เนอะ จะได้มีประวัติแน่นอน รู้จักตัวคนขุด
แน่นอน ขุดกันยังไงเก่งจิง ชาวบ้านรอบวัดไม่รู้เรื่องเลย
พระชุดนี้ลามมาจนถึงสระบุรีเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเห็นจะได้(แก่แล้วอาจจะจำผิด) ท่านสมภารวัดหนึ่ง ท่านได้พระชุด
นี้จากอ่างทองมาจำนวนมาก แล้วก็แจกจ่ายญาติโยมที่มาทำบุญสร้างศาลาครับ ท่านดูพระไม่เป็น
ท่านบริสุทธิ์ใจครับแต่ได้รับการถ่ายทอดว่าสมเด็จโต เป็นคนสร้างครับก็ว่ากันไปตามนั้น แต่ขอถามผู้รู้
ครับ ตกลงแล้วทั้งหมดมีกี่องค์กันแน่ครับ
เห็นซื้อขายกันเต็มไปหมด บาง blog เขียนว่าของที่วัดแท้ ของนอกเก๊ ผมดูรูปจากวัด กับรูปที่ขายใน web
ก็เห็นเหมือนกันเด่ะ เลยจะขอเฝ้าดูต่อไปครับ จะลงเอยกันยังไงมันส์ๆๆๆๆดี
เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก
อย่าเตะหมู เข้าปากหมา
ยิ่งศึกษา ยิ่งสับสน
ที่สำคัญ เยอะ เหลือเกิน
บ๊ายบาย ตัวใครตัวเผือก แล้วกัน
ของที่ว่าเก๊เจ้าของโรงงานเขาก็ยอมรับว่าทำเองจริงมีใบเสร็จ ด้วยเขามีสัจจะกับคนซื้อครับพี่ และพระก็ยังไม่แห้ง ถ้าข้างนอกก็ต้องเล่นพระสมเด็จเนื้อดีมีความเก่า
ถ้าของโรงงานของสนามรู้รู้กันอยู่ถ้ายอมรับก็เจออีกเป็นล้านองค์ มาไม่มีหมดของวัดเป็นการทำบุญ ครับมีใบอนุโมทนาให้ เดียวนีพื้นที่ก็ยอมรับว่ามีของโรงงานเข้ามาแล้ว ผมคิดวาอิฉากันมากกว่าเล่นตามที่ตัวเองกำหนด ส่วนตัวผมก็เก็บจากที่นีที่นูน ไปให้เขาอีกที่ไม่เคยไปขอคัดที่วัดสระบุรีด้วยผมเคยว่าไปยังโดนด่าเลย เรื่องสวดพระก็เหมือนกันพวกพื้นที่ไม่เชื่อว่ากรุนี้มีจริงเชื่อว่ายัดกรุ แต่ลืมคิดไปว่าสร้างขึ้นมาใหม่ก็เก่าไม่เท่าเขาที่ทำมาแต่ที่แรก จึงตัดราคากันเองโรไปยัดลูกค้าอ้างคนนู้นอ้างคนนี้บอกไม่ดีกรรมการบางท่านก็ใช่จะมีความคิดเหมือนกันทั้งหมดมีโลภมีโกรธมีหลง ผมยังมีไม่ถึง5องงค์เลยเก็บจากดีดีพระจนพวกมันใส้เอาไปขายแพงแตไม่เคยขายในนี้ครับเพราะถือว่าทำมาหากินร่วมกันผมก็ไม่ใข้กรรมการวัดบางที่ยังโดนพวกเดียวกันแทงข้างหลังบ่อยๆรู้ครับแต่ก็เฉยปล่อยไป
สังเกตหรือเปล่าครับทำไม่พระมีหลายสีหลายโซนหลายเนื้อ ทางเหนือก็สีแดง ทางสระบุรีก็สีเทา ทางอางทองก็ออกน้ำตาลใหม่ ทางขัยนาทออกสีขาวเหลือง
ว่างๆเข้าไปดูหน้าเช็คพระบ้างนะครับจะได้รูใครสวดกันแน่เล่นกรุนี้แนะนำครับเล่นเนื้อวัดระฆังเก๊เฉียบอนาคตไกล้ครับ
YOU MUST BE LOGGED IN TO REPLY TO THIS TOPIC!