เขี้ยวเสือแกะ หลวงพ่อเรือน วัดบางเหี้ย(คลองด่าน) ปี 2440 - 2453 เต็มเขี้ยว เนื้อกระดูก
หลวงพ่อเรือน ผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางเหี้ย ต่อจากหลวงพ่อปาน ผู้เป็นสหายสนิทร่วมธุดงค์ และดั้นด้นไปเรียนวิชาจากหลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี โดยศึกษาด้านวิปัสนาธุระ ไสยเวทย์มนต์ต่าง ๆจนเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะวิชาเสือแกะที่สร้างชื่อเสียงให้หลวงพ่อปานเป็นอย่างยิ่ง ส่วนหลวงพ่อเรือนได้เลือกศึกษาวิชาด้านเมตตามหานิยม และมหาอุต เมื่อสำเร็จแล้วได้เดินทางกลับมาร่วมพำนักวัดบางเหี้ย(คลองด่าน) ตามเดิม
โดยหลวงพ่อปานเป็นเจ้าอาวาส และหลวงพ่อเรือน เป็นรองเจ้าอาวาส แต่กระนั้นทั้งสองรูปต่างได้แลกวิชากันอยู่เสมอ..ซึ่งหลวงพ่อเรือนก็ได้เรียนวิชาเสกเสือแกะจากหลวงพ่อปาน อีกที..ดังนั้นหลวงพ่อเรือน จึงเป็นทั้งศิษย์ของหลวงพ่อแตง และยังเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของหลวงพ่อปาน อีกด้วย ซึ่งเมื่อหลวงพ่อปาน เสกเสือ ท่านก็มักต้องเชิญหลวงพ่อเรือนร่วมพิธีด้วยเสมอ จนหลวงพ่อเรือน เห็นว่าเพื่อไม่ให้เป็นการสับสนหรือทับรอยกัน ขณะที่หลวงพ่อปาน สร้างเสือด้วยเขี้ยวเสือ หลวงพ่อเรือน ก็จะสร้างเสือด้วย กระดูกเสือ ซึ่งก็โด่งดัง และเป็นที่นิยมไม่แพ้เขี้ยวเสือแกะของหลวงพ่อปาน เพราะนอกจากเสือหลวงพ่อเรือน จะเสกเป็นมหาอำนาจตามวิชาที่ได้รับจากหลวงพ่อปาน กลับยังเป็นที่กล่าวขานถึงเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ตามวิชาที่ท่านถนัดอีกด้วย
เมื่อปัจจุบันหาเขี้ยวเสือหลวงพ่อปานแท้ ๆไม่ได้ ก็อาจหาเสือหลวงพ่อเรือน มาใช้แทนกันได้ยิ่งเนื้อกระดูกฉ่ำ ๆได้อายุ ใช้แทนเสือหลวงพ่อปาน ตัวละเป็นล้านได้เนื่องจากเมื่อใดมีการปลุกเสกงานใดทั้งสองท่านจะปลุกเสกร่วมของกันและกันเสมอตามที่กล่าวมา พุทธคุณนั้นจึงมีคุณวิเศษทั้งทางเมตตา และมหาอำนาจ รวมถึงป้องกันสารพัด
ศิลป์แกะแบบเต็มเขี้ยวแบบนี้ปัจจุบันพบเห็นน้อยมากนะครับ