พระสวย สุดยอดประสบการณ์เลยครับ พิธีใหญ่สุดๆครับ เกจิดังๆๆปลุกเสกเพียบเลยครับ รับประกันตามกฏครับ
วัดใจ 10บาท!! กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง เงินยวง วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 กล่องหรูเดิมๆ เลขสวยๆ อย่าลืมดูรายการอื่นๆนะครับ ^_^ กดที่ จ้า กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 กริ่ง หมายความว่ากระไร สมเด็จฯ (สมเด็จพระสังฆราชแพ ติสฺสเทว) เคยรับสั่งเสมอว่า คำว่า "กริ่ง" นี้ มาจากคำถามที่ว่า "กึ กุสโล" (กิง กุสะโล) คือเมื่อพระโยคาวจรบำเพ็ญสมณธรรมมีจิตผ่านกุศลธรรมทั้งปวงเป็นลำดับไป แล้ว ถึงขั้นสุดท้ายจิตเสวยอุเบกขาเวทนา ปุญญาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายดี ได้แก่ กุศลเจตนา) เปลี่ยนเป็น อเนญชา (สภาพที่ปรุงแต่งภพอันมั่นคง ไม่หวั่นไหว ได้แก่ ภาวะจิตที่มั่นคงแน่วแน่ด้วยสมาธิแห่งจตุตถฌาน คือ ฌานที่ 4) เป็นเหตุให้พระโยคาวจรเอะใจขึ้นว่า "กึ กุสโล" นี้เป็นกุศลอะไรเพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้น แปลกประหลาดไม่เหมือนกับกุศลอื่นที่ผ่านมาดังนั้น คำว่า "กึ กุสโล" จึงเป็นชื่อของ อเนญชา คือ "นิพพุติ" แปลว่า "ดับสนิท" คือ หมายถึงพระนิพพาน นั่นเอง" พระกริ่งนั้นเป็นพระเครื่องที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก เมื่อครั้งที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ผู้เป็นหนึ่งในตำรับการสร้างพระกริ่งเมืองสยาม เคยประสบถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระกริ่งนี้ กล่าวคือ เมื่อครั้งที่ยังเป็นที่พระศรีสัมโพธิ สมเด็จพระวันรัต(แดง) สมเด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ยังมีชีวิตอยู่ และได้อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งยังเป็นกรมหมื่นเสด็จมาเยี่ยม เมื่อรับสั่งถามถึงอาการของโรคเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว รับสั่งว่าเคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯ เสด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ พระองค์จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่ตามเสด็จไปนำพระกริ่งที่วัดบวรนิเวศฯ แต่ สมเด็จพระวันรัต(แดง) ทูลว่า พระกริ่งที่กุฏิมี สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ จึงรับสั่งให้นำมาแล้วอาราธนาพระกริ่งชาน้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วนำไปถวายสมเด็จพระวันรัต (แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์แล้วโรคอหิวาตก โรคก็บรรเทาหายเป็นปกติ จากนั้นเป็นต้นมา สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทวมหาเถร) จึงศึกษาตำรับตำราการสร้างพระกริ่งอย่างจริงจัง และนับว่าสายสำนักวัดสุทัศนเทพวรารามเป็น"เอกอุ" ในตำรับการสร้างพระกริ่งที่นับเนื่องสืบทอดมาแต่ครั้ง สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทวมหาเถร) สืบสายต่อยัง พระราชมงคลมุนี(สนธ์ ยติธโร) ที่รู้จักกันในนาม "เจ้าคุณศรี(สนธิ์)" และผ่องถ่ายตำรับตำราการสร้างมายัง พระศรีสัจจญาณมุนี (ประหยัด) สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ) วัดสุวรรณาราม ศิษย์รูปสุดท้ายของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) มอบจีวรและเส้นเกศาแด่พระครูพิมลสรภาณ พระกริ่งที่จัดสร้างโดยวัดสุทัศนเทพวราราม ล้วนเป็นที่หมายปองของนัก