taz thasao

ข้อมูลสมาชิก – taz thasao

เริ่มเป็นสมาชิก: May 28, 2013 04:46:30 , สถานะ: ปกติ , ตั้งประมูล: 0 รายการ , รายการที่ยังไม่ปิด: 0 รายการ , คำชม: 354 รายการ , คำติ: 0 รายการ

ประวัติ Feedback

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/กระดานวัดดวง/5377535


*** เคาะเดียว ทุกรายการ *** ผู้ชนะประมูล : หลังจากชำระเงินแล้ว กรุณาแจ้งการชำระเงิน ผ่าน Mail Box ด้วยค่ะ เพื่อความสะดวกและความรวดเร็วในการจัดส่ง การจัดส่งสินค้า :  ราคาสินค้ารวมไม่เกิน 500 บาท จัดส่งแบบลงทะเบียน (หากต้องการให้จัดส่งแบบ EMS บวกเพิ่ม 20 บาท) และ ราคา 500 บาทขึ้นไปจัดส่งแบบ EMS ท่านสามารถสั่งซื้อหลายรายการแล้วรวมชำระในคราวเดียวได้ค่ะ มีสินค้ารายการอื่นให้เลือกมากมายค่ะ Click  เพื่อชมสินค้ารายการอื่น                          %%%%%%% ขอบคุณที่ใช้บริการ %%%%%%%


เขียนโดย :maxi เจ้าของรายการ June 10, 2015 01:35:30

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/กระดานวัดดวง/5367930


สมเด็จเขาตะเครา สะดุ้งกลับ   >> สีอาจมีผิดเพี้ยนจากองค์จริงไปบ้าง อันอาจเกิดจากการปรับแสงเพื่อให้เห็นเนื้อหาที่ชัดเจนขึ้น << >> ถ่ายรูปเองจากองค์จริงครับ <<


เขียนโดย :ต้นข้าวต้นน้ำ เจ้าของรายการ June 09, 2015 06:10:43

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระสมเด็จทั่วไป/5349605


ประวัติการจัดสร้างพระสมเด็จวัดเขาตะเครานี้พระอาจารย์สำราญท่านเริ่มสร้างประมาณปี13 โดยมวลสารหลักคือพระสมเด็จวัดระฆังที่หักๆซึ่งยุคนั้นท่านได้รวบรวมมาได้มากพอสมควรจึงได้เริ่มต้นสร้างพระชุดแรกขึ้นแต่ด้วยส่วนผสมมวลสารที่ยังไม่ค่อยลงตัวพระยุคแรกจึงมีลักษณะเนื้อที่เปราะๆเป็นชั้นๆเสร็จแล้วท่านก็ดำเนินการแจกไปจนหมดแต่หลังจากผู้ที่ได้นำติดตัวบูชาได้เกิดประสบณ์การต่างๆทั้งเมตตาค้าขายดีแคล้วคลาดจากภัยต่างๆแถมเรื่องเหนียวก็เป็นที่กล่าวขานในหมู่นักเลงมือปืนเมืองเพชรยุคนั้นจึงเกิดการเช่าหาบูชากันหลังจากนั้นมาอีกประมาณปี16พระอาจารย์สำราญท่านจึงดำริที่จะสร้างพระสมเด็จวัดเขาตะเคราขึ้นอีกครั้งโดยมวลสารหลักก็คือพระสมเด็จวัดระฆังที่หักๆที่พอมีเหลืออยู่มากพอสมควรแต่จากประสบการณ์ที่ท่านได้สร้างพระยุคแรกมาแล้วนั้นท่านจึงได้เพิ่มส่วนผสมที่ทำให้เนื้อพระเหนียวหนึบขึ้นแต่นุ่มนวลตาด้วยเม็ดแดงเม็ดขาวที่มีอยู่เดิมในพระสมเด็จวัดระฆัง..พระชุดปี16 นี้ พระอาจารย์สำราญท่านยังเพิ่มพิมพ์ต่างๆขึ้นอีก เช่นพิมพ์สามพี่น้อง(พิมพ์ผ่านไถ),พิมพ์สมาธิ,พิมพ์นางพญาฯลฯและก็พิมพ์สดุงกลับมีทั้งขอบเดียวและสองขอบ(พิมพ์สองขอบส่วนมากท่านจะแจกเฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นซึ่งจำนวนโดยประมาณไม่หน้าจะเกินสองพันกว่าองค์).........ข้อมูลพอหอมปากหอมคอนะครับ สำหรับองค์ที่ลงประมูลเป็นพิมพ์สะดุ้งกลับสองขอบ(นิยมสุด) ปล.แต่หน้าเสียดายที่พระองค์นี้ชำรุดหักกลางแต่เนื้อเดิมอยู่ครบแค่นำมาติดกลับอย่างเดิม...แต่ถ้านำไปซ่อมกับผู้ชำนาญจะทำให้พระองค์นี้สวยงามสุดๆครับ  เอาเป็นว่าใครชอบพุทธคุณนำไปบูชาได้เหมือนเดิมครับ!!ไม่รู้จะเปิดราคาอย่างไรดีก็เลยเอาเป็นว่าท่านที่ชื่นชอบจะเอาราคาใหนตามใจท่านล่ะกันครับ!!(ถ้าไม่หักองค์นี้สภาพนี้ต้องมีสามพันอัพๆครับ)...............


