สวย หายาก ... พระหลวงปู่ทวด อ.นอง วัดทรายขาว พิมพ์สี่เหลี่ยม กรรมการใหญ่ ( ฝังตะกรุดทองคำนารายณ์แปลงรูป) ปี 2538

เขียนโดย : มืองาน02 วันที่ลง : 2018-02-04 11:35 เยี่ยมชมร้านค้า

ชื่อพระ/สินค้า สวย หายาก ... พระหลวงปู่ทวด อ.นอง วัดทรายขาว พิมพ์สี่เหลี่ยม กรรมการใหญ่ ( ฝังตะกรุดทองคำนารายณ์แปลงรูป) ปี 2538
หมวด
ประเภท
ขายแล้ว
ราคา
รายละเอียด พระหลวงปู่ทวด พ.ศ. 2538 อ.นอง วัดทรายขาว พิมพ์สี่เหลี่ยมกรรมการใหญ่ (องค์ครู ฝังตะกรุดทองคำนารายณ์แปลงรูป) องค์ที่ 1 (โรยแร่ดูดทรัพย์) ด้านหลังตอกโค๊ด “นะ” สภาพสวยเดิมๆ 20 ปี พุทธคุณเน้นด้านเรียกเงินทองขั้นสูงสุด มหาเสน่ห์ มหาหลง เมตตามหานิยม เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราเป็นคนอื่น (เปลี่ยนหน้าได้หลายหน้า) แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มหาอุตม์ ป้องกันสัตว์ร้ายและกันโจรผู้ร้าย ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และกันภูตผีปีศาจ เข้มขลังมากๆๆๆ
วัตถุมงคลที่พระอาจารย์นองสร้างและมีชื่อเสียงมากที่สุด คือ “พระหลวงปู่ทวด” ซึ่งตลอดชีวิตของพระอาจารย์นอง ท่านได้สร้างไว้มากกว่า 50รุ่น ไม่ว่าจะเป็นพระเนื้อว่าน พระรูปหล่อ เหรียญ พระกริ่ง ผ้ายันต์ ตะกรุดโทน ฯลฯ เป็นต้น
ตะกรุดโทนที่พระอาจารย์นองท่านได้สร้างขึ้นมา จนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท่าน คือ “ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป”เป็นตะกรุดที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระอาจารย์นองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของสงครามเวียดนาม บรรดาทหารหาญที่ได้รับตะกรุดของท่านติดตัวไปรบ ต่างกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยทุกคน
พระอาจารย์นองท่านเริ่มทำตะกรุดครั้งแรกประมาณปี พ.ศ.2496 ซึ่งเป็นการทำและแจกในเฉพาะกลุ่มลูกศิษย์ โดยครั้งแรกเป็นการทำตะกรุดจากแผ่นโลหะขนาดเล็ก ต่อมาชาวบ้านและกลุ่มลูกศิษย์ของท่านได้นำปลอกลูกปืนมาให้ท่านเพื่อทำเป็นตะกรุด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้ที่ได้รับไปบูชามากมาย ตะกรุดที่ทำจากปลอกลูกปืนมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ขึ้นอยู่กับวัสดุที่หาได้ในขณะนั้น
เชื่อกันว่า “ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป”ของพระอาจารย์นองมีพุทธคุณโดดเด่นในเรื่องของการกลับร้ายให้กลายเป็นดี แคล้วคลาดและมหาอุตฆ์ ใช้กำบังพรางตัว ศัตรูคิดร้ายก็มองไม่เห็น ไม่สามารถทำอันตรายเราได้ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่มีตะกรุดนี้ติดตัวและเป็นคนดีมีศีลธรรม ใครที่มาคิดร้ายและจะทำอันตราย ก็จะมีอันเป็นไปเอง