สะสมพระกริ่งเป็นอย่างมาก พระกริ่งที่นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งได้จัดสร้างขึ้นเพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญวัด พระเครื่องที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเครื่องสำหรับทำน้ำมนต์โดยเฉพาะเป็น "พระหมอ" สำหรับรักษาโรคภัยไข้เจ็บอันลือลั่นในประวัติความเป็นมาแต่อดีต "พระกริ่งอายุ วรรณโน สุขะ พลัง" ความพิเศษของพระกริ่งรุ่นนี้ นอกจากโลหะศักดิ์สิทธิ์แล้ว พระกริ่งรุ่นนี้ยังมีเกศาของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ สุวฑฺฒโน) แห่งวัดสุวรรณาราม และจีวรของท่านซึ่งได้มอบให้แก่พระครูพิมลสรภาณ เพื่อนำไปบรรจุอยู่ใต้ฐานพระกริ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลแด่ผู้บูชาพระกริ่งนี้เนื่องเพราะสมเด็จพระพุทธ โฆษาจารย์นับว่าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีอายุกาลสูงถึง 102 ปี สมกับนามแห่งพระกริ่งองค์นี้ว่า "พระกริ่งอายุ วรรณโน สุขะ พลัง" ที่สำคัญยิ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์องค์นี้ เป็น"ศิษย์" สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) รูปเดียวที่ยังคงมีชีวิตอยู่ กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง เงินยวง วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 ความสูงประมาณ 4.0 ซม. ตอกโค๊ต และตอกหมายเลขกำกับใต้ฐาน สภาพสวยมาก ไม่ผ่านการใช้ ผิวเดิมๆ บูชาพร้อมกล่องเดิมจากทางวัด
ขอบคุณครับ (auto feedback)
พระกริ่งชินรังสี 47 สองแผ่นดิน สมเด็จญาณสังวร ปี 2547 ชนวน เก่าสภาพเดิมๆ ตอกโค๊ด เลขใต้ฐาน 343 สวยเดิมครับ รับประกันความพอใจทุกกรณี ครับ ปล. ติดต่อสอบถาม และจัดส่งสินค้าในวันทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลาไม่เกิน 17.30 น. เท่านั้น ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยครับ
พระแท้ สภาพเดิม รับประกันตามกฏครับ เงินส่วนหนึ่ง ผมนำไปทำบุญ ขอบคุณครับ หมั่นทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิทุกวันดีครับ โอนแล้วรบกวนแจ้งใน Mail Box ด้วยครับ
วัดใจ 10บาท!! กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง สำริด วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 กล่องหรูเดิมๆ เลขสวยๆ จัดเลขสวยสุดๆ อย่าลืมดูรายการอื่นๆนะครับ ^_^ กดที่ จ้า กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 กริ่ง หมายความว่ากระไร สมเด็จฯ (สมเด็จพระสังฆราชแพ ติสฺสเทว) เคยรับสั่งเสมอว่า คำว่า "กริ่ง" นี้ มาจากคำถามที่ว่า "กึ กุสโล" (กิง กุสะโล) คือเมื่อพระโยคาวจรบำเพ็ญสมณธรรมมีจิตผ่านกุศลธรรมทั้งปวงเป็นลำดับไป แล้ว ถึงขั้นสุดท้ายจิตเสวยอุเบกขาเวทนา ปุญญาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายดี ได้แก่ กุศลเจตนา) เปลี่ยนเป็น อเนญชา (สภาพที่ปรุงแต่งภพอันมั่นคง ไม่หวั่นไหว ได้แก่ ภาวะจิตที่มั่นคงแน่วแน่ด้วยสมาธิแห่งจตุตถฌาน คือ ฌานที่ 4) เป็นเหตุให้พระโยคาวจรเอะใจขึ้นว่า "กึ กุสโล" นี้เป็นกุศลอะไรเพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้น แปลกประหลาดไม่เหมือนกับกุศลอื่นที่ผ่านมาดังนั้น คำว่า "กึ กุสโล" จึงเป็นชื่อของ อเนญชา คือ "นิพพุติ" แปลว่า "ดับสนิท" คือ หมายถึงพระนิพพาน นั่นเอง" พระกริ่งนั้นเป็นพระเครื่องที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก