เหรียญไข่หันข้าง รุ่นไพรีพินาศ หลวงปู่พริ้ง วัดซับชมพู่ จ.เพชรบูรณ์ เนื้อทองแดงมันปู เลข ๙๕๐ พร้อมกล่องเดิม (1086)

*** พระดี ปีลึก น่าสะสมครับ รับประกันแท้ ตลอดชีพ ***
***ยังมีพระแท้อีกหลายรายการ อย่าลืมคลิกที่ VIP นะครับ***

ประวัติหลวงปู่พริ้ง วัดซับชมพู่

เหลือองค์เดียว!!! เหลือองค์เดียว หลวงปู่พ่อเฒ่าพริ้ง องค์นี้ บวชกับหลวงพ่อเดิม สึกกับหลวงพ่อทบ !!!

หลวงปู่พริ้ง หลวงปู่หลังเขา 1 เดียว องค์นี้ บวชกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ลาสึกกับหลวงพ่อทบ วัดชนแดน เลยได้วิชาจากยอดพระอภิญญาเอกมาเยอะหน่อย หลวงพ่อเดิม สั่งให้ช่วยคนตอนแก่ , หลวงพ่อทบ ให้วิชาเอก มาเป็นตัวแทนท่าน

หลวงปู่พ่อเฒ่าพริ้ง ฉายา เทวดาหลังเขา ปาริหารย์มีเยอะ ที่พึ่งของชาวบ้าน เดือนร้อนอะไร ไม่พ้นพ่อเฒ่าพริ้ง ฝนแล้ง ก็มาขอให้เรียกฝน , ไร่นา หนูเยอะ ก็มาขอให้ไล่หนู ,พืชไร่ ไม่ได้ผล ก็มาขอให้ช่วย สารพัด จะขอ ท่านก็ทำให้ได้สารพัดเหมือนกัน สมดังคำหลวงพ่อเดิม พูดฝากไว้ว่า

“..คุณพริ้ง ฉันบวชให้แล้วอย่าสึกนะ ถ้าจะสึก ก็ให้กลับมาบวชใหม่ ตอนมีแรง ให้ทำความเพียรไว้ให้มาก ๆ ท่านต้องช่วยคนตอนแก่นะ ข้างบนเขากำหนดไว้อย่างนั้น..”

หลวงพ่อพริ้ง พูดถึงหลวงพ่อเดิม ยอดพระอาจารย์เหนือหัวว่า .”ฉันเห็นกับตานะ หลวงพ่อเดิมท่านนี่ เอาเท้าจุ่มน้ำคราม วางบนกองผ้าขาวหลายพับหลายผืน ท่านหลับตาเอามือตบเข่าฉาดเดียว !!! ผ้าทุกผืน มีรอยเท้าท่านติดชัดหมด ยอมท่านเลยล่ะ”
“หลวงพ่อทบนี่ ฉันไปหาท่านตั้งแต่ท่านยังไม่ดัง ไม่มีคนรู้จัก ตอนตาท่านเสีย ท่านให้ตำหมากให้เป็นประจำ ท่านถามฉันว่า กล้ากินขี้หมากที่ท่านคลายออกจากปากไหม ฉันบอกกล้าซีคุณพ่อ ท่านหัวเราะชอบใจ คลายให้กินเดี๋ยวนั้น พอฉันกินหน้าตาเฉย ท่านบอกว่า “คุณรู้ไหม ชานหมากผมนี่ วิชาทั้งนั้นเลยนะ นอนภาวนามาทั้งคืน นึกอธิฐานเอาว่า จะให้ใครดีวิชานี้ ก็มาจำเพาะได้ที่คุณ กินขี้หมากผมให้ได้สัก 3 วัน 7 วัน ร่างจะเป็นทิพย์ จิตจะเป็นแก้ว เก่งไม่แพ้ใครแล้ว”

หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน เคยบอกกับอาจารย์ลอย ศิษย์เอกว่า “หากปู่ไม่อยู่แล้ว ให้ไปเป็นศิษย์เรียนกับ ตาเฒ่าพริ้งเขานะ เขามีบารมีมาก มีเทวดาเป็นพวกเยอะ วิชาอาคม เขาก็ได้สารพัด อีกหน่อย เพชรบูรณ์บ้านเรา ก็จะมีตาเฒ่าพริ้งนี้แหละ เป็นเสาหลัก”

ปาริหารย์ หลวงปู่พริ้ง เทวดากลางเขา มีมากมายเหลือเกิน เอาแบบ เล่ากันย่อ ๆ แบบเป็นน้ำจิ้ม ให้คนกรุงเทพ รู้จักกันซักหน่อยแบบพอเป็นพิธี ดังนี้