“วิชานารายณ์แปลงรูป” ค่อนข้างหาคนทำยาก เพราะต้องมีการตั้งอาการ เรียกรูป เรียกนาม ฯลฯ คิดง่ายๆก็คือว่า พระนารายณ์ท่านเป็นเทพผู้เรืองฤทธิ์การจะนำเอาคาถาไปกำกับรูปของพระนารายณ์ มันจึงไม่ใช่ของง่ายๆ ดังนั้นคนโบราณจึงมักนำ “วิชานารายณ์แปลงรูป”นี้มาดัดแปลงเป็นตัวยันต์หรือใช้เป็นแบบคาถามากกว่า วิชานี้อาจเรียกได้อีกอย่างว่า “วิชาอาคมเปลี่ยนหน้า” ผู้ใดอาราธนาตะกรุด จะช่วยให้หลีกเลี่ยงจากเรื่องร้ายๆ ให้กลับกลายเป็นดีได้
“วิชานารายณ์แปลงรูป”ของพระอาจารย์นอง เป็น “วิชาเฉพาะตัว”ไม่เหมือนใคร เพราะท่านได้วิธีการทำตะกรุดโทน การเขียนอักขระและคาถาในการปลุกเสกตะกรุดนารายณ์แปลงรูปจาก “นางไม้” (ชื่อ “แม่นางจันทร์”) เป็นเทพธิดาอยู่ที่ "ยอดเขาสันกาลาคีรี" และเป็นโยมอุปัฏฐากของ “หลวงพ่อสิทธิชัย”อดีตเจ้าอาวาสวัดทรายขาว แม่นางจันทร์ได้มีความประสงค์จะขอร่วมสร้างบุญกุศล โดยจะช่วยพระอาจารย์นองสร้างกุฏิให้สำเร็จ พร้อมกับขออาราธนาให้พระอาจารย์นอง ได้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดทรายขาวแห่งนี้ตลอดไป
และตะกรุดของท่านหากเป็นในลักษณะ “แบบตะกรุดทั่วไป ก็ห้ามคลาย”หากเป็น “แบบปลอกลูกปืน ก็ห้ามแกะ”นั้นคือข้อควรระวังในการใช้ตะกรุดของท่าน
ส่วนสาเหตุที่พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ต้องจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆขึ้นมา นั่นก็คือ เพื่อนำปัจจัยมาเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ และสร้างเสนาสนะต่างๆ ภายในวัดนั่นเอง
ในปี พ.ศ.2511 พระอาจารย์นองได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดทรายขาว พระอาจารย์นองได้เล่าว่า เมื่อครั้งที่ท่านมาอยู่วัดทรายขาวใหม่ๆ นั้น วัดทรายขาวลำบากมาก กุฏิที่พักสงฆ์ก็ไม่มี หนทางการไปมาหาสู่ก็เป็นทางเกวียน ห่างจาก “ตลาดนาประดู่” ถึง 7 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าไกลมาก เนื่องจากในการเดินทางสมัยก่อนที่ยังเป็นป่าอยู่ ดังนั้นหลายครั้งที่พระอาจารย์นองเล่าให้ฟังว่า วัดทรายขาวนั้น เป็นวัดที่เทวดาสร้างขึ้น เนื่องจากว่า ในคืนวันหนึ่งท่านได้นิมิตว่า มีเทวดามาบอกให้ท่านสร้างกุฏิสงฆ์ แต่ท่านบอกว่าจะสร้างได้อย่างไรเมื่อเงินก็ไม่มี
เทวดาในฝันตนนั้นบอกว่า เราจะหาเงินให้ท่าน แล้วก็ได้บอกให้ท่านไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ตลาดนาประดู่ โดยที่ไม่ได้บอกว่าเป็นเลขอะไร เพียงแต่บอกให้ไปซื้อเฉยๆ เมื่อท่านตื่นนอนขึ้นมาแต่เช้ามืดก็ได้บอก ให้ลูกศิษย์ออกเดินเท้าไปตามทางเกวียน เพื่อไปยังตลาดนาประดู่ และไปถึงก็สว่างพอดี และได้ตรงไปยังร้านขายสลากกินแบ่งรัฐบาล อันเป็นร้านที่รู้จักมักคุ้นกันดีและเมื่อไปถึงก็ถามหาสลากกินแบ่งรัฐบาล และทางร้านก็บอกว่ามีเหลืออยู่ใบเดียวเท่านั้น