เมื่อครั้งที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ผู้เป็นหนึ่งในตำรับการสร้างพระกริ่งเมืองสยาม เคยประสบถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระกริ่งนี้ กล่าวคือ เมื่อครั้งที่ยังเป็นที่พระศรีสัมโพธิ สมเด็จพระวันรัต(แดง) สมเด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ยังมีชีวิตอยู่ และได้อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งยังเป็นกรมหมื่นเสด็จมาเยี่ยม เมื่อรับสั่งถามถึงอาการของโรคเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว รับสั่งว่าเคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯ เสด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ พระองค์จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่ตามเสด็จไปนำพระกริ่งที่วัดบวรนิเวศฯ แต่ สมเด็จพระวันรัต(แดง) ทูลว่า พระกริ่งที่กุฏิมี สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ จึงรับสั่งให้นำมาแล้วอาราธนาพระกริ่งชาน้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วนำไปถวายสมเด็จพระวันรัต (แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์แล้วโรคอหิวาตก โรคก็บรรเทาหายเป็นปกติ จากนั้นเป็นต้นมา สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทวมหาเถร) จึงศึกษาตำรับตำราการสร้างพระกริ่งอย่างจริงจัง และนับว่าสายสำนักวัดสุทัศนเทพวรารามเป็น"เอกอุ" ในตำรับการสร้างพระกริ่งที่นับเนื่องสืบทอดมาแต่ครั้ง สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทวมหาเถร) สืบสายต่อยัง พระราชมงคลมุนี(สนธ์ ยติธโร) ที่รู้จักกันในนาม "เจ้าคุณศรี(สนธิ์)" และผ่องถ่ายตำรับตำราการสร้างมายัง พระศรีสัจจญาณมุนี (ประหยัด) สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ) วัดสุวรรณาราม ศิษย์รูปสุดท้ายของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) มอบจีวรและเส้นเกศาแด่พระครูพิมลสรภาณ พระกริ่งที่จัดสร้างโดยวัดสุทัศนเทพวราราม ล้วนเป็นที่หมายปองของนัก สะสมพระกริ่งเป็นอย่างมาก พระกริ่งที่นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งได้จัดสร้างขึ้นเพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญวัด พระเครื่องที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเครื่องสำหรับทำน้ำมนต์โดยเฉพาะเป็น "พระหมอ" สำหรับรักษาโรคภัยไข้เจ็บอันลือลั่นในประวัติความเป็นมาแต่อดีต "พระกริ่งอายุ วรรณโน สุขะ พลัง" ความพิเศษของพระกริ่งรุ่นนี้ นอกจากโลหะศักดิ์สิทธิ์แล้ว พระกริ่งรุ่นนี้ยังมีเกศาของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ สุวฑฺฒโน) แห่งวัดสุวรรณาราม และจีวรของท่านซึ่งได้มอบให้แก่พระครูพิมลสรภาณ เพื่อนำไปบรรจุอยู่ใต้ฐานพระกริ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลแด่ผู้บูชาพระกริ่งนี้เนื่องเพราะสมเด็จพระพุทธ โฆษาจารย์นับว่าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีอายุกาลสูงถึง 102 ปี สมกับนามแห่งพระกริ่งองค์นี้ว่า "พระกริ่งอายุ วรรณโน สุขะ พลัง" ที่สำคัญยิ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์องค์นี้ เป็น"ศิษย์" สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) รูปเดียวที่ยังคงมีชีวิตอยู่ กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง สำริด วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 ความสูงประมาณ 4.0 ซม. ตอกโค๊ต และตอกหมายเลขกำกับใต้ฐาน สภาพสวยมาก ไม่ผ่านการใช้ ผิวเดิมๆ บูชาพร้อมกล่องเดิมจากทางวัด