“เทวดาจ๋า ขอฝนหน่อยซิ ร้อนเหลือเกิน น้ำอาบจะหมดตุ่มแล้ว” ...ครั้งหนึ่ง แถวหนองไผ่ ชนแดน นาเชือก เกิดฝนทิ้งช่วง แล้ง ร้อน ไร่นา ขาดน้ำ พืชกล้า เริ่มยืนต้นตาย ศิษย์หลวงปู่พริ้ง เป็นชาวไร่ ได้แวะมากราบท่าน ทั้งบ่นเรื่องฝนแล้ง ไม่มีน้ำสูบเข้าไร่ ให้ท่านฟัง หลวงปู่พริ้งท่านก็นั่งฟังด้วยความเห็นใจ แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า “เออจริง ๆด้วยว๊ะ ฝนแล้ง แล้วก็ร้อนด้วย ลมก็ไม่พัดเลย เทวดาจ๋า ขอฝนหน่อยซิ น้ำอาบจะหมดตุ่มแล้ว พระเจ้าไม่มีน้ำอาบ น้ำฉันเลย” ตกกลางคืน คืนนั้นเอง เกิดลมพัดแรง เมฆฝนตั้งเค้าไม่นานฝนตกมากลางดึก ถึงเกือบตี 3 รุ่งเข้า ชาวไร่ ชาวนา หน้าบาน มีน้ำพอสูบเข้านาเข้าไร่ เรื่องนี้ มีคนไปกราบท่านตอนหลัง แล้วเรียนถามท่าน ว่า หลวงปู่เก่งจัง เรียกฝนให้ตกได้ด้วย ท่านตอบว่า กูจะไปเรียกฝนได้ไง กูไม่ใช่เทวดานิ ที่ฝนตกมานี่ สงสัยเทวดา สงสารพระแก่ จะไม่มีน้ำอาบละม้างนะ....

วัดซับชมภู่ ของท่านอยู่กลางทุ่ง กลางไร่ วันหนึ่งเด็กหนุ่มในหมู่บ้านออกรถปิคอัพป้ายแดงมาใหม่ ๆ ขับเร็ว เบิ้ลเครื่อง อวดรถ จนฝุ่นตลบ แบบไม่เกรงใจใครเลย แม้พระเจ้า หลวงปู่พริ้ง ท่านเห็นหลายครั้งแล้ว ท่านจึงออกปากว่า “ ไอ้นี่ขับรถไม่เกรงใจใครเขาเลย ขับแบบนี้ ไม่นานรถจะพังเอาน๊า” เรื่องนี้ฟังดูก็ไม่มีอะไร รถใหม่ป้ายแดง จะพังตามปากพระชรารูปนี้ได้อย่างไร แต่ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้น รถใหม่ป้ายแดง เกิดสตาร์ทไม่ติด เช็คไฟ เช็คน้ำมัน ทุกอย่างก็ปรกติดี ต้องโทรเรียกช่างจากในตัวอำเภอไปช่วยดูช่วยแก้ไขให้

หลวงปู่พริ้ง ท่านชอบเลี้ยงเด็ก มีเด็กลูกหลานชาวบ้าน ที่ยากจน ที่ท่านส่งเสียเลี้ยงดูให้การศึกษาอยู่นับได้ 30-40 คน ทุกคนโตใหญ่ มีอาชีพการงานที่มั่นคง เป็นคนดีของสังคมไปก็มาก ความข้อนี้ทราบถึงสมเด็จพระเทพรัตน ฯ ทรงโปรดให้หลวงปู่พริ้งเข้าเฝ้า และประทานพระราชทรัพย์ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก ๆ เหล่านี้ เรื่องเลี้ยงเด็กนี้ ก็มีปาริหารย์เหมือนกัน คือ ลูกหลานของท่านจะไปสอบ คนไหนไม่แน่ใจว่าจะสอบได้หรือไม่ หรือจะได้คะแนนดีหรือไม่ ท่านจะเสกเม็ดพริกไทให้กิน ปรากฏว่า สอบผ่านได้คะแนนดีกันทุกคน

พระอาจารย์ลอย ศิษย์เอกหลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน ได้เคารพยกครู หลวงปู่พริ้ง เป็นครูบาอาจารย์อีกรูปหนึ่งของท่าน จึงได้ขออนุญาติสร้างวัตถุมงคลให้หลวงปู่พริ้งปลุกเสก เป็นครั้งแรก

หลวงปู่พริ้ง ขนฺติพโล หรือ เทวดาหลังเขา เถราจารย์เกจิดังวัดซับชมพู่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ศิษย์พุทธาคมสายตรงหลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ และหลวงพ่อทบ ธมฺมปญฺโญ วัดช้างเผือก จ.เพชรบูรณ์ มรณภาพแล้ว ด้วยอาการอันสงบ ในวันเสาร์ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๘.๐๐ น. รวมสิริอายุ ๙๐ ปี