เขียนโดย :แร๊กเก้ เจ้าของรายการ June 01, 2015 17:16:26

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/เบ็ดเตล็ดพระเครื่อง/5282029


(((วัดใจเคาะเดียวแดง)))สร้อยประคำทำจากไม้แก่นมะขามกลึงเป็นเม็ดประคำเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 ม.ม.ความยาว 38 นิ้ว จำนวน108 เม็ด เหมาะสำหรับใช้สวดมนต์และฝึกสมาธิ คุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาดเมตตามหาเสน่ห์ ลูกประคำมีลักษณะเป็นลูกกลมๆร้อยด้วยเชือกอย่างดี ถือเป็นเครื่องรางใช้สำหรับกำหนดคาบการภาวนาในการฝึกจิต หรือร่ายพระเวทอาคมให้เกิดพลังอำนาจเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งที่นิยมคล้องคอเพื่อคุ้มครองป้องกันภัย และเมตตา ***เป็นเครื่องยึดจิตใจให้เข้าสู่ภาวนาเพื่อฝึกจิตสมาธิให้แข็งและอดทนต่อ การรบกวนแห่งภัยกิเลสทั้งปวงมิให้เข้ามาใกล้ตัวตน *** “แก่นมะขาม”บูรพาจารย์ท่านจัดให้อยู่ในจำพวกของทนสิทธิ์ชนิดหนึ่ง เป็นของดีวิเศษในตัวเองที่หาได้ยากยิ่ง  ***  รับประกันความพอใจผู้ชนะการประมูล ดังนี้ - รับประกันคืนเงินเต็มจำนวน ***ดูให้ชอบใจก่อนนะครับ รับประกันตามกฎเหมือนเดิม ขอบคุณครับ


เขียนโดย :punnarai เจ้าของรายการ May 17, 2015 01:34:15

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/เครื่องราง-ล็อกเก็ต/5247019


ราหูหลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร สิงห์บุรี เนื้อว่าน ราหูของท่าน พทธคุณกลับร้ายกลายเป็นดี เจริญรุ่่งเรือง องค์นี้เจ้าของเดิมติดกาวฟองน้ำที่ด้านหลังแล้วติดไว้ในรถ เลยโดยมดเจาะเอาเนื้อเป็นรู ๆ หลายแห่ง แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ


เขียนโดย :r.thong เจ้าของรายการ May 08, 2015 12:58:51

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/เครื่องราง-ล็อกเก็ต/5226737