วัดใจ 10บาท!! พระสมเด็จ 100 ปี พิมพ์เกศทะลุซุ้ม แช่น้ำมนต์กรรมการพิเศษ มีเลข ตะกรุดทอง มวลสารเต็มสวย สภาพยังสวย วัดบวรนิเวศ สวยๆ ตลับเดิมๆ หายากแล้วครับ ส่งประกวดได้ทุกงานแล้วครับ เริ่มหายากแล้วครับ อย่าลืมดูรายการอื่นๆนะครับ ^_^ กดที่ จ้า
วัดใจ 10บาท!! สมเด็จพระญาณสังวร รูปหล่อพิมพ์เบ้ากระดก (เบ้าทุบ) รุ่นแรก เนื้อชนวนนำฤกษ์ พ.ศ.2553 มีโค๊ตและหมายเลขกำกับ ใ้ต้ฐานบรรจุชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย สภาพสวยมาก ไม่ผ่านการใช้ ผิวเดิมๆ คราบเบ้าเดิมๆ บูชาพร้อมกล่องเดิมจากทางวัด อย่าลืมดูรายการอื่นๆนะครับ ^_^ กดที่ จ้า
วัดใจ 10บาท!! กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง สำริด วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 กล่องหรูเดิมๆ เลขสวยๆ อย่าลืมดูรายการอื่นๆนะครับ ^_^ กดที่ จ้า กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 กริ่ง หมายความว่ากระไร สมเด็จฯ (สมเด็จพระสังฆราชแพ ติสฺสเทว) เคยรับสั่งเสมอว่า คำว่า "กริ่ง" นี้ มาจากคำถามที่ว่า "กึ กุสโล" (กิง กุสะโล) คือเมื่อพระโยคาวจรบำเพ็ญสมณธรรมมีจิตผ่านกุศลธรรมทั้งปวงเป็นลำดับไป แล้ว ถึงขั้นสุดท้ายจิตเสวยอุเบกขาเวทนา ปุญญาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายดี ได้แก่ กุศลเจตนา) เปลี่ยนเป็น อเนญชา (สภาพที่ปรุงแต่งภพอันมั่นคง ไม่หวั่นไหว ได้แก่ ภาวะจิตที่มั่นคงแน่วแน่ด้วยสมาธิแห่งจตุตถฌาน คือ ฌานที่ 4) เป็นเหตุให้พระโยคาวจรเอะใจขึ้นว่า "กึ กุสโล" นี้เป็นกุศลอะไรเพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้น แปลกประหลาดไม่เหมือนกับกุศลอื่นที่ผ่านมาดังนั้น คำว่า "กึ กุสโล" จึงเป็นชื่อของ อเนญชา คือ "นิพพุติ" แปลว่า "ดับสนิท" คือ หมายถึงพระนิพพาน นั่นเอง" พระกริ่งนั้นเป็นพระเครื่องที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก เมื่อครั้งที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ผู้เป็นหนึ่งในตำรับการสร้างพระกริ่งเมืองสยาม เคยประสบถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระกริ่งนี้ กล่าวคือ เมื่อครั้งที่ยังเป็นที่พระศรีสัมโพธิ สมเด็จพระวันรัต(แดง) สมเด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ยังมีชีวิตอยู่ และได้อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งยังเป็นกรมหมื่นเสด็จมาเยี่ยม เมื่อรับสั่งถามถึงอาการของโรคเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว รับสั่งว่าเคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯ เสด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ พระองค์จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่ตามเสด็จไปนำพระกริ่งที่วัดบวรนิเวศฯ แต่ สมเด็จพระวันรัต(แดง) ทูลว่า พระกริ่งที่กุฏิมี สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ จึงรับสั่งให้นำมาแล้วอาราธนาพระกริ่งชาน้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วนำไปถวายสมเด็จพระวันรัต (แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์แล้วโรคอหิวาตก โรคก็บรรเทาหายเป็นปกติ จากนั้นเป็นต้นมา สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทวมหาเถร) จึงศึกษาตำรับตำราการสร้างพระกริ่งอย่างจริงจัง