ในขณะที่พระอาจารย์นองให้ลูกศิษย์ไปเพื่อซื้อสลากนั้น ท่านไม่มีเงินติดตัวเลย ดังนั้นท่านจึงบอกให้ลูกศิษย์ที่ไปซื้อว่าให้เอาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาก่อน แล้วค่อยให้เงินทีหลัง (ซื้อเงินเชื่อ) เมื่อผลสลากออกมาปรากฏว่าถูก พระอาจารย์นองจึงได้นำเงินที่ได้จากการถูกสลากตรงนี้มาสร้างกุฏิและศาลาวัด
พระอาจารย์นองได้ให้ลูกศิษย์ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลตามความฝันตามที่เทวดาบอกถึง 5-6 ครั้ง จนกระทั่งได้สร้างเสนาสนะภายในวัด ได้ถึง 7 หลัง ปัจจุบันนี้ท่านได้เหลือกุฏิไว้ 1 หลังเพื่อเป็นอนุสรณ์
ในขณะที่ “พระอาจารย์ทิม” ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านพระอาจารย์ทิมได้มาหาพระอาจารย์นองและบอกให้ท่านสร้างพระสมเด็จ “หลวงพ่อทวด” เพื่อหาปัจจัยมาพัฒนาวัด แต่พระอาจารย์นองตอบว่า จะทำได้อย่างไรในเมื่อพระอาจารย์ทิมยังมีชีวิตอยู่ นั่นก็คือว่าเมื่อครูบาอาจารย์ คือ พระอาจารย์ทิมยังมีชีวิตอยู่ พระอาจารย์นองในฐานะลูกศิษย์จะทำทับท่านได้อย่างไร
จากนั้นมาเมื่อปี พ.ศ.2514 พระอาจารย์นองได้ดำริจัดสร้าง “พระพุทธรูปปางยมกปาฎิหาริย์” ขึ้นไว้ ประดิษฐานบนยอดเขาสันกาลาคีรี (เขาทรายขาว) ซึ่งการดำเนินการต่างๆ ก็ได้ดำเนินการมาจนกระทั่งได้มีการกราบทูล “สมเด็จพระบรมราชชนนี” (สมเด็จย่า) มาเพื่อวางศิลาฤกษ์
จากนั้นเมื่อได้มีการวางศิลาฤกษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การก่อสร้างต่างๆ ก็ยังไม่รุดหน้าเนื่องจากว่าหนทางที่ได้บุกเบิกขึ้นไปยังยอดเขานั้นพังทลายอยู่เป็นประจำเมื่อมีฝนตกลงมา แม้จะได้มีการพยายามเพื่อสร้างทางขึ้นมาใหม่ก็ตาม แต่เมื่อฝนตกทีไรทางก็พังทลายลงทุกที จนในที่สุดการก่อสร้าง “พระพุทธรูปปางยมกปาฏิหาริย์” องค์ใหญ่บน “ยอดเขาสันกาลาคีรี” ก็เป็นอันต้องล้มเลิก ทั้งนี้นอกจากเรื่องของหนทางแล้วก็คือเรื่องสุขภาพของพระอาจารย์นองนั่นเอง ที่ยิ่งนับวันก็ยิ่งป่วยหนัก
แต่กระนั่นก็ตามในปีนั้น พ.ศ.2514 ท่านก็ได้สร้าง “พระผงปางยมกปาฎิหาริย์” ขึ้นทั้งนี้ด้วยหวังว่าจะนำปัจจัยอันเกิดจาการเช่าบูชามาเพื่อสร้างพระพุทธรูปปางยมกปาฎิหาริย์องค์ใหญ่บนยอดเขาสันกาลาคีรีนั่นเอง
ดังนั้นพระยมกปาฎิหาริย์ จึงเป็น “พระผงร่นแรก” ของวัดทรายขาว และในปีเดียวกันนั่นเอง หลังจากที่พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2512 และได้พระราชทานเพลิงศพเมื่อปี พ.ศ.2514 อันเป็นปีเดียวกันที่พระอาจารย์นองได้สร้างพระผงปางยมกปาฏิหาริย์ พระอาจารย์นองได้เล่าว่า คืนหนึ่งพระอาจารย์ทิมได้มาหา และสนทนากัน โดยพระอาจารย์นองไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง เพราะพระอาจารย์นองได้เป็นคนจุดไฟเผาพระอาจารย์ทิมด้วยตัวเอง