(D) หลวงพ่อฉาบ มงฺคโล แห่ง วัดศรีสาคร วัดศรีสาคร จ.สิงห์บุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2481 บริเวณวัดมีเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ รวมทั้งโรงเรียนโดยประมาณ 40 ไร่ มีเจ้าอาวาสที่ปกครองวัดมาแล้ว 10 รูป รูปที่1 หลวงพ่อศรี รูปที่2 หลวงพ่อสา (เป็นน้องชายหลวงพ่อศรี) รูปที่3 หลวงพ่อสน รูปที่4 หลวงพ่อเพชร รูปที่5 หลวงพ่อปั้น รูปที่6 หลวงพ่อสว่าง รูปที่7 หลวงพ่อเกิด รูปที่8 หลวงพ่อเชื้อ รูปที่9 พระอาจารย์ดี รูป ที่10 พระครูมงฺคลนวการ (หลวงพ่อฉาบ มงฺคโล) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีประพฤติชอบมีชื่อเสียงโด่งดัง มีปฏิปทาเป็นที่เลื่อมใสและศรัทธามากยิ่งของชาวจังหวัดสิงห์บุรี และชาวพุทธในจังหวัดใกล้เคียงอีกจำนวนมาก ด้านวัตถุมงคลของหลวงพ่อฉาบ มงฺคโล ทุกรุ่นมีประสบการณ์ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังเป็นที่ยอมรับโดยเฉพาะเหรียญรุ่น1 ปีพ.ศ.2514 มีค่านิยมเล่นหาประมาณ 15,000 บาท ต่างกล่าวขานกันว่าท่านบรรลุญาณสมาบัติชั้นสูง หูทิพย์ตาทิพย์ ได้อภิญญา6 ถอดกายทิพย์ ไปบิณฑบาตรต่างแดนในสถานที่ต่าง ๆ มีผู้พบเห็นเดินข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาข้ามไปบิณฑบาตรอีกฝั่งตรงข้าม เข้าไปในห้องที่ปิดประตูทึบโดยสำเร็จวิชาแปลงธาตุ เช่นทึบให้เป็นอากาศธาตุ น้ำให้เป็นดิน ลมให้เป็นไฟเป็นต้น เมื่อเป็นที่โจกขานเล่าลือกันอย่างหนาหู  ชีวประวัติพระครูมงคลนวการ (หลวงพ่อฉาบ มงฺคโล)ชาติภูมิหลวงพ่อฉาบ มงฺคโล มีนามเดิมว่า ฉาบ ด้วงดาราถือกำเนิดวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2471 เป็นบุตรคนโต ในจำนวนพี่น้อง 7 คนด้วยกันคือ 1.หลวงพ่อฉาบ 2.นายเอิบ 3.นายสังวาล 4.นายประสงค์ 5.นายถวิล 6.นายปุ่น 7.นางสมนึก ของโยมพ่อเน่า และโยมแม่สมบุญ ณ บ้านเลขที่ 27 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จบการศึกษาชั้นป.4 ที่โรงเรียนวัดศรีสาคร อาชีพทำนา หลวงพ่อ ฉาบ มงฺคโล ในวัยเด็กตอนยังเป็นฆาราวาส เป็นคนถือสัจจะเป็นใหญ่มีความตั้งใจพูดจริงทำจริงและสนใจในเวทย์มนต์คาถา มักชอบไปกราบนมัสการหาพระอยู่เสมอ ในปีพ.ศ.2485 หลวงพ่อแช่ม อินทโชโต แห่งวัดตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ท่านได้สร้างเหรียญรุ่นแรกของท่านขึ้น ได้แจกให้คณะศิษยานุศิษย์ ทายกทายิกาที่ร่วมทำบุญมาทำการทอดกฐินยังวัดศรีสาครและได้มาพำนักอยู่ที่วัด ศรีสาครเป็นเวลาถึง 6 เดือน เพราะท่านขอบพอสนิทกับหลวงพ่อดี เจ้าอาวาสวัดศรีสาครในสมัยนั้น หลวงพ่อฉาบ ในวัยเด็กขณะนั้นอายุได้ 14 ปี มีความศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่อแช่มมาก ได้มากราบนมัสการหลวงพ่อแช่มบ่อยครั้ง และได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์ขอเล่าเรียนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ ในลำดับแรกหลวงพ่อแช่มได้สอนให้เรียนรู้ทางด้านการปฏิบัติจิต สมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ให้จิตนิ่งเป็นสมาธิก่อน และหลังจากทำกรรมฐานและวิปัสสนาอยู่ 3 เดือน หลวงพ่อแช่ม ก็ได้สอนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ ให้ ในปีพ.