และนับว่าสายสำนักวัดสุทัศนเทพวรารามเป็น"เอกอุ" ในตำรับการสร้างพระกริ่งที่นับเนื่องสืบทอดมาแต่ครั้ง สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทวมหาเถร) สืบสายต่อยัง พระราชมงคลมุนี(สนธ์ ยติธโร) ที่รู้จักกันในนาม "เจ้าคุณศรี(สนธิ์)" และผ่องถ่ายตำรับตำราการสร้างมายัง พระศรีสัจจญาณมุนี (ประหยัด) สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ) วัดสุวรรณาราม ศิษย์รูปสุดท้ายของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) มอบจีวรและเส้นเกศาแด่พระครูพิมลสรภาณ พระกริ่งที่จัดสร้างโดยวัดสุทัศนเทพวราราม ล้วนเป็นที่หมายปองของนัก สะสมพระกริ่งเป็นอย่างมาก พระกริ่งที่นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งได้จัดสร้างขึ้นเพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญวัด พระเครื่องที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเครื่องสำหรับทำน้ำมนต์โดยเฉพาะเป็น "พระหมอ" สำหรับรักษาโรคภัยไข้เจ็บอันลือลั่นในประวัติความเป็นมาแต่อดีต "พระกริ่งอายุ วรรณโน สุขะ พลัง" ความพิเศษของพระกริ่งรุ่นนี้ นอกจากโลหะศักดิ์สิทธิ์แล้ว พระกริ่งรุ่นนี้ยังมีเกศาของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ สุวฑฺฒโน) แห่งวัดสุวรรณาราม และจีวรของท่านซึ่งได้มอบให้แก่พระครูพิมลสรภาณ เพื่อนำไปบรรจุอยู่ใต้ฐานพระกริ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลแด่ผู้บูชาพระกริ่งนี้เนื่องเพราะสมเด็จพระพุทธ โฆษาจารย์นับว่าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีอายุกาลสูงถึง 102 ปี สมกับนามแห่งพระกริ่งองค์นี้ว่า "พระกริ่งอายุ วรรณโน สุขะ พลัง" ที่สำคัญยิ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์องค์นี้ เป็น"ศิษย์" สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) รูปเดียวที่ยังคงมีชีวิตอยู่ กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง สำริด วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 ความสูงประมาณ 4.0 ซม. ตอกโค๊ต และตอกหมายเลขกำกับใต้ฐาน สภาพสวยมาก ไม่ผ่านการใช้ ผิวเดิมๆ บูชาพร้อมกล่องเดิมจากทางวัด
วัดใจ 10บาท!! กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง เงินยวง วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 กล่องหรูเดิมๆ เลขสวยๆ อย่าลืมดูรายการอื่นๆนะครับ ^_^ กดที่ จ้า กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 กริ่ง หมายความว่ากระไร สมเด็จฯ (สมเด็จพระสังฆราชแพ ติสฺสเทว) เคยรับสั่งเสมอว่า คำว่า "กริ่ง" นี้ มาจากคำถามที่ว่า "กึ กุสโล" (กิง กุสะโล) คือเมื่อพระโยคาวจรบำเพ็ญสมณธรรมมีจิตผ่านกุศลธรรมทั้งปวงเป็นลำดับไป แล้ว ถึงขั้นสุดท้ายจิตเสวยอุเบกขาเวทนา ปุญญาภิสังขาร (สภาพที่ปรุงแต่งกรรมฝ่ายดี ได้แก่ กุศลเจตนา) เปลี่ยนเป็น อเนญชา (สภาพที่ปรุงแต่งภพอันมั่นคง ไม่หวั่นไหว ได้แก่ ภาวะจิตที่มั่นคงแน่วแน่ด้วยสมาธิแห่งจตุตถฌาน คือ ฌานที่ 4) เป็นเหตุให้พระโยคาวจรเอะใจขึ้นว่า "กึ กุสโล" นี้เป็นกุศลอะไรเพราะเป็นธรรมที่เกิดขึ้น แปลกประหลาดไม่เหมือนกับกุศลอื่นที่ผ่านมาดังนั้น คำว่า "กึ กุสโล" จึงเป็นชื่อของ อเนญชา คือ "นิพพุติ" แปลว่า "ดับสนิท" คือ หมายถึงพระนิพพาน นั่นเอง" พระกริ่งนั้นเป็นพระเครื่องที่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก เมื่อครั้งที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) แห่งวัดสุทัศนเทพวราราม