ซึ่งพระอาจารย์นองเล่าว่ามันเหมือนไม่ใช่ความฝัน แต่เหมือนกับคนปกติมาคุยด้วยมากกว่า เรื่องที่คุยนั้นก็คือ เรื่องการสร้างพระสมเด็จหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ โดยพระอาจารย์นองบอกว่า พระอาจารย์ทิมมาเพื่อบอกให้สร้างพระสมเด็จหลวงพ่อทวด และได้มอบคาถาปลุกเสกหลวงพ่อทวดให้ จากนั้นมาปีเดียวกันนั้นเอง พระอาจารย์นอง ก็ได้สร้างพระผงสมเด็จหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ขึ้น โดยการแกะเบ้า หรือใช้เครื่องปั๊ม นั่นเอง ดังนั้นพระสมเด็จหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน วัดช้างให้ ปี พ.ศ.2514 จึงเป็นพระผงสมเด็จหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก ของวัดทรายขาวที่ใช้เครื่องปั๊ม
จากนั้นต่อมาพระเดชพระคุณพระครูธรรมกิจโกศล (พระอาจารย์นอง ธมมภูโต) แห่งวัดทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ก็ได้สร้างพระสมเด็จหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ขึ้นเรื่อยมา ทั้งที่เป็นพระผงเนื้อว่าน เหรียญนวโลหะ เหรียญเงิน ,ทองแดง,ทองคำ ตลอดจนพระบูชา ทั้งนี้เพื่อนำปัจจัยมาเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ และสร้างเสนาสนะต่างๆ ภายในวัดนั่นเอง และได้มีการสร้างเรื่อยมาจนกระทั่งวาระสุดท้ายของพระเดชพระคุณพระอาจารย์นอง
ซึ่งองค์ที่อาจารย์นำมาเสนอนี้ เป็นพระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน พิมพ์สี่เหลี่ยมกรรมการใหญ่ ของวัดทรายขาว ปัตตานี ปี พ.ศ. 2538 ด้านหลังบรรจุตะกรุดทองคำ (นารายณ์แปลงรูป) ตอกโค๊ด “นะ” (โรยแร่ดูดทรัพย์) ลำพังเฉพาะตะกรุดทองคำของหลวงปู่นอง ก็สุดยอดในด้านประสบการณ์แล้ว ยังแถมด้วยพุทธคุณของหลวงปู่ทวด ซึ่งพระเนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นนี้ ก็มีส่วนผสมมวลสารเดียวกับพระเนื้อว่านรุ่นแรก ปี2497 ของวัดช้างไห้ ซึ่งปัจจุบันหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ปี 2497 ราคาแพงมากๆ แถมเป็นพระปลอมเยอะที่สุด ถ้าจะหาพระสายหลวงปู่ทวด ที่เน้นพุทธคุณดีๆ อาจารย์ขอแนะนำพระรุ่นนี้ครับ มีพิธีมหาพุทธาภิเษกอัญเชิญบารมีขององค์สมเด็จหลวงปู่ทวด มาร่วมปลุกเสกด้วย และพระเกจิที่มาร่วมปลุกแต่ละรูปนั้น เป็นจอมขมังเวทย์จ้าวแห่งอาคมทั้งนั้น พระองค์นี้สภาพผิวธรรมชาติเดิมๆ ที่เกิดจากปฏิกิริยาของว่านกับอากาศ มีคราบไขขาว คราบไขว่านอย่างชัดเจน เนื่องจากผ่านกาลเวลามานานถึง 19 ปีสภาพโดยรวมถือว่า สวยสมบูรณ์มาก สวยงามน่าใช้งานมากๆๆๆครับ องค์นี้มีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการเมือง นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเดินทางรอบโลก นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง เด็กเสี่ย ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกอาชีพ มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม ผู้มีอิทธิพล ผู้ที่มีศัตรูมากคอยจ้องคิดจะทำร้ายเราอยู่เสมอๆๆๆ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง
CR.manee007

ติดต่อร้านค้า

ที่อยู่ พระราม 2
โทร 084-411-3313
อีเมล
Line ID
ธนาคาร