ศ.2486 หลวงพ่อแช่ม ก็ได้กลับไปวัดตาก้อง หลังจากนั้นในปีพงศ.2488 หลวงพ่อแช่มได้มาพำนักที่วัดศรีสาครอีกครั้งหนึ่ง เป็นเวลา 25 วัน หลวงพ่อฉาบ ตอนนั้นอายุได้ 17 ปี ได้เข้าพบรับใข้และเล่าเรียนสอบถามวิชาไสยเวทย์พร้อมให้หลวงพ่อแช่มช่วย ทบทวนวิชาคาถาที่เล่าเรียนจนสามารถปฏิบัติได้ตามคำสอนอย่างดี แล้วหลวงพ่อแช่มก็เดินทางกลับวัดตาก้อง ต่อมาในปีพ.ศ.2490 หลวงพ่อแช่ม ท่านก็ได้ละสังขารมรณภาพลงในปีนั้น ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดศรีสาคร เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2491 โดยมีพระครูเกศิวิกรม (หลวงพ่อทรัพย์ ฐิตปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดสังฆราชาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ประทุม เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการฉ่ำ เจ้าอาวาสวัดตึกราชาวาสเป็นพระอนุสาวนาจารย์ อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วได้รับฉายาว่า มงฺคโล เมื่อได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วได้ตั้งจิตมั่นได้กล่าวคำสัจจะวาจาบอกกล่าว ต่อโยมบิดามารดาของท่านว่า เมื่อฉันได้บวชเรียนเป็นภิกษุแล้วจะขอรับใช้พระพุทธศาสนาตลอดชีวิต โยมพ่อและโยมแม่ก็ไม่ได้ทักทวงแต่ประการใด เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดศรีสาคร 2 พรรษา ได้เรียนพระธรรมวินัยไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและพุทธาคมจากหลวงพ่อทรัพย์ ฐิตปญฺโญ ซึ่งองค์นี้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อพูล (เจ้าอาวาสองค์ก่อน) วัดสังฆราชาวาส ซึ่งเป็นสหายธรรมของหลวงพ่อเชย วัดท่าควาย และหลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อพูล วัดสังฆราชาวาสเป็นเหรียญยอดนิยมของชาวเมืองสิงห์บุรีมีค่านิยมหลักหมื่น ถือว่าเป็นสุดยอดเหรียญที่ศักดิ์สิทธิ์และคงกระพัน หลังจากหลวงพ่อฉาบได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อทรัพย์แล้ว ก็ได้ปรึกษาหลวงพ่อทรัพย์ในการปฏิบัติกิจแห่งธุดงค์วัตร ก็ได้รับการแนะนำสั่งสอนอย่างดี ในปีพ.ศ.2493 โดยมุ่งสู่จังหวัดลพบุรีดินแดนซึ่งเคยเป็นอาณาจักร ลวปุระ (ละโว) อันรุ่งเรืองเกรียงไกรมาแล้ว หลวงพ่อฉาบได้เดินธุดงค์ไปยังถ้ำตะโก เพื่อจะไปหาความสงบวิเวก เมื่อถึงถ้ำตะโกมาทราบว่าหลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา ท่านได้ละสังขารมรณภาพไปแล้ว ก็ได้พบกับหลวงพ่อคง คงฺคปัญโญ เจ้าอาวาสวัดถ้ำตะโก ศิษย์เอกหลวงพ่อเภา ซึ่งได้รับสืบทอดวิชาวิปัสสนากรรมฐานและไสยเวทย์ต่าง ๆ จากหลวงพ่อเภาทั้งหมด หลวงพ่อฉาบจึงได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาต่าง ๆ ของหลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก จากหลวงพ่อคง คงฺคปัญโญ เจ้าอาวาสวัดถ้ำตะโกพุทธโสภา จากนั้นหลวงพ่อฉาบก็เดินทางมุ่งไปสู่วัดเขาสาริกา เพื่อจะไปศึกษาธรรมกรรมฐานจากหลวงพ่อกบ ก็ปรากฎว่าได้มรณภาพไปแล้วเช่นกัน จึงได้มาปฏิบัติธรรมที่วัดเขาวงกฎ วัดเขาวงกฎอยู่ติดกับวัดเขาสาริกาอยู่คนละฝางเขา ที่วัดเขาวงกฎแห่งนี้ตั้งอยู่ที่สนามแจง ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในวงล้อมของเขา เป็นลักษณะหุบเขาเปิด มีทางเข้าออกทางเดียว เมื่อปีพ.