ผู้เป็นหนึ่งในตำรับการสร้างพระกริ่งเมืองสยาม เคยประสบถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระกริ่งนี้ กล่าวคือ เมื่อครั้งที่ยังเป็นที่พระศรีสัมโพธิ สมเด็จพระวันรัต(แดง) สมเด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ยังมีชีวิตอยู่ และได้อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งยังเป็นกรมหมื่นเสด็จมาเยี่ยม เมื่อรับสั่งถามถึงอาการของโรคเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว รับสั่งว่าเคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯ เสด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ พระองค์จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่ตามเสด็จไปนำพระกริ่งที่วัดบวรนิเวศฯ แต่ สมเด็จพระวันรัต(แดง) ทูลว่า พระกริ่งที่กุฏิมี สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ จึงรับสั่งให้นำมาแล้วอาราธนาพระกริ่งชาน้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วนำไปถวายสมเด็จพระวันรัต (แดง) เมื่อท่านฉันน้ำพระพุทธมนต์แล้วโรคอหิวาตก โรคก็บรรเทาหายเป็นปกติ จากนั้นเป็นต้นมา สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทวมหาเถร) จึงศึกษาตำรับตำราการสร้างพระกริ่งอย่างจริงจัง และนับว่าสายสำนักวัดสุทัศนเทพวรารามเป็น"เอกอุ" ในตำรับการสร้างพระกริ่งที่นับเนื่องสืบทอดมาแต่ครั้ง สมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทวมหาเถร) สืบสายต่อยัง พระราชมงคลมุนี(สนธ์ ยติธโร) ที่รู้จักกันในนาม "เจ้าคุณศรี(สนธิ์)" และผ่องถ่ายตำรับตำราการสร้างมายัง พระศรีสัจจญาณมุนี (ประหยัด) สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ) วัดสุวรรณาราม ศิษย์รูปสุดท้ายของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) มอบจีวรและเส้นเกศาแด่พระครูพิมลสรภาณ พระกริ่งที่จัดสร้างโดยวัดสุทัศนเทพวราราม ล้วนเป็นที่หมายปองของนัก สะสมพระกริ่งเป็นอย่างมาก พระกริ่งที่นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งได้จัดสร้างขึ้นเพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญวัด พระเครื่องที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเครื่องสำหรับทำน้ำมนต์โดยเฉพาะเป็น "พระหมอ" สำหรับรักษาโรคภัยไข้เจ็บอันลือลั่นในประวัติความเป็นมาแต่อดีต "พระกริ่งอายุ วรรณโน สุขะ พลัง" ความพิเศษของพระกริ่งรุ่นนี้ นอกจากโลหะศักดิ์สิทธิ์แล้ว พระกริ่งรุ่นนี้ยังมีเกศาของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ สุวฑฺฒโน) แห่งวัดสุวรรณาราม และจีวรของท่านซึ่งได้มอบให้แก่พระครูพิมลสรภาณ เพื่อนำไปบรรจุอยู่ใต้ฐานพระกริ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลแด่ผู้บูชาพระกริ่งนี้เนื่องเพราะสมเด็จพระพุทธ โฆษาจารย์นับว่าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีอายุกาลสูงถึง 102 ปี สมกับนามแห่งพระกริ่งองค์นี้ว่า "พระกริ่งอายุ วรรณโน สุขะ พลัง" ที่สำคัญยิ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์องค์นี้ เป็น"ศิษย์" สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) รูปเดียวที่ยังคงมีชีวิตอยู่ กริ่งอายุ วรรโณ สุขัง พลัง เงินยวง วัดสุทัศน์เทพวราราม พ.ศ.2551 ความสูงประมาณ 4.0 ซม. ตอกโค๊ต และตอกหมายเลขกำกับใต้ฐาน สภาพสวยมาก ไม่ผ่านการใช้ ผิวเดิมๆ บูชาพร้อมกล่องเดิมจากทางวัด