*** พระดี ปีลึก น่าสะสมครับ ***
***ยังมีพระแท้อีกหลายรายการ อย่าลืม คลิกที่รูป VIP นะครับ***
พระขรัวอีโต้ พระกรุวัดเลียบ กรุงเทพฯ
พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ
"พระรอดเมืองใต้" เป็นพระเครื่องเนื้อผงขนาดเล็ก
เท่ากับพระรอดเลยเรียกกันว่า พระรอดเมืองใต้ พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ วัดเลียบ
เป็นวัดเก่าแก่โบราณ มาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
รัชกาลที่ 1 โดยกรมหลวงเทพหริรักษ์
สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดราชบูรณะ"
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระ พุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ
ให้สร้างพระอุโบสถและพระวิหารขึ้นใหม่ จากนั้นในรัชกาลต่อๆ
มาก็โปรดให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างเสนาสนะต่างๆ ตลอดมา ณ วัดเลียบแห่งนี้มี
"พระกรุ"
ซึ่งนับได้ว่าเป็นที่นิยมสะสมในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชาอย่างกว้างขวาง
ซึ่งปัจจุบันหาดูหาเช่าของแท้จริงๆ ค่อนข้างยาก
เพราะเป็นพระกรุเก่าแก่และทรงพุทธคุณเป็นเลิศ
วัดเลียบ หรือวัดราชบูรณะ มีพระกรุที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมอยู่ด้วยกัน
2 กรุ คือ พระขรัวอีโต้ลอยน้ำและพระวัดเลียบ
ซึ่งมีประวัติความเป็นมา ดังนี้
พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "พระขรัวอีโต้"
แตกกรุมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 เมื่อคราวรื้อพระเจดีย์ทรงมอญทางทิศตะวันตกของพระอุโบสถเพื่อตัดถนนตรีเพชร
ปรากฏพระขรัวอีโต้ลอยน้ำจำนวนนับหลายหมื่นองค์พร้อมแผ่นทองแดงจารึกว่า
"สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครูกับนายทองด้วงมหาดเล็ก"
เป็นผู้สร้างพระเครื่องนี้
นาม
"พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ" มีประวัติเล่าสืบต่อกันมาว่า
"สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครูเป็นพระภิกษุในสมัยกรุงศรีอยุธยา
และเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาแตกแก่พม่าเมื่อปี พ.ศ.2310 ท่านได้ถูกพม่ากวาดต้อนไปเมืองพม่าพร้อมญาติพี่น้องเป็นเวลาหลายปี
ครั้นทราบว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชได้และตั้งกรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง
ท่านจึงชวนน้องสาวเดินทางกลับเมืองไทย
ระหว่างทางพอพลบค่ำก็เข้าไปนอนในกลดเดียวกันโดยเอามีดอีโต้ที่น้องสาวนำติดตัวมาเพียงเล่มเดียวคั่นกลางไว้
เช่นนี้เรื่อยมาจนถึงกรุงธนบุรี ท่านจึงถูกสอบสวน
ท่านเล่าความจริงให้ฟังพร้อมเสี่ยงทายว่าถ้าท่านบริสุทธิ์จริงขอให้มีดอีโต้เล่มที่คั่นกลางนี้เมื่อขว้างลงน้ำแล้วไม่จมน้ำ
ปรากฏว่าเมื่อท่านขว้างมีดอีโต้ลงน้ำ มีดเล่มนั้นลอยน้ำจริงๆ
เป็นที่อัศจรรย์ปรากฏแก่สายตาชาวบ้าน
จึงนำมาเรียกขานนามของพระเครื่องที่ท่านสร้างด้วยเหตุฉะนี้"
ต่อมาในช่วงสงครามอินโดจีนเมื่อปีพ.ศ.2483 พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ
ก็เป็นพระเครื่องหนึ่งในหลายๆ พิมพ์ซึ่งนำออกแจกจ่ายแก่ทหาร
ตำรวจผู้ออกสู้รบเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ปัจจุบันไม่มีเหลือที่วัดเลียบเลย
เพราะสูญหายไปหมดตั้งแต่คราวสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี
พ.ศ.2488 ซึ่งวัดถูกภัยทางอากาศทำลายเสียหายเป็นอันมาก
อีกกรุหนึ่งคือ "พระวัดเลียบ" แตกกรุหลังพระขรัวอีโต้ลอยน้ำ คือในปี
พ.ศ.2488 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ครั้งนั้นวัดราชบูรณะถูกภัยทางอากาศพังพินาศหมดโดยเฉพาะพระอุโบสถ
แต่เป็นปาฏิหาริย์ยิ่งนักที่ "พระเทพนิมิต"
ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก
ไม่ได้รับความเสียหายเลย จะมีก็เพียงฐานชุกชีที่เผยอขึ้นจนองค์พระเอนไปทางด้านหลังเท่านั้น
และที่ใต้ฐานชุกชีนี้เองปรากฏพระเครื่องบรรจุอยู่เต็ม
นอกจากพระที่ชาวบ้านทราบข่าวพากันเข้ามาเก็บไปเป็นจำนวนมากแล้ว
ทางวัดยังสามารถรวบรวมได้อีกถึง 2 กระสอบ ขนานนามว่า
"พระวัดเลียบ"
พระวัดเลียบ เป็นพระเนื้อชิน มีทั้งปิดทองและไม่ปิดทอง
ซึ่งถ้าพิจารณาตามหลักการพิจารณาพระเนื้อชินแล้ว จากการระเบิดแตกปริเป็นชั้นๆ
ของเนื้อองค์พระ สันนิษฐานว่าอายุการสร้างเก่าแก่เป็นร้อยปีทีเดียว
ประมาณการว่าน่าจะสร้างในคราวเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงสร้างพระอุโบสถ
และในการสร้างครั้งนั้นมีการสร้างมากมายหลายพิมพ์ทรง ทั้งประทับนั่ง ประทับยืน
อาทิ พิมพ์พระประธาน พิมพ์นาคปรก พิมพ์ห้ามญาติ พิมพ์ห้ามสมุทร พิมพ์ไสยาสน์
เป็นต้น
ต่อมาทางการได้ยุบวัดราชบูรณะเข้ารวมกับวัดสุทัศน์ซึ่งอยู่ใกล้เคียง
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โสม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ เมื่อครั้งเป็นพระธรรมดิลก
เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ และมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ใหม่
จึงได้นำพระวัดเลียบมาไว้ที่วัดสุทัศน์ด้วย จนเมื่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ มรณภาพ
และทางการได้ตั้งวัดราชบูรณะขึ้นใหม่
จึงย้ายพระวัดเลียบกลับมาไว้ที่วัดราชบูรณะดังเดิม แต่จำนวนที่เหลือมีน้อยมากครับผม
ซื้อจริง โอนไว จัดส่งเรียบร้อยแล้วครับ EI049009915TH ขอบคุณมากครับ
ท่านต้องเป็นสมาชิกที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วเท่านั้น