ศ.2465 หลวงพ่อเภา พุทธสโร วัดถ้ำตะโกธุดงค์มาพบสถานที่แห่งนี้เข้าเห็นว่าเหมาะแก่การอบรมสมถกรรมฐาน และเจริญวิปัสสนากรรมฐานมาก จึงได้ทำการก่อสร้างให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์แบบ มีถ้ำคูหาสวรรค์อยู่ที่เชิงเขาด้านทิศเหนือ ซึ่งหลวงพ่อเภาจะจำพรรษาและทำความเพียรในถ้ำคูหาสวรรค์แห่งนี้ ต่อมากรมพระนครสวรรค์ พระองค์เจ้าบริพัตรสุขุมพันธ์เสด็จมาที่เขาวงกฎได้พบหลวงพ่อเภา ทรงเลื่อมใสในปฏิปทาและแนวทางในการปฏิบัติของหลวงพ่อ จึงได้ถวายปัจจัยให้ก่อสร้างวัด หลวงพ่อเภาได้สร้างกุฏิขึ้นหน้าถ้ำคูหาสวรรค์ให้ชื่อว่า "ตึกบริพัตร" ตามนามของผู้บริจาค และหลวงพ่อเภาได้มาจำพรรษาที่กุฏินี้ตลอดมา หลังจากหลวงพ่อเภาได้มรณภาพในปีพ.ศ.2474 ที่วัดแห่งนี้ในปีหนึ่งจะมีพระสงฆ์มาจากวัดต่างๆ ทุกภูมิภาคมาปฏิบัติธรรมที่วัดเขาวงกฎแห่งนี้ หลวงพ่อฉาบได้มาปฏิบัติธรรมได้พบกับ พระมหาชวน มลิพันธ์ (หลวงพ่อโอภาสี) หลวงพ่อฉาบได้พบหลวงพ่อโอภาสี เล่าเรื่องมีความศรัทธาหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา แต่มารู้ภายหลังว่าท่านได้มรณภาพไปแล้วด้วยความตั้งใจมุ่งหวังจะศึกษาวิชา ต่าง ๆ จากท่าน ก็ได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อโอภาสี ซึ่งเป็นศิษย์ที่รับการถ่ายทอดวิชามาหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา หลวงพ่อฉาบจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อโอภาสี ขอศึกษาวิชากสิณต่าง ๆ และไสยเวทย์ หลวงพ่อโอภาสีได้ฝึกสอนวิชาต่าง ๆ ให้เช่นกสิณไฟ และคาถาอาคมต่างๆ ให้หลวงพ่อฉาบจำนวนมากและยังได้ชักชวนนิมนต์ให้หลวงพ่อฉาบเดินทางไปพบท่าน ที่อาศมบางมดกรุงเทพฯ ในครั้งนั้นที่วัดเขาวงกฎหลวงพ่อฉาบยังได้พบปะรู้จักเป็นสหายธรรมกับหลวงพ่อ ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดเขาวงกฎแห่งนี้ด้วย ได้ปฏิบัติธรรมร่วมกันได้ขอศึกษาแลกเปลี่ยนวิชาไสยเวทย์ต่าง ๆ กับหลวงพ่อชา สุภัทโท  หลวงพ่อชาเกิดปีพ.ศ.2471 ปีเดียวกับหลวงพ่อฉาบ มงฺคโล หลวงพ่อชาท่านได้ละสังขารไปแล้วเมื่อปีพ.ศ.2536 ร่วมสิริอายุได้ 65 ปี หลวงพ่อฉาบอยู่ปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 45 วัน ก็ได้เดินทางกลับไปยังวัดถ้ำตะโกอีกครั้งหนึ่ง ได้พำนักอยู่ที่วัดถ้ำตะโกพบปะใกล้ชิดกับหลวงพ่อคงอีกครั้งก็มาศึกษาพบว่า ที่วัดถ้ำตะโกแห่งนี้อยู่ในบริเวณดอยเขาเทือกเขาเดียวกับวัดต่าง ๆ อีกถึง 3 วัดรวมดอยนี้มีวัดถึง 4 วัดคือ วัดเขาสมอคอน วัดถ้ำช้างเผือก วัดถ้ำตะโก และวัดบันไดสามแสน ในอดีตตั้งแต่ยุคสมัยทวาราวดีเป็นต้นมา ดอยเทือกเขานี้มีความสำคัญมากมีถ้ำใหญ่น้อยเป็นร้อย ๆ ถ้ำ เป็นที่อยู่ของผู้ทรงศีล สมณะ ฤาษี พราหมณ์ เป็นแห่งกำเนิดของวิชาไสยเวทย์มนต์คาถาแหล่งรวมวิชาไสยศาสตร์ เช่นวิชาขอมดำดิน ก็ก่อเกิดในที่แห่งนี้เป็นตรรกศิลาแห่งไสยศาสตร์และเวทย์มนต์ วัดเขาสมอคอนเป็นวัดอยู่ต้นดอย มีถ้ำพระนอนและที่พำนักของฤาษีสุกกะทันตะและ ถ้ำพราหมณี พ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยก็มาศึกษาที่แห่งนี้ นับว่าเป็นแหล่งรวมศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ หลวงพ่อฉาบ ก็ได้เดินทางมาที่วัดเขาสมอคอน เข้ากราบนมัสการฝากตัวขอเป็นศิษย์เล่าเรียนวิชาจากหลวงพ่อบุญมี อิสสรโร ศิษย์ผู้รับการสืบทอดวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อพระครูปัชฌาย์ก๋ง จฺนทสโร พระอุปัชฌาย์ก๋ง มีวิชาไสยเวทย์มากมายได้จากตำราเก่าอักขระยุคขอม ท่าน เก่งมากเหรียญรุ่นแรกของท่านชาวลพบุรีเล่นหากันหลักแสนจะขอย้อนกล่าวถึงความ เป็นมาของเทือกเขาสมอคอน ที่เป็นที่ตั้งของวัดเขาสมอคอนอยู่บนดอยสำคัญที่ได้กล่าวมาให้ทราบถึงความ เป็นมาดังนี้ เทือกเขาสมอคอนหรือเรียกดอยธัมมิกราช ดอยธัมมิกราชวิทยาลัยราชะแห่งยุวทวาราวดี ดอยธัมมิก สาเหตุที่มีชื่อเรียกอย่างนี้เนื่องมาจาก สุกกทันตฤาษี (สุทันตะฤาษี)ในหนังสือชินกาลมนีกล่าวว่าสุกกทันตฤาษีำพำนัก ณ ดอยธัมมิก(เขาสมอคอน) อยู่ทางทิศใต้ของกรุงหริภุญชัย (ลำพูน) ในสมัยพระเจ้าจักรวัตติราช แห่งกรุงละโว้ สุกกทันตฤาษี ในสมัยนั้นย่อมเป็นที่รู้จักต่อฝูงชนหมู่คณาจารย์ และบรรดากษัตริย์ต่าง ๆ ทั่วทุกแคว้น ดอยธัมมิกราช เป็นดอยที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเกี่ยวข้องกับกษัตริย์ในสมัยทวาราวดี เพราะทั้งภาษาหนังสือและความหมายเป็นภาษาชั้นสูงของผู้คงแก่เรียนที่ได้รู้ ในทางพระพุทธศาสนาอย่างมาก จึงสถาปนายอดดอยแห่งนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของบรรดาฤาษีและผู้มีบุญหนัก ศักดิ์ใหญ่หรืออีกนัยหนึ่งว่าเจ้ากรุงละโว้ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก พระพุทธศาสนา จนได้สมญาพระนามว่าพระเจ้าธัมมิกราช ความสำคัญของดอยธัมมิกราช เขาสมอคอนได้สมญานามว่าวิทยาลัยแห่งราชา ยุคทวาราวดียอมเป็นที่แน่นอนที่สุดที่บรรดาพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงดัง เรื่องไสยเวทย์เข้มขลังเป็นที่ยอมรับในสมัยเก่าก่อนมากกว่า 150 ปีขึ้นไปนั้นส่วนใหญ่จะได้รับการสืบทอดเผยแพร่วิชาไสยเวทย์ มาจากแหล่งกำเนิดวิชาจากดอยธัมมิกราชแห่งนี้ทั้งสิ้น  หลวงพ่อฉาบ ได้เข้าจากธุดงค์ครั้งที่ 2 แล้ว ก็อยู่แต่ภายในวัดศรีสาครไม่ได้เดินทางไปไหนอีกเลยท่านปิดกุฏิเป็นเวลานาน มุ่งบำเพ็ญกรรมฐานและสมาธิวิปัสสนากรรมฐานอยู่เป็นเวลาหลาย 10 ปี ในแต่ละวันจะเปิดกุฎิรับญาติโยมและพุทธศาสนิกชนเพียงบางเวลาเท่านั้นท่านไม่ มีโทรทัศน์, วิทยุปิดกุฎิไม่รับรู้เรื่องภายนอกแต่ท่านก็รอบรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ดี ท่านจะเน้นเรื่องกรรมบางครั้งสิ่งที่เป็นกรรมเหตุจะเกิดก็ไม่อาจเลี่ยงได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมคุณสุนทร คนที่ดูแลหลวงพ่อคุยให้ฟังว่าหลวงพ่อจะพูดถึงหลวงพ่อชา สุภัทโท อยู่เสมอ เหมือนท่านได้นั่งสมาธิส่งกระแสจิตถึงกันเหมือนติดต่อกันทางจิตในวันที่หลวง พ่อชาได้ละสังขารลง หลวงพ่อฉาบได้รีบเดินทางล่วงหน้าไปยังวัดหนองป่าพงและหลวงพ่อฉาบได้ไปร่วมใน งานพระราชทานเพลิงศพในครั้งนั้นด้วยหลวงพ่อฉาบได้ศึกษาไสยเวทย์และคาถาต่าง ๆ จากพระเกจิอาจารย์และพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงจำนวนมากอีกทั้งท่านได้ ปฏิบัติดีและประพฤติชอบตามพระธรรมวินัยคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมเป็นที่ยอมรับนับถือของชาวพุทธและชาวจังหวัดสิงห์บุรีอีกทั้งจังหวัด ใกล้เคียงอีกจำนวนมาก 


เขียนโดย :KKR เจ้าของรายการ April 30, 2015 12:49:50

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/เครื่องราง-ล็อกเก็ต/5239179


แหวนปลอกมีดชินบัญชร เนื้อปรอท  หลวงปู่ละมัย(ลมัย) ฐิตมโน สหธรรมิก หลวงปู่หมุน สภาพใช้มาบ้างแล้ว แหวนปลอกมีดชินบัญชร เนื้อปรอทกายสิทธิ์ พิธี เสาร์ ๕ รวยทันตา ( อจิณตรัย ) หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน พระเหนือโลก อายุพรรษามากกว่า 100 ปี หลวงปู่ท่านสำเร็จวิชาปรอท ไม่มีใครเสมอเหมือน พิธีเสก รุ่น เสาร์ ๕ อจิณตรัย รวยทันตา วัดเวฬุวัน จ.ศรีสะเกษ วัตถุประสงค์ เพื่อจัดสร้างพระประธาน หน้าตัก 59 นิ้ว วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว วัตถุประสงค์ เพื่อจัดสร้างมหาวิหาร หลวงพ่อสัมฤทธิ์ผลองค์ใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว ๒๕ เม.ย ๕๔ โดย (๑.)หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน จ.เพชรบูรณ์ ** ละสังขารแล้ว ** (๒.)หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโต จ.อุบลฯ .... (๓.)หลวงปู่สิงโต จ.เชียงใหม่ ** ละสังขารแล้ว ** (๔.)หลวงปู่หมี ปณฺญาธโร จ.อุบลฯ (๕.)หลวงปู่ถวิล เขมโก จ.ศรีสะเกษ (๖.)หลวงปู่สำราญ อนุตฺตโร จ.สระแก้ว (๗.)หลวงปู่พระครูศิลาพิมณฑ์ จ.พิษณุโลก (๘.)พระอาจารย์จ่อย สิริคุตฺโต (๙.)พระอาจารย์ขวัญเมือง จ.สระแก้ว @ เนื่องจากมียอดปิดประมูลซ้ำกันหลายรายการ หากผู้ชนะการประมูลโอนเงินแล้ว กรุณาแจ้งทาง Mailbox ด้วยนะครับ @ กรณีผู้ชนะประมูลต้องการเปลี่ยนที่อยู่ในการจัดส่ง รบกวนแจ้งให้ทราบทาง Mailbox หลังปิดประมูล และก่อนการโอนเงินนะครับ


เขียนโดย :superxman เจ้าของรายการ April 27, 2015 13:24:33


เหรียญพระศรีอริยเมตรัย เนื้อทองแดงชุบนิเเกิ้ล หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอนร่วมเสก ปี 2510 รับประกันตามกฎ ส่งพระองค์ตามภาพ


เขียนโดย :soonthorn เจ้าของรายการ April 27, 2015 09:37:49

อ้างอิงถึงรายการ : /auction/พระเนื้อผง-เนื้อว่าน/4983663


อีก 1 คำชมสำหรับสมาชิกคุณภาพครับ


เขียนโดย :มัดหมี่ เจ้าของรายการ February 24, 2015 01:06:43


RI792032540TH จัดส่งเรียบร้อย ขอบพระคุณมากครับ


เขียนโดย :KKR เจ้าของรายการ February 06, 2015 09:53:07

หน้าที่ :  4